รับมอบแอสตราเซเนกา 1.8 ล้านโดส-คิกออฟฉีด 7 มิ.ย.

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – ส่งมอบแล้ววัคซีนแอสตราเซนเนกา ลอตแรก 1.8 ล้านโดส รมว.สาธารณสุข ย้ำชัดพร้อมฉีดให้ประชาชนตามกำหนด 7 มิถุนายนนี้


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนายเจมส์ ทีก ประธานบริษัทแอสตราเซนเนกา ร่วมกันแถลงข่าว ในพิธีรับมอบวัคซีนแอสตราเซนเนกา ที่ผลิตในไทย โดยบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ โดยการส่งมอบในลอตแรกนี้มีจำนวน 1.8 ล้านโดส และบริษัทจะทยอยส่งมอบให้อีกจนครบสัญญาสั่งซื้อ ส่วนการฉีดวัคซีนยืนยันว่าคิกออฟวันที่ 7 มิถุนายน ไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่การจัดสรรควัคซีนแต่ละพื้นที่ ยืนยันว่ามีความเท่าเทียมและเป็นธรรม โดยคำนึงสัดส่วนประชากรในพื้นที่ การระบาด พื้นที่เศรษฐกิจ พื้นที่จำเพาะ เช่น บุคลากรครู ตามนโยบาย ศบค.

“อนุทิน” ย้ำรัฐมีแผนรองรับ ลั่นไม่เคยมีม้าตัวเดียว
ขณะที่การคัดเลือกวัคซีน นายอนุทินย้ำเหมือนเดิม ไม่ได้เจาะจงแค่บางยี่ห้อ เพราะรัฐบาลมองว่าต้องมีแผนรองรับเสมอ เพราะวัคซีนของไทย ที่เข้ามีทั้งแอสตราเซนเนกา ซิโนแวค จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน โมเดอร์นา และซิโนฟาร์ม


ส่วนที่หลายจังหวัด และราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ประกาศเลื่อนฉีดวัคซีน เนื่องจากได้รับจัดสรรวัคซีนมาน้อย ยืนยันว่าต้องให้จังหวัดเป็นผู้บริหารจัดการ เพราะวัคซีนจะทยอยเข้ามา และกระจายไปให้เพิ่ม ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์วัคซีนจากผู้ว่าฯ ของจังหวัดตัวเอง และหน่วยงานหลัก ส่วนราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ สังกัดมหาวิทยาลัย เป็นอำนาจกระทรวงการอุดมศึกษา ที่รวมการจัดสรรกับมหาวิทยาลัยอื่นอีก 11 สถาบัน

ปลัด สธ.แจงจัดสรรวัคซีนมีสูตรคำนวณ
ด้านนายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ความชัดเจนว่าการจัดสรรวัคซีนไปในแต่ละพื้นที่ใช้สูตรคำนวณโดยนำจำนวนประชากร ประชากรแฝง หาร 4 ซึ่งเป็นการบริหารจัดการภายใน 4 เดือน (ถึงกันยายน) จากนั้นคูณด้วยปัจจัยเสี่ยง ทั้งพื้นที่ระบาด พื้นที่เศรษฐกิจ พื้นที่จำเพาะ แต่เนื่องจากวัคซีนจะค่อยๆ ทยอยเข้ามา จึงต้องจัดสรรเป็นรายสัปดาห์ เพื่อให้เหมาะกับสถานการณ์ แต่อำนาจการพิจารณาสนับสนุนวัคซีนเพิ่มเติมยังเป็นอำนาจ ศบค.

เดือนนี้วัคซีนมีแน่ 6.7 ล้านโดส ฉีดได้ 10 ล้านโดส
ขณะที่นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แจงยิบการกระจายฉีดวัคซีนของไทย เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม ฉีดไปแล้ว 3.64 ล้านโดส และเฉพาะพื้นที่ กทม. ฉีดไปแล้ว 1 ล้านโดส


ส่วนการจัดหาวัคซีนของรัฐ ปีนี้ตั้งเป้าจัดสรรวัคซีนให้ได้ 100 ล้านโดส ส่วนปีหน้าเตรียมจัดหาวัคซีนเพิ่มอีก 50 ล้านโดส ซึ่งอาจเป็นการฉีดวัคซีนในเข็มที่ 3 ให้ครอบคลุมการระบาดทุกสายพันธุ์ แต่ก่อนไปปีหน้า อธิบดีกรมควบคุมโรคแจกแจงว่าตอนนี้ 100 ล้านโดส ไทยมีซิโนแวคแล้ว 6 ล้านโดส ลงนามในสัญญาสั่งซื้อแอสตราเซนเนกา 61 ล้านโดส เท่ากับปัจจุบันไทยยังขาดวัคซีนอยู่อีก 33 ล้านโดส แต่หากมองไปถึงจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และไฟเซอร์ ที่กำลังติดต่อกันอยู่ และคาดว่าได้เพิ่มมาอีก 25 ล้านโดส บวกกับจัดหาซิโนแวคเพิ่มอีก 8 ล้านโดส รวมแล้วปีนี้ได้มาตามเป้า 100 ล้านโดสแน่นอน

ส่วนวัคซีนเฉพาะเดือนนี้ (มิ.ย.) จะมีเข้ามาเท่าไร อธิบดีกรมควบคุมโรคบอกว่าจะมีทยอยเข้ามาแบบ rolling จึงขอแจกแจงแบบนี้ คือ แอสตราเซนเนกา ก่อนหน้านี้มีเข้ามาแล้ว 2.4 แสนโดส บวกกับวันนี้ที่ได้มาอีก 1.8 ล้านโดส ทำให้เดือนนี้มีแอสตราเซเนกาแล้ว 2 ล้านโดส ส่วนซิโนแวคที่จะมีเข้ามาอีก 1.5 ล้านโดส หากรวมกันแล้ว 2 สัปดาห์แรก ไทยมีวัคซีนอยู่ในมือ 3.54 ล้านโดส

จากนั้นสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนนี้ จะมีวัคซีนทยอยเข้ามาอีก 8.4 แสนโดส และสัปดาห์ที่ 4 เข้ามาอีก 2.5 ล้านโดส ทำให้ภาพรวมเดือนมิถุนายน ไทยจะมีวัคซีนเข้ามามากกว่า 6 ล้านโดส ซึ่งเป็นไปตามแผน และยอดการฉีดวัคซีนเดือนนี้รวมกับของเดิมน่าจะอยู่ที่ 10 ล้านโดส

ส่วนวัคซีน 6 ล้านโดสในเดือนนี้จะจัดสรรกระจายไปตามจังหวัดต่างๆ อย่างไรก็ตาม อธิบดีกรมควบคุมโรคย้ำว่าตามหลักการที่นายกฯ ศบค. และกระทรวงสาธารณสุข ตกลงกันไว้คือ แต่ละจังหวัดจะต้องมีวัคซีนทั้งแอสตราเซนเนกา และซิโนแวค เพื่อบริการประชาชน เฉลี่ยเป็นพื้นฐานตามประชากรในจังหวัดนั้นๆ รวมถึงประชากรแฝงด้วย

จังหวัดที่การระบาดรุนแรง เช่น กรุงเทพฯ ปริมณฑล หรือเพชรบุรี จะจัดวัคซีนเสริมเข้าไป นอกจากนี้ยังมีแผนเพิ่มเติม สำหรับที่พบการระบาดใหม่ในช่วงเวลานั้นๆ ด้วย

จังหวัดที่เป็นกลุ่มเป้าหมายพิเศษ อย่างภูเก็ต ที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยว ตอนนี้ฉีดเกิน 50% ไปแล้ว และเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้ผู้ประกันตนสามารถทำกิจกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ จะให้สำนักงานประกันสังคมจัดสรรวัคซีน 1 ล้านโดส ไปฉีดให้ผู้ประกันตน

คนที่ลงทะเบียน “หมอพร้อม” ยืนยันว่า วันที่ 7, 8, 9 ได้ฉีดแน่นอน ไม่เลื่อน และในส่วน กทม. จัดสรรไปแล้ว และจัดสรรเพิ่มไปอีกรวมๆ แล้วประมาณ 2 ล้านโดส ขณะที่มหาวิทยาลัยต่างๆ ที่ประชุมอธิการบดีมีการจัดสรรวัคซีนไปให้ 5 แสนโดส

สหรัฐเตรียมแบ่งวัคซีนให้ประเทศต่างๆ รวมไทยด้วย
นอกเหนือจากวัคซีนที่รัฐจัดหา ยังมีข่าวว่าสหรัฐมีแผนการบริจาควัคซีนป้องกันโควิดอย่างน้อย 80 ล้านโดส ให้กับประเทศต่างๆ ทั่วโลกภายในสิ้นเดือนนี้ และในจำนวนวัคซีนที่จะเริ่มส่งมอบ 25 ล้านโดสนนั้น 7 ล้านโดส จะจัดสรรให้กับประเทศในเอเชีย ผ่านโครงการโคแวกซ์ นำโดยองค์การอนามัยโลก เพื่อการเข้าถึงวัคซีนอย่างเท่าเทียม โดยประเทศที่จะได้วัคซีนชุดแรก นอกจากจะมีอินเดีย เนปาล บังกลาเทศ ปากีสถาน ศรีลังกา อัฟกานิสถาน มัลดีฟส์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม อินโดนีเซีย ลาว ปาปัวนิวกินี ไต้หวัน ยังมีประเทศไทยรวมอยู่ด้วย ส่วนอีกร้อยละ 25 จะส่งตรงไปให้ประเทศที่ต้องการและประเทศเพื่อนบ้านของสหรัฐ ซึ่งประเทศที่ได้รับวัคซีนโดยตรงนี้ มีเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงเมื่อเดือนที่แล้วระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน และประธานาธิบดีมุน แจ-อิน ของเกาหลีใต้ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบเจ้าบ่าวลอบขนยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด

ปราจีนบุรี 17 พ.ค. – ตำรวจสกัดจับพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก กระสุนปืน 10 นัด รถกระบะ 1 คัน นาทีเจ้าหน้าที่สกัดจับนายธนธรรม หรือ เม่น เจ้าบ่าวซึ่งเพิ่งผ่านพิธีแต่งงานไปไม่นาน และเป็นหนึ่งในแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ โดยจับกุมได้บริเวณถนนบ้านหนองหอย อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด, อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก, กระสุนปืน 10 นัด และรถกระบะ 1 คัน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยขบวนการนี้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากริมแม่น้ำโขง จ.อำนาจเจริญ มาซุกซ่อนไว้ที่บ้านในปราจีนบุรี เพื่อเตรียมกระจายไปยังพื้นที่ปทุมธานี เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวจนพบว่าจะมีการเดินทางไปยัง จ.อุบลราชธานี เพื่อรับยาเสพติด กระทั่งกลุ่มผู้ต้องหารู้ตัวว่าถูกสะกดรอย จึงเร่งความเร็วรถหลบหนี ก่อนพุ่งชนรถเจ้าหน้าที่ และถูกสกัดจับไว้ได้ ขณะที่รถยนต์ 2 […]

ไรเดอร์ชกเบ้าตาแตก ฉุนเมาปักหมุดมั่วแถมลวนลาม

พัทยา 17 พ.ค.- ไรเดอร์ฉุน ชกนักท่องเที่ยวชาวอินเดียจนเบ้าตาแตก พยานบอกผู้ก่อเหตุฉุนปักหมุดผิดทำขี่วนหลายรอบ แถมถูกลวนลามจึงทนไม่ไหว นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย อายุประมาณ 35-40 ปี นอนบาดเจ็บ คิ้วซ้ายและเบ้าตาซ้ายแตกเลือดอาบหน้าอยู่ในอาการมึนเมา เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงประมาณตี 1 วันนี้ ในซอยเทพประสิทธิ์ 17 เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง แต่พลเมืองดีบันทึกภาพไว้ได้ จึงมอบให้ตำรวจเป็นหลักฐาน สอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัยของคอนโดฯ แห่งหนึ่งใกล้จุดเกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุเป็นไรเดอร์ส่งผู้โดยสาร และเล่าให้ตนฟังว่านักท่องเที่ยวคนนี้มึนเมาอย่างหนัก แถมปักหมุดสถานที่ส่งผิดที่ ผู้ก่อเหตุก็พยายามวนหาอยู่หลายครั้ง เท่านั้นยังไม่พอ ผู้บาดเจ็บได้ลวนลามผู้ก่อเหตุ จนผู้ก่อเหตุโมโหและจอดรถชกหน้าทันที ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บจะเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา หลังรักษาอาการบาดเจ็บแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ข่าวแนะนำ

ตำรวจเร่งตรวจสอบบัญชีธนาคารวัดไร่ขิง กว่า 20 บัญชี

กทม. 18 พ.ค.-ตำรวจเร่งตรวจสอบบัญชีธนาคารวัดไร่ขิง กว่า 20 บัญชี หาความเชื่อมโยงการยักยอกเงินของอดีตเจ้าอาวาส เบื้องต้นพบมีอีก 7 บัญชี ที่ใช้กล่าวหาการกระทำความผิด เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบและสอบปากคำพยาน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด คดียักยอกเงินวัดไร่ขิง วันนี้ (18 พ.ค.68) พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ให้ข้อมูลว่า ทางพนักงานสอบสวนยังคงเดินหน้ารวบรวมพยานหลักฐานเส้นทางการเงิน สอบปากคำพยานและผู้ที่เกี่ยวข้องกับบัญชีวัดไร่ขิง จำนวนหลายบัญชีทยอยเข้ามาสอบปากคำ โดยตั้งศูนย์ปฏิบัติงานที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน จากข้อมูลการสอบสวนปัจจุบัน พบความเชื่อมโยงเส้นทางการเงินระหว่างนายแย้ม กับ นางสาวอรัญญาวรรณหลายช่องทาง ช่วงปี 2563 ถึง ปี 2567 รวมเป็นเงินกว่า 300 ล้านบาท -แยกออกเป็นบัญชีส่วนตัวของอดีตพระแย้ม โอนเงินให้นางสาวอรัญญาวรรณในช่วงปี 2566 รวมกัน 80 ล้านบาท-ใช้บัญชีของอดีตพระเอกพจน์ หรือนายเอกพจน์ โอนเงิน และตระเวณนำเงินสดไปฝากตู้ธนาคารต่าง ๆ ให้นางสาวอรัญญาวรรณ หลายรายการรวมแล้วกว่า 200 ล้านบาท-และพบว่ามีชื่อบัญชีบุคคลอีก 1 บัญชี โอนเงินให้ นางสาวอรัญญาวรรณ […]

Aerial view of destruction in Missouri from tornadoes

ทอร์นาโดถล่มสหรัฐ เสียชีวิตแล้ว 27 คน

พายุทอร์นาโดพัดถล่มรัฐมิสซูรีและเคนทักกีของสหรัฐ มีผู้เสียชีวิตรวมกันอย่างน้อย 27 ราย คาดจำนวนผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้น ขณะที่บ้านเรือนหลายพันหลังได้รับความเสียหาย 

กรมอุตุฯ เตือนฝนฟ้าคะนอง ตกหนักบางแห่ง

กทม. 18 พ.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ อีสาน ตะวันออก และภาคใต้ รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และอ่าวไทย ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และด้านตะวันตกของประเทศไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ […]

ระทึก! ตำรวจไล่ล่า-ยิงยางสกัดกระบะซิ่ง พบไอซ์ซุกในรถ

17 พ.ค. – ระทึก! ตำรวจสายตรวจขี่รถจักรยานยนต์ไล่ล่ากระบะซิ่งหนีชนดะ ต้องยิงยางสกัดจึงสิ้นฤทธิ์ ตรวจค้นพบไอซ์จำนวนหนึ่งซุกซ่อนในรถ เพจเฟสบุ๊กชื่อ วัชรพล สายไหม เพิ่มสิน สุขาภิบาล 5 โพสต์ข้อความระบุว่า “เลี่ยงทางถนนเทพารักษ์ วัชรพล” พร้อมกับคลิปเหตุการณ์ที่มีรถกระบะแต่งซิ่งคันหนึ่งขับเร่งเครื่องจนควันดำเต็มถนน เหมือนพยายามหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยในคลิปจะเห็นว่าด้านหน้ารถกระบะคันดังกล่าวมีรถกระบะจอดขวางทางอยู่ 1 คัน และด้านซ้ายของคลิปจะเห็นรถจักรยานยนต์ตำรวจสายตรวจล้มอยู่ อีกทั้งยังได้ยิงเสียงปืน และในจังหวะที่รถกระบะกำลังถอยเพื่อกลับลำหนี มีรถกระบะคันหนึ่งวิ่งเข้ามาชนท้ายอย่างจัง เพื่อปิดทางหนีของรถกระบะคันดังกล่าว และในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทุบกระจกรถกระบะ พร้อมนำตัวผู้ก่อเหตุออกมาจากรถได้ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นรถกระบะอีซูซุโหลดเตี้ยแต่งซิ่ง ทะเบียนกรุงเทพมหานคร มีรอยเฉี่ยวชนรอบคัน ล้อด้านซ้ายแตกทั้งล้อหน้า ล้อหลัง และยางล้อหน้าด้านซ้ายมีเศษหัวกระสุนติดอยู่ ส่วนคนขับรถกระบะทราบชื่อคือ นายชัยชนะ อายุ 41 ปี ถูกจับกุมพร้อมของกลางไอซ์จำนวนหนึ่งซุกซ่อนในรถกระบะ ด้านพลเมืองที่ช่วยตำรวจสกัดคนร้ายไม่ให้หลบหนี คือนายประหยัด เจ้าของรถกระบะวีโก้สีดำ ได้รับความเสียหายบริเวณตัวรถด้านซ้ายจนถึงท้ายรถ ซึ่งจอดขวางหน้ารถกระบะคันก่อเหตุ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุขณะตนเองขับรถอยู่ในซอยพหลโยธิน 50 เห็นรถสายตรวจจักรยานยนต์ขี่ไล่รถกระบะคันเกิดเหตุมาจนมาถึงซอยเทพรักษ์ 23 รถคนร้ายเฉี่ยวชนรถของตนเองเลยขับตามมา ตอนนั้นไม่รู้ว่าเขาไล่จับอะไรกัน แต่ได้ยินสายตรวจบอกให้ช่วยไล่ จึงช่วยเพราะก็ถูกชนแล้วหนีเหมือนกัน จนมาช่วยสกัดได้ตรงนี้ […]