กทม.ลุยฉีดวัคซีนกลุ่มเสี่ยงในชุมชน 3 เขตใหญ่

กทม. 7 พ.ค.-กทม.จัดทีมดาวกระจายใน 6 กลุ่มเขต คัดกรองกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิดให้ได้ 3พันคนต่อวัน พร้อมฉีดวัคซีนในชุมชนใหญ่ที่พบการแพร่ระบาดสูง เช่น ชุมชนคลองเตย เขตคลองเตย ,ชุมชนบ่อนไก่ เขตปทุมวัน ชุมชนบ้านขิง และเดอะมอลล์ เขตบางแค


นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (ปลัด กทม.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ที่แพร่กระจายเป็นวงกว้าง กทม.ร่วมกับสถาบันและป้องกันโรคเขตเมือง(สปคม.) กระทรวงสาธารณสุขและภาคีเครือข่าย จัดทีมลงพื้นที่เสี่ยงเพื่อตรวจค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกหาผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (Active Case Finding หรือ ACF) ด้วยการ SWAB อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง รวมทั้งจัดทีมพิเศษเฉพาะกิจลงพื้นที่ดาวกระจายใน 6 กลุ่มเขต ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 11 พ.ค.64 โดยมีเป้าหมายคัดกรองประชาชนกลุ่มเสี่ยงให้ได้ 3,000 คนต่อวัน

ดังนี้
กลุ่มเขตกรุงเทพเหนือ : ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่
กลุ่มเขตกรุงเทพตะวันออก : สวน 70 พรรษามีนบุรี เขตมีนบุรี
กลุ่มเขตกรุงเทพกลาง : สนามกีฬาห้วยขวาง เขตห้วยขวาง
กลุ่มเขตกรุงเทพใต้ : ใต้ทางด่วนพระราม 3 เขตยานนาวา
กลุ่มเขตกรุงธนเหนือ : สวนสาธารณะใต้สะพานพระราม 8 เขตบางพลัด และกลุ่มเขตกรุงธนใต้ : เดอะมอลล์บางแค เขตบางแค


ปัจจุบันอัตราการแพร่ระบาดของโควิด-19 อยู่ในระดับสูงส่วนใหญ่พบในชุมชนที่มีประชากรหนาแน่น เช่น ชุมชนคลองเตย เขตคลองเตย ชุมชนบ่อนไก่ เขตปทุมวัน ชุมชนบ้านขิงและเดอะมอลล์ เขตบางแค ซึ่ง กทม.ได้เข้าดำเนินการเร่งตรวจหาเชื้อเชิงรุกกลุ่มเสี่ยงในชุมชน พร้อมทั้งฉีดวัคซีนเป็นกรณีฉุกเฉินเพื่อป้องกันกลุ่มเสี่ยงเป็นอัตราลดการเจ็บป่วยและเสียชีวิต

ขณะที่วานนี้ (6พ.ค.)สำนักงานเขตดินแดง ร่วมกับศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่เขตดินแดง ลงพื้นที่อำนวยความสะดวกจุดบริการตรวจคัดกรองโควิด-19 จาก รพ.เกษมราษฎร์ ณ ลานกีฬาห้วยขวาง เขตดินแดง โดยตรวจคัดกรองกลุ่มผู้เสี่ยงสูงในตลาดห้วยขวาง แบ่งเป็นรอบเช้าและบ่ายรอบละ 300 คน รวมยอดตรวจทั้งหมด 600 คน ซึ่งทาง รพ.เกษมราษฎร์จะเข้ามาตรวจอีกครั้งในวันเสาร์ที่ 8 พ.ค.นี้ให้กับบุคคลต่างด้าวตั้งแต่เวลา08.00 น.

ส่วนสำนักงานเขตคลองเตย ร่วมกับ สปคม.ให้บริการ SAWB ตรวจหาเชื้อ 3 จุด เมื่อวานนี้ (6พ.ค.)ได้แก่1.จุดวัดสะพาน จำนวน 1,124 ราย , 2.จุด รร.ชุมชนพัฒนา จำนวน 994 ราย 3.จุดตลาดคลองเตย จำนวน 769 ราย รวมทั้งสิ้น 2,887 ราย และให้บริการฉีดวัคซีน บริเวณโรงเรียนวัดคลองเตย แบ่งเป็นวัคซีนซิโนแว็กจำนวน 735 ราย วัคซีนแอสตราเซเนกา จำนวน 157 ราย รวมทั้งสิ้น 892 ราย


โดยในวันนี้ (7 พ.ค.) สำนักงานเขตคลองเตย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะให้บริการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุก (Swab) บริเวณวัดสะพาน และบริเวณโรงเรียชุมชนพัฒนา และให้บริการฉีดวัคซีน บริเวณโรงเรียนวัดคลองเตย และโลตัสพระราม 4 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]