เตือน! อย่าหลงเชื่อ 2 ข่าวลวงใหม่

กทม. 3 มิ.ย.-เตือน! อย่าหลงเชื่อ 2 ข่าวลวงใหม่ ฟ้าทะลายโจรป้องกันโควิด-แอปฯ เป๋าตังกู้เงินได้ ด้าน สสส. เปิดรายงานครบรอบ 1 ปี นวัตกรรม “โคแฟค” มีผู้เช็กข่าวลวงสุขภาพกว่า 1.3 แสนราย พบประชาชนแก้ข่าวปลอม 4,048 ครั้ง ชี้กลุ่มไลน์-อคติส่วนตัว ต้นตอข่าวลวงระบาด

ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ละระลอก มาพร้อมกับการระบาดของข้อมูลข่าวสาร ทำให้เกิดข่าวลวงประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาวะแพร่กระจายในสื่อออนไลน์ทั่วโลก สสส. เห็นความสำคัญของปัญหา ได้ร่วมจุดประกายความคิดให้เกิดนวัตกรรมโคแฟค (Collaborative Fact Checking : Cofact) แพลตฟอร์มบนสื่อออนไลน์ที่เป็นพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงด้านสุขภาพ ผ่านเว็บไซต์ cofact.org และโปรแกรมการพูดคุยอัตโนมัติ (Chatbot) ไลน์ @cofact ซึ่งขณะนี้ครบรอบ 1 ปี มีพันธมิตรเครือข่ายทุกภาคส่วนร่วมทำงาน 39 องค์กร เกิดเป็นชุมชนโคแฟคที่ประชาชนทุกกลุ่มวัยเข้ามาตรวจสอบข่าวลวงร่วมกัน 136,668 คน แบ่งเป็น ผู้ใช้งานเว็บไซต์ 131,333 คน และผู้ใช้งานโปรแกรมแชทบอท 5,335 คน


ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 1 ปี ของการมีนวัตกรรมโคแฟค พบว่า ปัญหาการแพร่ระบาดข่าวลวงในประเทศไทยเกิดจาก 2 สาเหตุ คือ 1.การสื่อสารในแอปพลิเคชันไลน์ในรูปแบบห้องสนทนาวงปิด ทำให้ยากต่อการตรวจสอบและป้องกันการแพร่ระบาด เช่น กลุ่มครอบครัว ที่ทำงาน มักมีความเกรงใจ ไม่กล้าเตือนว่าผิด 2.การมีอคติ เลือกแชร์ตามความเชื่อเพียงเพราะตรงกับทัศนคติของตัวเอง โดยไม่ได้ตรวจสอบที่มา ข้อเท็จจริง ทางออกของการแก้ไขปัญหาการระบาดของข่าวลวงที่ยั่งยืนคือ ผู้ใช้สื่อจำเป็นที่จะต้องมีวัฒนธรรมการเป็นผู้ตรวจสอบข้อมูลด้วยตนเองเบื้องต้น (Fact-checker) ไม่แชร์ข่าวที่ตรวจสอบแล้วว่าเป็นเท็จ พร้อมแจ้งข่าวลวงเข้าแพลตฟอร์มออนไลน์นวัตกรรมโคแฟค และเป็นผู้นำข้อความแก้ไขข่าวลวง (Corrector) ไปโพสต์ในห้องสนทนาที่พบการกระจายข่าวลวง ส่งผลให้เกิดกระบวนการเรียนรู้และทักษะพลเมืองที่รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงในโลกแห่งการสื่อสารในยุคดิจิทัล

นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ ผู้ร่วมก่อตั้งโคแฟค ประเทศไทย กล่าวว่า ผลการสำรวจผู้เข้าใช้งานนวัตกรรมโคแฟค เดือนเมษายน 2563-เดือนพฤษภาคม 2564 พบว่า ผู้เข้าใช้งานเว็บไซต์โคแฟค 131,333 คน แบ่งเป็นกลุ่มอายุ 18-24 ปี 27.5% อายุ 25-34 ปี 33.5% อายุ 35-44 ปี 15.5% อายุ 45-54 ปี 12.5% อายุ 55-64 ปี 5.5% และอายุมากกว่า 65 ปี 5.5% มีส่วนร่วมแก้ไขข้อมูลและเผยแพร่ข้อเท็จจริงถึง 4,048 ครั้ง ขณะที่สถิติการเข้าชมข่าวอินโฟกราฟิก 5 ข่าวลวงวนซ้ำที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 ได้แก่ 1.คลิปเสียงปลอมของคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล แจ้งวิธีปฏิบัติตัวในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ขอให้คนไทยล็อกดาวน์ตัวเอง 2.มะนาวโซดาฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้ 3.เลือดเป็นด่างทำให้โอกาสติดโควิด-19 น้อยลง 4.พัสดุไปรษณีย์เป็นแหล่งแพร่เชื้อโควิด-19 และ 5.ยืนตากแดดฆ่าโควิด-19 ในร่างกายได้ มีการเข้าถึง 133,016 ครั้ง และร่วมแสดงความคิดเห็น 21,868 ครั้ง อย่างไรก็ตาม รัฐต้องสนับสนุนระบบข้อมูลเปิดในการตรวจสอบได้ง่าย สื่อมวลชนมีบทบาทช่วยตรวจสอบข่าวลือข่าวลวงทันท่วงที ส่วนแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์เพิ่มฟังก์ชั่นการเตือน ลบข่าว ที่พิสูจน์แล้วว่าเป็นเท็จ และต้องสร้างการเรียนรู้ทักษะความรู้เท่าทันดิจิทัลในหลักสูตรการเรียน


นายชิตพงษ์ กิตตินราดร ผู้แทนทีมวิจัยนวัตกรรมโคแฟค กล่าวว่า ผลการสำรวจพบข่าวลวง 2 เรื่องใหม่ที่น่าห่วง คือ 1.ข่าวฟ้าทะลายโจรป้องกันการติดโควิด-19 ได้ มาจากคลิปบิดเบือนบนยูทูบ ข่าวลวงนี้กระจายบนเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ อินสตราแกรม โดยผู้เผยแพร่มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการขายสินค้า เมื่อโคแฟคตรวจสอบข้อมูลจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พบว่าฟ้าทะลายโจรเป็นอีกทางเลือกที่ได้รับการยอมรับและนำไปรักษาควบคู่กับแพทย์แผนปัจจุบัน โดยที่ผ่านมา ได้ศึกษาวิจัยฟ้าทลายโจรที่มีสารแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ในผู้ป่วยอาการไม่หนัก จำนวน 309 ราย พบว่า สามารถยับยั้งความรุนแรงของโควิด-19 ได้ แต่ยังไม่สามารถป้องกันโควิด-19 ได้ และ 2.ข่าวแอปพลิเคชันเป๋าตังค์ สามารถใช้เพื่อกู้เงินหรือยืมเงินสดได้ ข่าวลวงนี้ระบาดมาจากกลุ่มไลน์สนทนาแบบปิด โคแฟคได้ทำการตรวจสอบข้อมูลจากกระทรวงการคลัง พบว่า ไม่มีนโยบายให้สินเชื่อแต่อย่างใด

นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาปัญหาข่าวลวงและข่าวบิดเบือนอีกหลากหลายกรณีสามารถติดตามข้อมูลงาน “ถอดรหัสข่าวลวง: เปิดรายงานโคแฟค ที่มา ลักษณะข่าวลวงและข้อเสนอแนะ” (De-coding Disinformation: Cofact Original Report and Recommendations) ได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ Cofact.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

5 คนร้ายปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดังย่านลาดพร้าว

กรุงเทพฯ 30 ก.ค. – อุกอาจ! นัดซื้อคริปโต กลายเป็นแผนปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท กลางลานจอดรถห้างดังย่านลาดพร้าว ก่อนหลบหนีลอยนวล ตำรวจเร่งสกัดจับคนร้าย เกิดเหตุอุกอาจ ปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท กลางลานจอดรถชั้น 2 ของห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. โดยกลุ่มคนร้ายเป็นชาย 5 คน มีทั้งอาวุธปืนและมีด หลังก่อเหตุ กลุ่มคนร้ายใช้รถยนต์ฮอนด้า ซีวิค สีเทา ทะเบียน ขก 1116 นครสวรรค์ หลบหนีออกจากห้าง ล่าสุดทราบว่า คนร้ายหลบหนีไปตามเส้นทางถนนสายเอเชีย สอบถามผู้เสียหาย ให้การว่า นัดกับกลุ่มคนร้ายมาซื้อทรัพย์สินเป็นเงินคริปโทเคอร์เรนซี 3.4 ล้านบาท โดยผู้เสียหายนำเงินสดมาเพื่อจ่ายแลกกับเงินคริปโต แต่ถูกฝ่ายคนร้ายชิงเงินสดทั้งหมดและขับรถหนีไป ทั้งนี้ ตำรวจสืบสวน สน.พหลโยธิน อยู่ระหว่างลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี. – สำนักข่าวไทย

จับ 6 ล้อขนยาบ้า 10 ล้านเม็ด ซุกลำโพง

30 มิ.ย. – ขบวนค้ายาเสพติดยังพยายามขนยาบ้าเข้ามาทางชายแดนภาคเหนือของไทย ช่วง 9 เดือนมานี้ เจ้าหน้าที่สกัดได้กว่า 130 ล้านเม็ด แต่ที่หลุดรอดไปได้อีกมหาศาล ซึ่งพบว่ามีการขนยาบ้าลอตใหญ่เข้าสู่พื้นที่ชั้นในมากขึ้น โดยเปลี่ยนจุดพักยาบ้าเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจและใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ขนยาบ้าที่ซุกซ่อนมากับสินค้ามากขึ้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่สกัดรถ 6 ล้อ ขนยาบ้า 10 ล้านเม็ด ได้ที่จังหวัดแพร่ โดยซุกซ่อนในตู้ลำโพง คนขับอ้างว่า รับงานจากบริษัทให้ไปส่งสินค้าที่ลพบุรี โดยไม่รู้ว่ามีการซุกซ่อนยาบ้าไว้ เจ้าหน้าที่เร่งขยายผล.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้โรงงานผลิตทิชชู คนงานสูญหาย 9 คน

สระบุรี 30 มิ.ย. – เหตุไฟไหม้โรงงานผลิตทิชชู จ.สระบุรี มีผู้บาดเจ็บ 7 คน และยังสูญหายอีก 9 คน เป็นพนักงานประจำสำนักงานอยู่บนชั้น 2 และชั้น 3 ล่าสุดมีรายงานพบผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย เกิดเหตุเพลิงไหม้รุนแรงที่โรงงานผลิตทิชชู ตั้งอยู่ภายในนิคมเหมราช อ.หนองแค จ.สระบุรี รถดับเพลิงรถน้ำจาก อ.หนองแค และใกล้เคียงกว่า 50 คัน รวมถึงอาสาสมัครจากหลายมูลนิธิ รุดไปที่เกิดเหตุ พบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้ภายในโรงงานพร้อมกับได้รับแจ้งว่ามีพนักงานอยู่ภายในสำนักงานชั้น 2 และชั้น 3 รวม 10 คน ยังไม่สามารถออกมาได้ จึงเร่งฉีดน้ำสกัดดับเพลิงแต่ก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากจุดที่เกิดเพลิงไหม้มีกองกระดาษซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี กระทั่งเวลาล่วงเลยไปกว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด ขณะที่รถจากโรงพยาบาลหลายแห่ง พร้อมทีมแพทย์และพยาบาลมายังจุดเกิดเหตุเพื่อรอรับผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล พร้อมกับตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ รับแจ้งตรวจสอบรายชื่อผู้สูญหาย เบื้องต้นทราบว่ามีผู้สูญหายยังไม่มารายงานตัวจำนวน 11 คน แต่ต่อมาช่วยเหลือออกมาได้ 2 คน จึงยังมีผู้สูญหายในเหตุการณ์นี้อีก […]

โผ ครม.แพทองธาร 1/2 หลังนำรายชื่อทูลเกล้าฯ

ทำเนียบ 30 มิ.ย.-โผ ครม.แพทองธาร 1/2 หลังนำรายชื่อทูลเกล้าฯ นายกฯ ควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำรายชื่อคณะรัฐมนตรีแพทองธาร 1/2 ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายแล้ว สำหรับโผการปรับ ครม. ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ควบ รมว.วัฒนธรรม ซึ่งวันนี้ (30 มิ.ย.) นายกรัฐมนตรี ยอมรับเองว่าจะนั่งตำแหน่ง รมว.วัฒนธรรม เพราะต้องการผลักดันนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ ส่วน รมว.กลาโหม ยังเว้นว่างไว้ ตามรายงานข่าวแจ้งว่า จะให้ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รักษาการแทนไปก่อน ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี จะนั่งควบ รมว.มหาดไทย โดยมีนายเดชอิศม์ ขาวทอง และ […]