กรุงเทพฯ 23 พ.ค. – ศบค.ยันพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์แอฟริกากลายพันธุ์ 3 ราย ที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ยังห่วงคลัสเตอร์ กทม.กระจายหนัก พบใหม่แคมป์คนงานที่เขตบางกะปิ ขณะที่ป่วยเพิ่ม 3,382 ราย เสียชีวิต 17 ราย
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า วันนี้ (23 พ.ค.) มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 3,382 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,917 ราย จากต่างประเทศ 5 ราย ผ่านทางมาเลเซีย เส้นทางธรรมชาติ 4 ราย กัมพูชา 1 ราย ขณะที่พบเชื้อในเรือนจำ 460 ราย ตัวเลขยืนยันสะสม 100,637 ราย หายป่วย 2,131 ราย เสียชีวิต 17 ราย เป็นชาว กทม. 15 ราย สงขลาและเชียงใหม่ จังหวัดละ 1 ราย ทำให้ยอดรวมสะสม 682 ราย ในระลอกนี้ และรวมทุกระลอก 776 ราย หรือ 0.6% อยู่ระหว่างรักษาตัว 44,189 ราย แบ่งเป็นในโรงพยาบาล 18,615 ราย โรงพยาบาลสนาม 25,574 ราย อาการหนัก 1,210 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 412 ราย มีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนเพิ่มวันนี้กว่า 48,939 ราย ในเข็มแรก และ 4,603 ราย ในเข็มที่ 2 รวม 2,865,091 โดส
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุม ศปก.ศบค. ซึ่งมีเลขาธิการ สมช. เป็นประธานการประชุม ได้ขอให้เพิ่มมาตรการในการดูแลการเดินทางเข้า-ออก ตามแนวชายแดน หลังจากวันนี้ (23 พ.ค.) พบผู้ลักลอบเข้าเมือง 241 ราย โดยขอให้เพิ่มกำลังและใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ เช่น โดรน มากขึ้น หรือตั้งด่าน 3 แนวชั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ทำงานกันอย่างหนักและจับกุมได้มากขึ้น ขณะที่กระทรวงมหาดไทยจะช่วยในการดูแล และพื้นที่ชั้นใน เป็นจุดปลายทางของคนที่ลักลอบเข้าเมืองมาทำงาน ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบ และมีบทลงโทษ ทั้งผู้ลักลอบเข้าเมืองและผู้นำเข้ามาให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อในประเทศรายใหม่ อันดับแรก กทม. 983 ราย จากคลัสเตอร์คนงานเขตบางกะปิ ซึ่งเป็นเขตที่พบใหม่ ทั้งนี้ ยังเห็นตัวเลขทรงๆ และมีการกระจายตัวที่ต่างกันออกไป มีคลัสเตอร์ที่ต้องเฝ้าระวัง 30 แห่ง โดยกลุ่มที่เฝ้าระวังสูงสุด คือ เขตบางกะปิ เชื่อมโยงที่พักคนงานก่อสร้างซอยรามคำแหง 8 แคมป์ก่อสร้างเขตหลักสี่ เขตคลองเตย ในตลาด ชุมชนแออัด และแคมป์คนงาน นอกจากนี้ เขตดินแดง ที่ตลาดห้วยขวาง แฟลตดินแดง เขตห้วยขวาง ชุมชนโรงปูน และแคมป์ก่อสร้าง เขตบางรักที่แคมป์ก่อสร้าง และสีลม นอกจากนี้ ยังมีเขตดุสิต ป้อมปราบศัตรูพ่าย พระนคร บางกอกน้อย ราชเทวี บางซื่อ บางเขน บางพลัด บางคอแหลม ปทุมวัน และดอนเมือง
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า อันดับ 2 ของจังหวัดที่ติดเชื้อ คือ จ.เพชรบุรี 968 ราย ซึ่งพบสูงมา 2 วัน มีโรงงานที่ อ.เขาย้อย ได้มีการเข้าไปตรวจเชิงรุกแรงงานกว่า 10,000 คน ได้รับรายงานพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก พื้นที่โรงงานกว้างกว่า 200 ไร่ มีลักษณะอาศัย 2 แบบ คือ กลุ่มอาศัยรายรอบโรงงาน ซึ่งทางนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและคณะ กำลังลงพื้นที่ค้นหาเชิงรุกในชุมชน จึงขอให้ประชาชนที่อยู่ใกล้โรงงานเข้ารับการตรวจ และกลุ่มไปเช้า-เย็นกลับ
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ขอฝากไปยังประชาชนใน จ.ราชบุรี 481 คน รวมถึงที่ จ.สมุทรสาคร 43 คน สมุทรสงคราม 179 คน รวม 703 คน ว่า เมื่อได้รับการติดต่อให้ไปตรวจ ณ จุดตรวจใกล้บ้าน เพราะเป็นกลุ่มเสี่ยง ซึ่งที่ประชุมรับฟังนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ว่าได้วางแผนคุมโรคในระดับหนึ่ง ซึ่งหากได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการ ตัวเลขเช่นนี้คงอยู่ระยะหนึ่งและจะลดลง โดยจะพยายามจัดการให้ได้ภายใน 2 สัปดาห์
ขณะที่ จ.สมุทรปราการ ติดเชื้อเป็นอันดับ 3 มี 181 คน ลำดับถัดมา คือ นนทบุรี 107 คน ฉะเชิงเทรา 103 คน ชลบุรี 91 คน ปทุมธานี 66 คน สงขลา 59 คน สมุทรสาคร 38 คน และสุราษฎร์ธานี 30 คน
นพ.ทวีศิลป์ ยังกล่าวถึงการติดเชื้อใน จ.นราธิวาส ที่ อ.ตากใบ ว่า พบผู้ป่วยใหม่ 12 ราย โดยในพื้นที่คลัสเตอร์ อ.ตากใบ มีผู้ป่วยทั้งหมด 83 ราย จากผลพบเชื้อเมื่อวันที่ 4 พ.ค. และเมื่อมีการสุ่มตรวจสายพันธุ์เป็นระยะ ในจำนวนนี้พบสายพันธุ์ B.1.351 แอฟริกากลายพันธุ์ 3 ราย
นพ.ทวีศิลป์ ยังขอให้นายจ้าง ผู้ประกอบการ ดูแลลูกจ้างแรงงานให้ดี ขอให้ทุกครอบครัวดูแลกัน วัคซีนกำลังมา เราจะผ่านตรงนี้ไปด้วยกัน. – สำนักข่าวไทย
