วอน กทม. เร่งค้นหาจำแนกสีผู้ป่วยโควิดโดยเร็ว

สำนักข่าวไทย 9 พ.ค.-อธิบดีกรมการแพทย์ วอน กทม. เจ้าของพื้นที่ เร่งรัดให้สำนักการแพทย์-สำนักอนามัย ค้นหาจำแนกสีผู้ป่วยโควิดโดยเร็ว หลังพบผู้ป่วยโควิดที่คลองเตย เข้ารับรักษาที่อาคารนิมิบุตรเป็นสีเหลืองเพิ่มขึ้น ขณะ กทม. โอด คนป่วยล้น เตรียมขอ ก.สาธารณสุข ช่วย

นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวยอมรับพบผู้ป่วยปอดอักเสบเพิ่มขึ้นในโควิดระลอกเดือนเมษายน จึงเป็นที่มาต้องปรับแนวทางการให้ยาฟาวิพิราเวียร์เร็วขึ้น ในผู้ป่วยสีเขียวไม่มีอาการ แต่มีโรคร่วม ทำให้มีแนวโน้มการดำเนินของโรคโควิดรุนแรงมากขึ้น ทั้ง เบาหวาน, ความดันโลหิต, อ้วนน้ำหนักมากกว่า 90 กิโลกรัม, อายุมากกว่า 60 ปี, โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง รวมโรคปอดอื่นๆ, โรคไตเรื้อรัง, โรคหัวใจและหลอดเลือด รวมโรคหัวใจแต่กำเนิด, โรคหลอดเลือดสมอง และตับแข็ง ภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ ซึ่งจะช่วยให้ลดปอดอักเสบได้ แต่ทั้งนี้ การจะลดความรุนแรงของโรค ไม่ได้สำคัญอยู่ที่การให้ยาเร็ว แต่เป็นการค้นหาคัดกรองผู้ป่วยให้เร็วมากยิ่งขึ้น


นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้พบปัญหาการคัดกรองผู้ป่วยในพื้นที่คลองเตย อาจล่าช้าไม่รวดเร็ว ทำให้เริ่มพบผู้ป่วยในพื้นที่คลองเตย จากผู้ป่วยสีเขียว พัฒนาเป็นสีเหลืองแล้ว และเพิ่งถูกส่งตัวมาจากศูนย์แรกรับส่งต่อผู้ป่วยโควิด ที่สนามกีฬานิมิบุตรประมาณ 7-8 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยสีเหลือง 1-2 คน และพบว่าจากเดิมในพื้นที่คลองเตย พบผู้ป่วยสีเหลืองแค่ร้อยละ 4-5 แต่ปัจจุบันพัฒนาไป ร้อยละ 10 เมื่อเช้าที่ผ่านมา (9 พ.ค.) จึงได้มอบหมายให้ นพ.ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ ไปหารือกับสำนักอนามัย และ สำนักการแพทย์ กทม. เจ้าของพื้นที่ให้เร่งแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ ว่าทำอย่างไรจะเร่งคัดกรอง และนำตัวผู้ป่วยที่ต้องรับการรักษาเข้าระบบให้เร็วที่สุด ก่อนที่ผู้ป่วยจะมีการอาการรุนแรงมากขึ้น

นางเลิศลักษณ์ ลีลาเรืองแสง รองผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ ยอมรับว่า หลังดำเนินการตรวจคัดกรองเชิงรุกชุมชนในพื้นที่เสี่ยงของ กทม. พบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก โดยเมื่อวานนี้พบผู้ติดเชื้อกว่า 300 คน มีทั้งผู้ป่วยสีเขียว และสีเหลือง ซึ่งผู้ป่วยทั้ง 2 กลุ่มนี้ จะต้องเข้ารับการดูแลภายใน รพ.สนาม หรือฮอสพิเทล แต่ปัญหา คือฮอสพิเทล จะขอรับผู้ติดเชื้ออายุไม่เกิน 50 ปีขึ้นไป ทำให้สำนักการแพทย์ต้องส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลในสังกัด กทม. ทั้ง 11 แห่ง และโรงพยาบาลสนามที่มีอยู่ ซึ่งขณะนี้ประสบภาวะคนไข้ล้นโรงพยาบาล อย่างเช่น ที่โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน อย่างไรก็ตาม หากจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก กทม.คงต้องประสานไปยังกระทรวงสาธารณสุข เพื่อนำผู้ติดเชื้อเข้าสู่การรักษาในโรงพยาบาลสนามของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งส่วนของศูนย์แรกรับของอาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ และโรงพยาบาลสนามที่กำลังเปิดเพิ่มเติม.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้ห้องพักคอนโดฯ หรูกลางเมืองพัทยา

เพลิงไหม้คอนโดมิเนียมหรูกลางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ระดมรถน้ำควบคุมเพลิงได้ทัน ทำให้ไฟไม่ลุกลามห้องข้างเคียง

จับ “ใบเฟิร์น” อินฟลูฯสาวชื่อดัง โพสต์ชวนเล่นพนันออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์ รวบ “ใบเฟิร์น กุลธาดา” อินฟลูฯ สาวแนวเซ็กซี่ ผู้ติดตามหลักล้าน แปะลิงก์เว็บพนันออนไลน์ เจ้าตัวยอมรับ ทำมาแล้ว 2-3 เดือน

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ กับมีลมแรง โดยมีอากาศเย็นในตอนเช้าในภาคเหนือและภาคอีสาน ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง

คุมตัวสาวใหญ่โหดฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ทำแผนฯ

ตร. คุมตัวสาวใหญ่โหด ลวงเพื่อนฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าตัวสำนึกผิด ฝากขอโทษญาติผู้เสียชีวิต ยอมรับทำเพราะติดหนี้พนันออนไลน์

Drone video captures severe flooding caused by super typhoon Man-Yi in the Philippines

ฟิลิปปินส์น้ำท่วมหนัก หลังไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” ถล่ม

มะนิลา 18 พ.ย. – ฟิลิปปินส์เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ หลังจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ (Man-yi) พัดถล่มเกาะลูซอน ช่วงสุดสัปดาห์ เป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ในรอบ 1 เดือน ไต้ฝุ่นขึ้นฝั่งด้วยความเร็วลมสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดคลื่นสูง 7 เมตรบริเวณริมชายฝั่ง ส่งผลกระทบประชากรกว่า 760,000 คน และทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่จังหวัดนูเอวาเอซีฮา ทางตอนกลางของเกาะลูซอน ที่มีน้ำท่วมสูงเฉลี่ยเกือบ 1 เมตร นอกจากนี้ยังทำให้เกิดดินถล่มและสาธารณูปโภคพังเสียหายมากมาย ประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนต้องอพยพไปอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ พายุหม่านหยี่เป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในช่วง 1 เดือน ทั่วทั้งประเทศต้องตื่นตัวเพื่อรับมือภัยพิบัติด้วยมาตรการต่าง ๆ.-812(814).-สำนักข่าวไทย