ศธ.ดีเดย์ 7 มิ.ย.เตรียมฉีดวัคซีนครูทั่วประเทศ

ศธ.1มิ.ย.-ศธ.ดีเดย์ 7 มิ.ย.เตรียมฉีดวัคซีนครูทั่วประเทศ ในกรุงเทพฯฉีดที่สถานีกลางบางซื่อ มอบหมาย ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประสานกรมควบคุมโรค จัดทำข้อมูลครูเพื่อให้ได้รับการฉีดวัคซีนค่อนข้างครบทุกคน คาดวันแรกจะฉีดได้ประมาณ 3 หมื่นคน หลังจากนั้นทยอยฉีดให้ครบ


นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และนายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน แถลงข่าว 4 ประเด็นน่าสนใจ “การปฏิบัติงาน ณ ที่พักอาศัย (Work from Home)–การฉีดวัคซีนให้กับครู–ข้อมูลโรงเรียนที่เปิดเทอม–แนวปฏิบัติเก็บค่าเทอมลดภาระผู้ปกครองยุคโควิด”

การปฏิบัติงาน ณ ที่พักอาศัย (Work from Home) เดือนมิถุนายน 2564
ปลัด ศธ. กล่าวว่า ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง มาตรการป้องกันและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 แยกเป็น 2 ส่วน คือหน่วยงานที่ไม่ใช่สถานศึกษา ในพื้นที่สีแดงเข้ม 4 จังหวัด ให้จัดบุคลากรหมุนเวียนมาปฏิบัติงาน ณ สถานที่ทำงาน 10% และ Work from Home 90% ส่วนพื้นที่อื่นๆ อีก 73 จังหวัด ให้หน่วยงาน เช่น สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ฯลฯ จัดบุคลากรหมุนเวียนมาปฏิบัติงานตามความเหมาะสม


ทั้งนี้ เพื่อให้มีความยืดหยุ่นในการทำงานมากขึ้นตามบริบทสถานศึกษา ให้ดำเนินการตามมาตรการที่ ศบค. กำหนด และประกาศ ศธ. เรื่อง การเลื่อนเวลาการเปิดภาคเรียนที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2564 ลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2564 ซึ่งในพื้นที่สีแดงเข้ม ศบค.ห้ามใช้พื้นที่และอาคารสถานที่ในการเรียนการสอน แต่ไม่ได้ห้ามหากโรงเรียนจะจัดการเรียนออนไลน์หรือทางไกลในระหว่างนี้ ส่วนพื้นที่อื่น ๆ เช่น ประจวบคีรีขันธ์ แม้โรงเรียนส่วนใหญ่จะเปิดภาคเรียนแล้ว แต่ก็ยังคงใช้การสอนออนแอร์และออนไลน์อยู่ เพราะยังคงระวังเรื่องความปลอดภัย

ข้อมูล รร.ที่เปิดเทอม 1/2564

เลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า ได้สำรวจโรงเรียนที่พร้อมเปิดภาคเรียน จำนวน 28,698 แห่ง (ไม่รวมการศึกษาพิเศษ) โดยเป็นโรงเรียนที่เปิดภาคเรียนและจัดการเรียนการสอนที่โรงเรียน (On Site) แล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน จำนวน 12,571 แห่ง, เปิดภาคเรียนในวันที่ 14 มิถุนายน จำนวน 15,951 แห่ง และเปิดภาคเรียนในช่วงวันที่ 2-13 มิถุนายน อีก 171 แห่ง ซึ่งเป็นไปตามสถานการณ์และบริบทของแต่ละแห่ง ซึ่งสถานศึกษาส่วนใหญ่จะเรียนด้วยวิธีผสมผสานทั้ง 5 รูปแบบการสอน (On Site – On Air – On Hand – On Demand – Online) ไม่มีวิธีใดวิธีหนึ่งโดยเฉพาะ แม้แต่โรงเรียนที่เปิดแบบ On Site เพราะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของครูและนักเรียนเป็นสำคัญ ไม่ได้เอาโรงเรียนหรือครูเป็นฐาน หรือครูกำหนดให้ เพราะที่ผ่านมามีปัญหานักเรียนไม่มีอุปกรณ์ แต่ครั้งนี้มีการสำรวจตามความพร้อมของนักเรียน และเป็นไปตามความสมัครใจของนักเรียนในการเรียนตามช่องทางต่าง ๆ


โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ เช่น จำนวนครูสอนออนไลน์จากบ้านไปยังเด็ก หรือเด็กที่เรียนออนไลน์จากบ้าน เพื่อประสาน กสทช.ช่วยเหลือดูแลค่าอินเทอร์เน็ตให้ครูและนักเรียนต่อไป อีกทั้งขณะนี้ สพฐ.ได้แจ้งกสทช. ขอรับการสนับสนุนให้มีการเรียนผ่าน On Air เพิ่มเติมทางช่อง TPBS, ททบ.5 และช่อง 9 MCOT แล้ว ซึ่งจะมีรายการของ สพฐ. ตั้งแต่เดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไป

ส่วนโรงเรียนประจำ ได้ประสานกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้เข้าไปช่วยดูแลด้านสุขอนามัยของนักเรียนในการเตรียมการเปิดภาคเรียน เพื่อคัดกรองและแนะนำการปฏิบัติตัวภายในโรงเรียน พร้อมทั้งให้คำแนะนำกับครูอนามัยในโรงเรียนประจำ โดยเฉพาะกลุ่มโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ และโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ ที่มีนักเรียนเดินทางมาจากหลากหลายพื้นที่ จะต้องดูแลเป็นพิเศษ โดยหากเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ต้องจัดเป็นกลุ่มและประเมินสถานการณ์ 14 วัน หลังจากนั้นค่อยเข้าสู่ระบบการเรียนปกติ

การฉีดวัคซีนให้กับครูและบุคลากรทางการศึกษา
ปลัด ศธ. กล่าวถึงการฉีดวัคซีนให้กับครูและบุคลากรทางการศึกษาว่า ขณะนี้ครูหลายพื้นที่ได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้วเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้วันที่ 7 มิ.ย.64 เป็นวันดีเดย์ของการฉีดวัคซีนครูทั่วประเทศ โดยเฉพาะครูในกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม จะดำเนินการฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ โดยมอบหมายให้ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประสานกับกรมควบคุมโรคจัดทำรายละเอียดข้อมูลครู เพื่อให้ได้รับการฉีดวัคซีนค่อนข้างครบทุกคน โดยในวันแรกจะฉีดได้ประมาณ 3 หมื่นคน หลังจากนั้นจะทยอยฉีดให้ครบต่อไป

ส่วนในต่างจังหวัดได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดและศึกษาธิการจังหวัดให้ประสานร่วมกัน และมอบหมายให้ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาดำเนินการจัดทำรายละเอียดบัญชีรายชื่อของครูแต่ละโรงเรียนให้กับจังหวัด เพื่อให้ครูเข้ารับการฉีดวัคซีนทันทีจังหวัดได้รับวัคซีน

แนวปฏิบัติเก็บค่าเทอมลดภาระผู้ปกครองยุคโควิด
ปลัด ศธ. กล่าวว่า สำหรับประกาศแนวปฏิบัติเก็บค่าเทอมลดภาระผู้ปกครองยุคโควิด 19 เนื่องจากโรงเรียนในประเทศไทยมีจำนวนมากและหลากหลายรูปแบบ ทั้งโรงเรียนในสังกัดของรัฐและเอกชน ซึ่งมีการดำเนินการที่แตกต่างกัน โดยหลักจะมีค่าธรรมเนียมการศึกษาปกติ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าแอร์ ค่าว่ายน้ำ ครูสอนภาษาต่างประเทศ ฯลฯ ในช่วงนี้จะมีการจัดการเรียนการสอนหลากหลาย อาจทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นหรือลดลงแตกต่างกันไปตามรูปแบบการจัดการเรียนการสอน

ซึ่งประกาศดังกล่าว ได้แนะนำให้สถานศึกษา หากมีค่าใช้จ่ายใด ๆ ที่ไม่ได้เป็นการให้บริการ อาจให้โรงเรียนลดหย่อน เช่น ในกรณีที่ได้มีการเรียกเก็บเงินบำรุงการศึกษา ค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าธรรมเนียมการเรียน และค่าธรรมเนียมอื่นไปแล้ว ให้คืนเงินบำรุงการศึกษาหรือค่าธรรมเนียมดังกล่าว ในส่วนที่ไม่ได้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนนั้นในระหว่างที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวต้องมีความเห็นร่วมกันระหว่างคณะกรรมการสถานศึกษา สมาคมผู้ปกครองหรือตัวแทนผู้ปกครอง และสถานศึกษา หารือร่วมกัน โดยต้องเป็นความเห็นร่วมกัน เป็นการทำงานด้วยความเห็นอกเห็นใจกัน เพื่อพัฒนาคุณคุณภาพการศึกษาของเยาวชนไทย

เลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า สพฐ.เป็นโรงเรียนของรัฐที่มีรูปแบบการจัดการเรียนการสอนหลายรูปแบบ เช่น โรงเรียนบางโรงเรียนจัดแบบลักษณะห้องเรียนพิเศษเฉพาะ เช่น EP MEP มีการเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และโรงเรียนปกติที่ต้องการจัดกิจกรรมเสริม เพื่อให้เกิดคุณภาพการศึกษาที่ดีขึ้น ทั้งนี้ สพฐ.มีประกาศการเก็บเงินบำรุงการศึกษาของสถานศึกษาสังกัด ที่จะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เขตพื้นที่การศึกษาและเป็นไปด้วยความสมัครใจของผู้ปกครองและนักเรียน ภายใต้หลักเกณฑ์ที่ สพฐ.กำหนดแต่ปัจจุบันสถานการณ์การจัดการเรียนการสอนเปลี่ยนแปลงไป จึงต้องนำประกาศฯ ดังกล่าวมาทบทวน เพื่อให้เชื่อมโยงกับประกาศแนวปฏิบัติเก็บค่าเทอมลดภาระผู้ปกครองยุคโควิดว่า มีส่วนไหนที่ไม่มีความจำเป็น ทำให้เกิดความเดือดร้อนและเป็นภาระของผู้ปกครอง ต้องหาวิธีที่จะลดค่าใช้จ่ายดังกล่าว โดยขึ้นอยู่กับบริบทและความจำเป็นของแต่ละพื้นที่ อีกทั้งให้เป็นความสมัครใจของผู้ปกครองและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานด้วย เนื่องจากแต่ละโรงเรียนมีการจัดการศึกษาที่แตกต่างกัน บางอย่างที่เป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการศึกษาอาจจะลดได้หรือไม่ต้องเป็นความเห็นร่วมกันระหว่างผู้ปกครอง กรรมการสถานศึกษา โรงเรียน และเขตพื้นที่ ซึ่งโรงเรียนแต่ละแห่งต้องจัดลำดับความสำคัญของรายการทั้งหมด อะไรที่ไม่จำเป็นต้องตัดออกไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

น่านยังอ่วม บางจุดน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร

น่าน 25 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 3 น้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์ของเมืองน่าน แม้ระดับน้ำลดลงบ้างแล้ว แต่ในตัวเมือง-เขตเศรษฐกิจยังท่วมสูง บางจุดระดับน้ำเกือบ 2 เมตร ขณะที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นำทีมกู้ภัยฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน .-สำนักข่าวไทย

มีผลทันที! ประกาศกฎอัยการศึก 8 อำเภอ “จันทบุรี-ตราด”

25 ก.ค.- กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประกาศใช้กฎอัยการศึกบางพื้นที่ มีผลทันที กองทัพเรือ โดย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด “ประกาศใช้กฎอัยการศึก” บางพื้นที่ ดังนี้ ตามที่ได้มีประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลงวันที่ 19 กันยายน 2549 ให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 เวลา 21.05 นาฬิกา ซึ่งต่อมาได้มีพระบรมราชโองการเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ และให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 นั้น โดยที่ปรากฏว่าประเทศกัมพูชาได้ใช้กำลังและอาวุธรุกรานเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตลอดแนวชายแดน จึงมีความจำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ที่ต้องใช้กำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อป้องกันประเทศให้พ้นจากภัยคุกคามอันมีที่มาจากภายนอกราชอาณาจักรดังกล่าว เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 176 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 จังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี […]

จรวด BM-21 ตกในพื้นที่สุรินทร์ 6 ลูก เร่งอพยพคนเพิ่ม

สุรินทร์ 25 ก.ค. – กระสุนของฝั่งกัมพูชามาตกไกลกว่าเหตุปะทะปี 2554 ตามที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ ล่าสุดมีจรวด BM-21 จำนวน 6 ลูก ตกในพื้นที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เตรียมอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัยกว่า .-สำนักข่าวไทย

สดุดี 3 ทหารกล้า สมรภูมิปราสาทตาควาย

25 ก.ค.- กองทัพภาคที่ 2 สดุดี 3 ทหารกล้า สละชีพ สมรภูมิปราสาทตาควาย หลังกัมพูชายิงจรวด BM-21 หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ยืนยันมีทหารไทยเสียชีวิต 3 นาย จากการปฏิบัติหน้าที่เมื่อช่วงเช้าวันนี้ที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ หลังกัมพูชายิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ซึ่งกัมพูชานำไปจอดไว้ในพื้นที่ชุมชน โรงเรียน และวัด เพื่อเป็นโล่กำบัง โดยทหารที่เสียสละเพื่อประเทศชาติ ได้แก่ 1.สิบเอกนพดล บุญเลิศ 2.สิบเอก กฤษฎา น้อยโคตร 3.สิบเอก จิรายุ สิงห์อ้น กองร้อยลาดตระเวนระยะไกล ที่ 6 กองพลทหารราบที่ 6 ร้อย.ลว.ไกล 6 และมีสิบเอกสุทธิชัย เรื่อเรือง ได้รับบาดเจ็บ -สำนักข่าวไทย