จ่อสอบคลินิกเสริมความงาม ไขปมสาวดับหลังศัลยกรรมหน้าท้อง

กรุงเทพฯ 11 มิ.ย. – กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เตรียมสอบเจ้าของคลินิกเสริมความงาม ย่านเตาปูน หลังญาติร้องทำสาวดับหลังรับบริการศัลยกรรมหน้าท้อง จ่อฟันโทษทั้งเรื่องมาตรฐาน และการฝ่าฝืนคำสั่งลักลอบให้บริการระหว่างการระบาดโควิด-19


จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อโซเชียลเกี่ยวกับหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งเข้ารับบริการศัลยกรรมหน้าท้องกับคลินิกแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2564 ซึ่งหญิงสาวรายดังกล่าวเกิดอาการหมดสติระหว่างการรับบริการศัลยกรรมจนต้องมีการส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมานั้น

วันนี้ (11 มิถุนายน 2564) นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า จากกรณีดังกล่าว กรม สบส.ได้สั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่กองกฎหมายลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ณ คลินิกดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ในย่านเตาปูน โดยจากการตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้นพบว่า คลินิกดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการและขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ให้บริการเสริมความงาม อาทิ ดูดไขมัน เสริมหน้าอก เสริมจมูก เสริมคาง ฯลฯ แต่เมื่อติดต่อไปยังผู้ประกอบกิจการ เพื่อเข้าตรวจสอบสถานที่ พบว่าไม่สามารถติดต่อได้ ดังนั้น พนักงานเจ้าหน้าที่ฯ จึงดำเนินการรวบรวมข้อมูลจากผู้เกี่ยวข้องในฝั่งผู้เสียชีวิต และระงับการโฆษณาที่ไม่ได้รับการอนุมัติของคลินิก ก่อนจะประสานให้ผู้ประกอบกิจการและแพทย์ผู้ดำเนินการสถานพยาบาล มาให้ถ้อยคำที่กรม สบส. ภายในสัปดาห์หน้า เพื่อให้เกิดความกระจ่างในสาเหตุการเสียชีวิต โดยจะมุ่งตรวจสอบในส่วนของมาตรฐานการให้บริการตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 และตัวผู้ให้บริการในวันที่เกิดเหตุว่าเป็นแพทย์จริง หรือปล่อยให้บุคคลอื่นมาสวมรอยให้บริการแทน จนเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต


ส่วนประเด็นที่คลินิกลักลอบให้บริการเสริมความงาม ในระหว่างที่กรุงเทพมหานคร มีคำสั่งกำหนดให้คลินิกเวชกรรมที่เสริมความงามปิดดำเนินการเป็นการชั่วคราว เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 นั้น พนักงานเจ้าหน้าที่ฯ จะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน ส่งให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ ดำเนินการฐานฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 25) ต่อไป

ด้านทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวต่อว่า การที่คลินิกนำบุคคลอื่นที่มิใช่แพทย์มาให้บริการนั้น นอกจากจะก่อให้เกิดอันตรายต่อตัวผู้รับบริการแล้ว ยังเป็นการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งมีโทษรุนแรงทั้งจำและปรับ โดยผู้ที่ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและรับอนุญาต จะถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ดำเนินการสถานพยาบาล ที่ปล่อยให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่เป็นผู้ประกอบวิชาชีพทำการประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล ก็จะถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อีกทั้งกรม สบส. อาจจะมีคำสั่งปิดคลินิกเป็นการชั่วคราวหรือถาวรอีกด้วย จึงขอเน้นย้ำให้ผู้ประกอบกิจการและผู้ดำเนินการสถานพยาบาลทุกราย ควบคุมดูแลการดำเนินการของสถานพยาบาลอย่างใกล้ชิด รวมถึงจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นหลักประกันให้ผู้รับบริการว่าจะได้รับบริการที่มีคุณภาพ มาตรฐาน ปลอดภัย และสมประโยชน์ตามที่หวัง ทั้งนี้ หากผู้ใดได้รับผลกระทบจากบริการทางการแพทย์จากโรงพยาบาลเอกชน หรือคลินิก สามารถแจ้งเบาะแสหรือร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรม สบส. 1426. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

เริ่มใช้เครื่องจักรหนักเปิดซากอาคาร สตง.ถล่ม

102 ชั่วโมงแล้ว สำหรับปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุอาคาร สตง.ถล่ม หน่วยกู้ภัยจากนานาชาติให้ความหวังว่ายังมีโอกาสเจอผู้รอดชีวิต ทำให้การค้นหาวันนี้ต้องแข่งกับเวลาอย่างเต็มที่

ทองไทยนิวไฮต่อเนื่อง ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 550 บาท

ทองคำไทยผันผวนหนัก ปรับเปลี่ยน 18 ครั้ง ก่อนปิดตลาดปรับเพิ่ม 550 บาท ระหว่างวันขึ้นไปแตะนิวไฮ ทองคำแท่งขายออก 50,700 บาท ทองรูปพรรณขายออก 51,500 บาท ขึ้นไปต่อเนื่อง