สธ.21พ.ค.-อธิบดี คร.แจงเชื้อโควิดสายพันธุ์อินเดีย แพร่เร็วเหมือนอังกฤษแต่รุนแรง ไม่เพิ่มวัคซีน ยายังตอบสนองได้ดี คนงานทั้ง 15 คนอาการเล็กน้อยอยู่ รพ. เตรียมปูพรมค้นหาตรวจในแคมป์คนงานก่อสร้างและตลาดทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขกล่าวถึงกรณีการพบคนงานในแคมป์ก่อสร้างย่านหลักสี่ติดเชื้อโควิด-19 ว่า พบคนงานติดเชื้อสายพันธุ์อินเดีย 15 คน จากการตรวจใน 61 คน พบผู้ติดเชื้อเป็นชาย 7 คน หญิง 8 คน โดยเป็นคนงาน12 คน และคนในครอบครัวของคนงาน 3 คน ทั้งนี้ พบแรงงานถูกกฎหมายมาทำงานที่ไทยได้ระยะหนึ่งแล้ว เบื้องต้นประสาน กทม.และหน่วยงานความมั่นคงผิดจุดเข้าออกในพื้นที่รอบแคมป์ก่อสร้างเพื่อป้องกันและควบคุมโรค หลังจากพบพฤติกรรมคนงานมีการเดินทางเข้าออก
ส่วนคนป่วยทั้ง 15 คนอยู่ในความดูแลของแพทย์ มีอาการเล็กน้อย จากการศึกษาพบว่าเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์อินเดียยังตอบสนองต่อยาฟาวิพิเวียร์ แต่จะให้ยาเร็วขึ้น กระบวนการรักษา 14 วัน พร้อมเร่งปูพรมค้นหาผู้ป่วยในแคมป์คนงานก่อสร้าง ตลาด ของกรุงเทพฯ และตามต่างจังหวัดโดยใช้อำนาจของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดในการดำเนินการ
นพ.โอภาส กล่าวว่า สำหรับการถอดรหัสพันธุ์ทำให้พบว่า สายพันธุ์อินเดีย มีการแพร่เชื้อเร็วไม่แตกต่างจากสายพันธุ์อังกฤษ และพบว่าเชื้อมีความรุนแรงขึ้นและเชื้อไวรัสสายพันธุ์อินเดียยังไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของวัคซีน โดยวัคซีนแอสตราเซเนกา ยังตอบสนองต่อเชื้อได้ดี มีรายงานในประเทศอังกฤษที่พบการระบาดทั้งสายพันธุ์อินเดีย และอังกฤษ จำนวนมากเช่นกันส่วนในวัคซีนซิโนแวคก็ยังตอบสนองดีอยู่แต่อยู่ระหว่างหาข้อมูลเพิ่มเติม ทั้งนี้จากการรายงานข่าวเรื่องเชื้อกลายพันธุ์ในทั่วโลก พบ 4 สายพันธุ์ ได้แก่ อังกฤษ แอฟริกา อินเดีย และบราซิล โดยสายพันธุ์อินเดียเริ่มพบมากขึ้น มีรายงานพบในรอบประเทศไทยทั้งที่มาเลเซีย และสนามบินชางฮี สิงค์โปร์ ส่วนในเมียนมาและกัมพูชา ยังไม่มีรายงานยืนยันที่ชัดเจน
โดยสายพันธุ์อินเดียเข้าไทยครั้งแรก มาจากผู้ที่เดินทางมาจากปากีสถานในสถานที่รัฐกักตัวก่อนจะมาเจอในแคมป์คนงาน จะร่วมกับผู้เชี่ยวชาญในกลุ่มโรงเรียนแพทย์ดำเนินการตรวจค้นหาและเทียบพันธุ์กรรมของเชื้อไวรัสโควิดเพื่อหาที่มาว่าเชื้อดังกล่าวหลุดรอดหรือแพร่มาจากที่ใด
อย่างไรก็ตามไม่อยากให้ประชาชนวิตกกังวลหรือตระหนกเรื่องการกลายพันธุ์ พร้อมย้ำการป้องกันส่วนบุคคล สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ และมีระยะห่างต้องทำอย่างเข้มข้น-สำนักข่าวไทย