สมุทรสาคร 12 พ.ค.- รมว.พม.-ประธานรัฐสภา ลงพื้นที่ จ.สมุทรสาคร มอบหน้ากากอนามัยให้กลุ่มเปราะบาง พร้อมให้กำลังใจเครือข่าย พม.สู้ภัยโควิด-19
นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เผยว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ที่ขยายวงกว้างไปทั่วประเทศ และส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างต่อเนื่อง กระทรวง พม. มีความห่วงใยและตระหนักถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ทั้ง เด็ก เยาวชน คนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาสในสังคม วันนี้ตนและนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เดินทางมาลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ณ ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อมอบหน้ากากอนามัยจำนวน 10,000 ชิ้น จากมูลนิธิเพื่อการศึกษาและสังคม ให้กับจังหวัดสมุทรสาคร โดยมีนายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นผู้แทนรับมอบ เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับกลุ่มเปราะบางและประชาชนในพื้นที่โดยมี นายอนุกูล ปีดแก้ว รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และนายธนสุนทร สว่างสาลี ผู้ตรวจราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมลงพื้นที่ดังกล่าว
จากนั้นนายจุติ ได้หารือร่วมกับพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทรสาคร (พมจ.สมุทรสาคร) ทีม One Home พม. สมุทรสาคร และประธานอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทรสาคร โดยได้ให้แนวทางสำคัญในการขับเคลื่อนงานพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ ได้แก่ โครงการบ้านเช่าราคาถูก โดยให้สำนักงานการเคหะแห่งชาติในพื้นที่ สำรวจความต้องการเช่าบ้านที่แท้จริง ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นการปรับเปลี่ยนรูปแบบจากการสร้างบ้านเพื่อขาย เป็นการสร้างบ้านเพื่อเช่า เนื่องจากประชาชนผู้มีรายได้น้อยไม่มีเงินก้อนสำหรับดาวน์บ้าน แต่เมื่ออาศัยอยู่ระยะยาวสามารถเปลี่ยนค่าเช่าเป็นเงินดาวน์บ้านได้ โดยมีค่าเช่าถูกกว่าราคาตลาดอย่างมาก เป็นการแก้ปัญหาให้ประชาชนที่ไม่มีที่อยู่อาศัยในระยะยาว
เรื่องการลงทุนกับทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะด็ก ซึ่งเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดในระยะยาว โดยจะร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ ภายใต้โครงการบูรณาการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือน ระหว่าง 12 กระทรวง 1 หน่วยงาน และเรื่องการช่วยเหลือประชาชนจำนวนมากที่ประสบปัญหาภัยธรรมชาติจากพายุ ทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหาย ตนได้กำชับ พมจ.สมุทรสาคร ให้ทำเรื่องเสนอของบประมาณสำหรับการซ่องแซมที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุและคนพิการ ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่อีกทางหนึ่งด้วย
สำหรับศูนย์ดูแลเด็ก ตนได้กำชับ พมจ.สมุทรสาคร ให้ไปสำรวจว่า พ่อแม่ ผู้ปกครอง ขาดแคลนอะไรบ้าง โดยเฉพาะนมสำหรับเด็ก อีกทั้งจะให้มีการอบรมเรื่องคุณภาพผู้ดูแลเด็กและการสร้างเด็กให้มีวินัย พร้อมกับการขับเคลื่อนโครงการ บวร (บ้าน-วัด-โรงเรียน) ที่มุ่งเน้นเรื่องสติและสมาธิของเด็ก และการตั้งโรงเรียนผู้ปกครอง เพื่อให้เลี้ยงดูบุตรหลานอย่างมีคุณภาพ เนื่องจากเวลาส่วนใหญ่เด็กอยู่ในความดูแลของพ่อแม่ ผู้ปกครอง ถึงวันละ 16 ชม. โดยจะมีการจัดทำหนังสือเรียนรู้ E-Book นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำเรื่องการส่งเสริมอาชีพแม่เลี้ยงเดี่ยวให้มีอาชีพและรายได้ที่มั่นคงในอนาคต ซึ่งเป็นอาชีพที่คอมพิวเตอร์ไม่สามารถทำได้ เช่น อาชีพเสริมสวย ตัดผม แต่งหน้า แต่งเล็บ นวดหน้า และนวดตัว เป็นต้น รวมทั้งตัดเย็บเสื้อผ้า ซึ่งทั้งหมดจะทำให้กลุ่มเปราะบางมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ทั้งการมีที่อยู่อาศัยและมีอาชีพ รายได้ที่มั่นคง.-สำนักข่าวไทย