สธ. ชู 2 สมุนไพร “ฟ้าทะลายโจรและกระชาย”

สธ.4 มิ.ย.-สธ.ร่วมภาคีเครือข่าย ต่อยอดพัฒนางานวิจัย 2 สมุนไพร ฟ้าทะลายโจรและกระชาย ใช้สมุนไพรไทยรักษาอาการเพื่อต่อสู้กับโรคโควิด พร้อมเปิดตัวงาน “สมุนไพรไทย ทลายโรค ทลายโควิด” ถ่ายทอดองค์ความรู้การดูแลสุขภาพด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย


วันนี้ (4 มิ.ย.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เปิดกิจกรรมเผยแพร่องค์ความรู้การส่งเสริมสุขภาพด้วยภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยในภาวะวิกฤตทางการแพทย์และสาธารณสุข ครั้งที่ 1 “สมุนไพรไทย ทลายโรค ทลายโควิด” จัดระหว่างวันที่ 2-14 มิถุนายน 2564 ณ บริเวณหน้าศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร

นายอนุทินกล่าวว่า ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในประเทศไทย ทุกหน่วยงานและทุกกรมในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมมือกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อป้องกันควบคุมโรค ดูแลรักษาผู้ติดเชื้ออย่างเต็มประสิทธิภาพ ขณะที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกได้ใช้องค์ความรู้ด้านการแพทย์แผนไทย ศึกษาวิจัยสมุนไพรไทยเพื่อใช้เป็นยาทางเลือกในการรักษาผู้ป่วยโควิด 19 พบว่า สมุนไพรฟ้าทะลายโจร มีผลยับยั้งเชื้อไวรัส และมีฤทธิ์ต้านการเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัส หากนำมาใช้ร่วมรักษากับการแพทย์แผนปัจจุบันในผู้ป่วยโรคโควิด 19 ที่มีระดับความรุนแรงน้อย (ไม่มีภาวะปอดอักเสบ) ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการดีขึ้นตามลำดับ และแทบไม่พบผลข้างเคียงอีกด้วย


นายอนุทินกล่าวต่อว่า มีสมุนไพรอีก 1 ชนิดที่เป็นความหวังในการรักษาโควิด 19 ในอนาคตอันใกล้ คือ กระชาย จากงานวิจัย มหาวิทยาลัยมหิดล (Excellent Center for Drug Discovery : ECDD) และศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) (TCELS) ที่ได้คัดกรองสารสกัดและสารประกอบธรรมชาติจากพืชสมุนไพรไทยในท้องถิ่น 122 ชนิด พบสารสกัด 6 ชนิด มีศักยภาพยับยั้งการเพิ่มจำนวนของเชื้อก่อโรคไวรัสโคโรนา (SARS-CoV-2) ที่ปริมาณความเข้มข้นของยาในระดับน้อย ๆ และไม่เป็นพิษต่อเซลล์ โดยสารสกัดจากกระชายมีฤทธิ์แรงที่สุด “ศูนย์ความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย” (Excellence Center for Thai Herbal Product Innovation: ECTHPIn) ที่จัดตั้งโดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก, ECDD มหาวิทยาลัยมหิดล, TCELS และสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ จะร่วมกันพัฒนาต่อยอดสมุนไพรกระชายอย่างจริงจัง นำงานวิจัยไปสู่การใช้ประโยชน์ในระดับอุตสาหกรรม ยกระดับการตลาดด้วยผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่มีนวัตกรรมด้านคุณภาพ

ทางด้าน พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ในการดูแลสุขภาพด้วยภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยที่ถูกต้องให้กับประชาชน ในภาวะวิกฤตการระบาดไวรัสโควิด 19 โดยร่วมกับ บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) ภาคีเครือข่ายแพทย์แผนไทย และผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สมุนไพร จัดกิจกรรมที่น่าสนใจประกอบด้วย เวทีเสวนาวิชาการ โดยผู้ทรงคุณวุฒิทางการแพทย์แผนไทย กิจกรรมแบ่งฐานให้ความรู้ ตามศาสตร์การแพทย์แผนไทย เช่น ฐานการใช้ยาฟ้าทะลายโจรและกระชาย การทำน้ำตรีผลา ฐานตำรับยาสมุนไพรรักษาอาการไข้ คลินิกตรวจสุขภาพรักษาโรคด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย และร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพรคุณภาพ

ด้านนายสมพล ตรีภพนารถ กรรมการผู้จัดการธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ยินดีสนับสนุนพื้นที่จัดงาน สมุนไพรไทย ทลายโรค ทลายโควิด ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคนไทยให้แข็งแรงมีภูมิต้านทานโรคที่ดีในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด 19 ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่รักสุขภาพที่จะได้นำความรู้ด้านสมุนไพรไทยและการแพทย์แผนไทยไปปรับใช้กับการดูแลสุขภาพ โดยศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ เข้มข้นด้านความสะอาดและปลอดภัยตามมาตรการป้องกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการในศูนย์การค้า .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ