กรุงเทพฯ 30 พ.ค.-กรมอนามัย ใช้ 8 มาตรการยกระดับป้องกันโควิด-19 ตลาดสดพื้นที่สีแดงเข้ม ย้ำผู้ประกอบการตลาดประเมินผ่าน Thai Stop COVID Plus เฝ้าระวังความเสี่ยงกลุ่มพ่อค้า แม่ค้า ผู้ปฏิบัติงาน แรงงานต่างด้าว และผู้ใช้บริการ โดยให้ประเมินตนเองผ่านเว็บไซต์ “ไทยเซฟไทย” ปฏิบัติตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในตลาดสดช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา พบว่ามีการแพร่ระบาดในตลาดสดเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑลเป็นจำนวนมาก ทำให้กรุงเทพมหานครได้ออกคำสั่งปิดตลาดทั้งสิ้น 17 แห่ง เพื่อฆ่าเชื้อทำความสะอาด สำหรับ ในส่วนของกรมอนามัยนั้น ได้กำหนดใช้มาตรการ 8 ข้อ เพื่อยกระดับการควบคุมตลาดสดในพื้นที่สีแดงเข้ม โดยขอให้ผู้ประกอบการตลาดปฏิบัติ ดังนี้ 1) ผู้ประอบการตลาดต้องประเมินตนเองผ่าน Thai Stop COVID Plus และผู้ค้าหรือลูกจ้างต้องประเมินความเสี่ยงของตนเองผ่านเว็บไซต์ “ไทยเซฟไทย” ซึ่งจากข้อมูลการประเมินตนเองของผู้ประกอบการผ่าน Thai Stop COVID Plus พบว่า มีตลาดที่ลงทะเบียนจำนวน ทั้งสิ้น 3,465 แห่ง ผ่านการประเมิน 2,779 แห่ง ไม่ผ่าน 686 แห่ง โดยมาตรการที่ยังดำเนินการได้น้อย คือ การลงทะเบียบเข้า – ออก การควบคุมจำนวนผู้มาซื้อของ และไม่มีการ คัดกรองลูกค้า 2) จัดทำทะเบียนแผงค้า ผู้ค้า ผู้ช่วยขายของ และแรงงานต่างด้าวที่ปฏิบัติงานในตลาด เพื่อเป็นฐานข้อมูล ในการควบคุม กำกับ ติดตาม 3) จัดทำทะเบียนรถเร่จำหน่ายอาหารที่มาซื้อสินค้าในตลาดเพื่อนำไปขายต่อ 4) เพิ่มมาตรการ ชำระเงินผ่านแอปพลิเคชันต่าง ๆ เพื่อลดการสัมผัส 5) กรณีพบผู้ค้า ผู้ช่วยขายของ และแรงงานต่างด้าวป่วย ให้หยุดขาย และแจ้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคในพื้นที่ทันที 6) ปิดตลาดชั่วคราวเพื่อทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค โดยให้ปฏิบัติตามมาตรการที่จังหวัดกำหนด 7) หากตลาดเปิดทำการให้มีการสลับแผงค้าให้เหมาะสม เพื่อลดความหนาแน่นของแผงค้าและจำนวนคน เข้มงวดคัดกรองผู้ค้าและผู้ช่วยขายของ ให้มั่นใจว่าไม่ไปสัมผัสกลุ่มเสี่ยงหรือมีอาการเจ็บป่วยหรืออาจมีผลตรวจยืนยัน และ 8) ให้ตลาดปรับปรุงให้เป็นไปตามมาตรฐานตลาดสด น่าซื้อ และเน้นการรักษาความสะอาดอย่างเข้มข้น
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า สำหรับผู้ซื้อสินค้าภายในตลาดควรมีการประเมินตนเองทุกวันผ่านเว็บไซต์ “ไทยเซฟไทย” ก่อนออกจากบ้าน และควรวางแผนการซื้อสินค้าเพื่อลดเวลาการใช้บริการในตลาดต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเข้า-ออก ตามจุดที่ตลาดกำหนดไว้ ล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ก่อนและหลังใช้บริการในตลาดทุกครั้ง กรณีซื้ออาหารปรุงสำเร็จ ควรเลือกอาหารที่ปรุงสุก สะอาด ชำระเงินผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อหลีกเลี่ยงการชำระเงินสด หรือการสัมผัสกับผู้ขาย หากมีอาการป่วย มีไข้ ไอจาม ให้งดเข้ามาใช้บริการในตลาด
“ทั้งนี้ หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องต้องควบคุม กำกับและติดตามให้ตลาดมีการดำเนินงานอย่างเคร่งครัด ให้เกิดการปฏิบัติจริงจัง โดยบูรณาการงานร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด อาสาสมัครประจำหมู่บ้าน สมาคม/ชมรมผู้ประกอบกิจการตลาด และเพื่อความเหมาะสมกับสถานการณ์ของแต่ละพื้นที่ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือผู้ว่าราชการจังหวัด อาจพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อในการสั่งปิด จำกัด หรือห้ามการดำเนินการของพื้นที่ สถานที่ หรือพาหนะ หรือสั่งให้งดการทำกิจกรรมซึ่งมีความเสี่ยงต่อการระบาดของโรคในเขตพื้นที่รับผิดชอบเพิ่มเติมจากที่กำหนดได้ โดยให้ดำเนินการสอดคล้องกับมาตรการหรือแนวปฏิบัติที่นายกรัฐมนตรีกำหนด ตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 20)” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว .-สำนักข่าวไทย