fbpx

ราชทัณฑ์รับตัวเลขติดโควิดก้าวกระโดดจากตรวจเชิงรุก

กรมราชทัณฑ์ 17 พ.ค. – อธิบดีกรมราชทัณฑ์แถลงยอมรับตัวเลขผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มก้าวกระโดด มาจากการตรวจเชิงรุกภายในไม่กี่วัน ชี้ยังมีแนวโน้มเพิ่มอีกหากตรวจ 100% สั่งตรวจซ้ำทุกเรือนจำ ทั้งนักโทษ เจ้าหน้าที่ ทุก 7 วัน ลือหึ่งเซ็นคำสั่งย้าย ผบ.เรือนจำเชียงใหม่


นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นพ.วีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม และ น.ส.โศรยา ฤทธิอร่าม ผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง แถลงสถานการณ์ผู้ต้องขังติดเชื้อ เพิ่มขึ้นต่อเนื่องว่า ผลตรวจค้นหาพบผู้ติดเชื้อจำนวนก้าวกระโดดจากการเร่งตรวจสอบเชิงรุกให้ครบ 100% พบเรือนจำ 15 แห่ง มีผู้ต้องขังติดเชื้อ ส่วนเรือนจำอีกกว่า 100 แห่ง ยังไม่พบ ได้สั่งการให้เฝ้าระวัง 8 เรือนจำใน กทม.อย่างเข้มข้น

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า กรมราชทัณฑ์มีผู้ต้องขังทั้งหมด 311,540 คน มีเจ้าหน้าที่กว่า 13,000 คน การติดเชื้อแบบก้าวกระโดด เพราะมีข้อจำกัดเรื่องเรือนจำมีความแออัด ซึ่งในต่างประเทศก็พบว่ามีการติดเชื้อในเรือนจำที่แออัดเช่นกัน


การตรวจหาเชื้อเชิงรุกในผู้ต้องขังในเรือนจำมีทั้งหมด 143 แห่ง มีเรือนจำ 15 แห่งที่พบผู้ติดเชื้อ ส่วนเรือนจำที่เหลือได้มีการเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ จึงกำชับให้ผู้บัญชาการเรือนจำต่าง ๆ ต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วทั้งการตรวจโรคและการป้องกัน โดยต้องตรวจด้วยวิธีการ SWAB 100% ทุกๆ 7 วัน ยืนยันจะดูแลรักษาผู้ต้องขังที่ติดเชื้ออย่างดีจนกว่าจะหาย ส่วนวัคซีนอยู่ระหว่างดำเนินการขอจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาฉีดให้กับผู้ต้องขังต่อไป

ด้าน นพ.วีระกิตติ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นโฆษก ศบค.เรือนจำ เปิดเผยว่า การที่ตรวจพบผู้ต้องขังติดเชื้ออย่างก้าวกระโดดมาจากการตรวจระยะสั้นในเวลา 3-4 วัน ทำให้ตัวเลขผู้ต้องขังติดเชื้อพุ่งสูงเร็ว

ส่วน 3 เรือนจำในกรุงเทพมหานคร ที่พบผู้ต้องขังติดเชื้อจำนวนมาก คือ เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร, เรือนจำพิเศษธนบุรี และทัณฑสถานหญิงกลาง เนื่องจากมีการรับผู้ต้องขังใหม่ทุกวัน และต้องพาผู้ต้องขังไปขึ้นศาล จึงทำให้เสี่ยงต่อการนำเชื้อจากภายนอกเข้ามา


อย่างไรก็ตาม ทางกรมราชทัณฑ์ก็พยายามจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น จึงขอให้ประชาชนและญาติผู้ต้องขังเชื่อมั่น ที่ผ่านมาด้วยการแพร่ระบาดของเชื้อสายพันธุ์อังกฤษที่แพร่เร็ว รวมทั้งเรือนจำต้องรับผู้ต้งขังจากภายนอกต่อเนื่อง จึงจำนนต่อสถานการณ์ผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น เพราะต้องรับคนภายนอกเรือนจำที่มีสถานการณ์ติดเชื้อภายนอกเข้ามา และยังต้องนำตัวผู้ต้องขังไปศาลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ได้ประสานและศาลให้ช่องทางแก้ปัญหาด้วยการเบิกความด้วยคอนเฟอเรนซ์ หรือไม่ก็ให้เลื่อนนัดออกไปก่อน ถ้าหากการเคลื่อนย้ายนักโทษจะทำให้เกิดการแพร่เชื้อ

สำหรับการแถลงข่าวครั้งนี้ใช้วิธีการไลฟ์ผ่านเพจเฟซบุ๊กประชาสัมพันธ์กรมราชทัณฑ์ ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปร่วมฟังการแถลงข่าวในห้อง เป็นการป้องกันไม่ให้มีการรวมตัวกันตามมาตรการสาธารณสุข

ทั้งนี้มีรายงานว่า ผู้บริหารกระทรวงยุติธรรมเร่งหาวิธีควบคุมแก้ปัญหาการแพร่ระบาดในเรือนจำที่มีตัวเลขผู้ต้องขังหลายพันคน โดยมีกระแสให้โยกย้าย ผบ.เรือนจำที่มีปัญหาผู้ต้องขังติดเชื้อจำนวนมาก โดยเฉพาะเรือนจำจังหวัดเชียงใหม่ และกระแสโยกย้ายอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ซึ่งในเวลา 13.00 น. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม จะไปประชุมร่วมกับผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน-ใต้ พายุฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนภาคใต้ มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนองเล็กน้อย

ยังระดมฉีดน้ำ-โฟม สกัดเพลิงไหม้โกดังสารเคมี

เหตุเพลิงลุกไหม้โกดังเก็บสารเคมี ที่จังหวัดระยอง ผ่านมากว่า 30 ชั่วโมงแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งทำงานอย่างหนักเพื่อทำให้เพลิงสงบ ขณะที่ล่าสุด จ.ระยอง ประกาศให้พื้นที่ 2 ตำบล เป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัย

“บิ๊กโจ๊ก” ถอนคำร้องเอาผิด “เศรษฐา” อ้างไม่ติดใจแล้ว

“บิ๊กโจ๊ก” ยื่น ป.ป.ช. ขอถอนคำร้องเอาผิด “นายกฯ เศรษฐา” กรณีปฏิบัติหน้าที่มิชอบตาม ม.157 อ้างไม่ติดใจดำเนินคดีแล้ว