สายด่วน สปสช. 1330 หาเตียงภายใน 24 ชม.

กรุงเทพฯ 5 พ.ค.- สปสช.เผยสายด่วน 1330 จัดหาเตียงให้ผู้ป่วยโควิดแล้วกว่า 2,600 ราย ระบุต้องหาเตียงให้ได้ภายใน 24 ชั่วโมง และลดจำนวนผู้ป่วยที่ค้างอยู่ในระบบให้เร็วที่สุด ย้ำคนไทยกลุ่มเสี่ยงตรวจฟรี รักษาฟรีไม่ว่าจะไปโรงพยาบาลรัฐหรือเอกชน


นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงการดำเนินงานของสายด่วน 1330 ในการประสานจัดหาเตียงแก่ผู้ป่วยโควิด-19 ว่า บทบาทของ 1330 คือการสนับสนุนสายด่วนของกรมการแพทย์ และศูนย์เอราวัณ กทม. เนื่องจากการระบาดครั้งนี้ ส่วนใหญ่ผู้ป่วยอยู่ใน กทม. ทำให้บางครั้งโรงพยาบาลที่รับตรวจหาเชื้อเตียงเต็ม ไม่สามารถรับผู้ป่วยเพิ่มได้ ก็สามารถโทรมาที่สายด่วน 1330 เพื่อให้ประสานจัดหาเตียงให้ ซึ่งที่ผ่านมาสายด่วน 1330 สามารถช่วยประสานหาเตียงให้ผู้ป่วยได้ประมาณวันละ 100 ราย ยอดรวมนับตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.64 เป็นต้นมา กว่า 2,600 ราย

“ตอนนี้เราขยายคู่สายเพิ่มจาก 300 คู่สาย เป็น 600 คู่สาย มีอัตราสายหลุดประมาณ 1% แต่ตั้งเป้าลดลงให้เหลือ 0% รวมทั้งปรับกระบวนการทำงาน โดยจะแบ่งเจ้าหน้าที่เป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรก คือ คนที่รับสายจากผู้ป่วย ซักประวัติ สอบถามอาการเบื้องต้น จากนั้นจะมีอีกกลุ่มโทรกลับไปประสาน เพื่อคัดกรองว่าผู้ป่วยเป็นกลุ่มอาการระดับสีอะไร จากนั้นจะมีอีกกลุ่มที่คอยประสานจัดหาเตียงให้ ซึ่งการจัดระบบลักษณะนี้ ทำให้การทำงานรวดเร็วขึ้น” นพ.จเด็จ กล่าว


นพ.จเด็จ กล่าวว่า ในส่วนของการจัดหาเตียงนั้น สปสช.จะพยายามจัดหาให้ผู้ป่วยเข้ารับการดูแลในโรงพยาบาลให้ได้แบบวันต่อวัน หรือภายใน 24 ชั่วโมง เช่น ถ้าได้รับแจ้งมาช่วงหัวค่ำหรือกลางคืน ก็จะนัดแนะให้ผู้ป่วยเตรียมตัวแล้วประสานส่งรถไปรับตัวที่บ้านตั้งแต่เช้า เพื่อให้ถึงโรงพยาบาลก่อน 09.00 น. รวมทั้งยังมีการส่งตัวในระหว่างวันด้วย

“การขอเตียงจะประสานกับกรมการแพทย์ รวมทั้งโทรประสานโดยตรงกับโรงพยาบาลเอกชน ความยุ่งยากก็คือ อยู่ๆ จะบอกว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อแล้วเอาเข้าโรงพยาบาลเลยไม่ได้ มันต้องเอาผลตรวจมาแสดงก่อน และแต่ละโรงพยาบาลมีความต้องการเอกสารยืนยันผลการตรวจไม่เหมือนกัน หรือมีความเข้มงวดในการพิจารณารับหรือไม่รับตัวต่างกัน บางครั้งผู้ป่วยก็บอกแค่ว่าตัวเองติดเชื้อ แต่ไม่มีเอกสารผลตรวจอะไรเลย ทีมจัดหาเตียงก็ต้องไปค้นข้อมูลจากกรมควบคุมโรค ต้องประสานงานกันเยอะ ทำให้ช้านิดหน่อย ต้องใช้เวลา 3-4 ชั่วโมง/ราย เพื่อให้ได้ตามข้อกำหนดของแต่ละโรงพยาบาล แต่ส่วนใหญ่ถ้าเป็นกลุ่มที่มีอาการระดับสีเขียว ก็จะจัดหาเตียงได้เร็ว แต่ถ้ากลุ่มที่อาการเปลี่ยนระดับจากสีเขียวมาเป็นสีเหลือง หรือสีเหลืองมาเป็นสีแดง ก็จะนานหน่อย เพราะต้องจัดระบบส่งต่อและเตรียมให้ได้รับการรักษาดีที่สุด” นพ.จเด็จ กล่าว

นพ.จเด็จ กล่าวต่อไปว่า สำหรับผู้ป่วยที่ให้สายด่วน 1330 ประสานหาเตียงให้ ต้องขอความร่วมมือว่า อาจจะเลือกสถานที่ไม่ได้ อาจจะไม่ได้อยู่ใกล้บ้าน หรืออยากได้ห้องพิเศษหรืออาหารพิเศษก็อาจจะไม่ได้ เพราะสถานการณ์ตอนนี้ไม่ปกติ เตียงในโรงพยาบาลก็มีความตึงตัว ดังนั้น ขอให้แพทย์เป็นผู้พิจารณาจัดการต่างๆ ให้ตามความเหมาะสม ขณะเดียวกันก็ต้องขอความร่วมมือจากประชาชนด้วยว่า ขอให้รักษาความเข้มข้นในการปฏิบัติตามมาตรการใส่หน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง และถ้าไม่จำเป็นขอให้อยู่บ้าน มาตรการเหล่านี้จะช่วยให้จำนวนผู้ป่วยไม่เพิ่มขึ้นเร็วจนโรงพยาบาลรับไม่ไหว


“ในส่วนของ สปสช.เอง เรามีบทบาทในการสนับสนุนงบประมาณ ไม่ทำให้เรื่องค่าใช้จ่ายเป็นอุปสรรคในการเข้าถึงบริการ อย่างเรื่องค่าตรวจคัดกรองของคนไทยทั้งประเทศ สปสช.ก็สนับสนุน ดังนั้น คนไทยที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสามารถไปตรวจได้ ทั้งที่โรงพยาบาลรัฐและเอกชน โดยไม่เสียค่าบริการ และถ้าตรวจแล้วพบว่าติดเชื้อ ก็จะได้รับการรักษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเช่นกัน ไม่ว่าจะอยู่ในโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม หรือ Hospitel โดยเฉพาะผู้ที่รักษาในโรงพยาบาลเอกชน ขอย้ำว่า อัตราค่ารักษาต่างๆ สปสช. กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และโรงพยาบาลเอกชน ได้ตกลงกันตั้งแต่ปีก่อนแล้ว แต่อาจจะมีปัญหาที่หน้างานที่เข้าใจไม่ตรงกัน หรืออาจร้องเรียนว่า สปสช.จ่ายเงินช้า จึงมีการเรียกเก็บจากผู้ป่วยเอาไว้ก่อน” นพ.จเด็จ กล่าว

อย่างไรก็ดี ขณะนี้ สปสช.ได้ปรับระบบการจ่ายเงินให้เร็วขึ้นจากทุก 1 เดือน เป็นทุก 2 สัปดาห์ รวมทั้งมีสายด่วนให้โรงพยาบาลโทรมาปรึกษาเรื่องการเบิกรายการต่างๆ ทั้งนี้ก็เพื่อให้โรงพยาบาลเอกชนมีสภาพคล่องที่ดี และไม่เกิดการเรียกเก็บเงินจากผู้ป่วยนั่นเอง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

“แพทองธาร” ถกต่อยอดซอฟต์พาวเวอร์ ดัน 5 ยุทธศาสตร์

บ้านพิษณุโลก 14 ก.ค.- “แพทองธาร” เข้าบ้านพิษณุโลก หารือบีโอไอ – ทีมซอฟต์พาวเวอร์ไทย หนุนลงทุน พร้อมต่อยอด ดัน 5 ยุทธศาสตร์ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เดินทางเข้าบ้านพิษณุโลก ในเวลา 09.50 น. เพื่อประชุมกับทีมที่ปรึกษาและคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI รวมถึงหน่วยงานด้านเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับและขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ไทยแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะเป็นการหารือต่อยอดจากที่นางสาวแพทองธาร ได้ประกาศเดินหน้ายุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ไทย 5 ด้าน ทั้ง อาหารไทย มวยไทย ไทยเวลเน็ต ภาพยนต์ไทย และอัญมนี บนเวที Splash Softpower Forum 2025 ที่จัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เมื่อวันที่ 8-11 ก.ค. ที่ผ่านมา .-316 -สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 14 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร […]

พระปรางค์วัดอรุณ

ข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลกของยูเนสโกแล้ว นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “ข่าวดีของคนไทย “พระปรางค์วัดอรุณ ราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ได้รับการบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก (Tentative List) ของยูเนสโกแล้วค่ะ ดิฉันได้รับรายงานจากคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงปารีส แจ้งว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าพระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นหนึ่งในรายชื่อบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการยกระดับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์ในอนาคต กระทรวงวัฒนธรรมมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการจัดทำเอกสารเสนอชื่อ (Nomination Dossier) ควบคู่กับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการพื้นที่ตามหลักสากล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ขั้นตอนต่อไป ความคืบหน้านี้เป็นมากกว่าการอนุรักษ์สถานที่ แต่คือการยืนยันอัตลักษณ์ไทยที่งดงามและทรงคุณค่าในสายตาชาวโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่นี้” .-316 สำนักข่าวไทย

ตรวจสอบรายรับรายจ่ายวัดใหญ่จอมปราสาท

สมุทรสาคร 13 ก.ค. – เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดใหญ่จอมปราสาท นำมาเทียบกับเส้นเงินของของเจ้าอาวาสที่หนีไป หลังตรวจพบโอนเงินให้สีกา ก. กว่า 1 ล้านบาท ที่วัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำคณะเข้าพบ พระครูสาครสุตกิจ เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เจ้าอาวาสวัดน้อยนางหงษ์ คณะพระสงฆ์ (พระลูกวัด) วัดใหญ่จอมปราสาท ผู้นำชุมชน และคณะกรรมการวัด เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ระบบการเงินในวัดใหญ่จอมปราสาท เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ตรวจพบว่าได้โอนเงินกว่า 1 ล้านบาทไปให้สีกา ก. แต่ยังไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ประเด็นที่ต้องการทราบเพิ่มเติมคือ เงินที่โอนให้สีกาเป็นเงินส่วนไหน แล้วเงินวัดมีรายรับจากที่ใดบ้าง มีรายจ่ายอย่างไร รวมถึง เงินวัดนั้นเข้าบัญชีใคร มีไวยาวัจกรณ์เบิกจ่ายหรือไม่ หรือใครเป็นผู้ทำหน้าที่รับและเบิกจ่ายเงินทั้งหมด ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงว่า ทางวัดยังไม่มีไวยาวัจกรวัดคนใหม่ หลังจากคนเก่าลาออกไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ส่วนเงินวัดนั้นเจ้าอาวาสเป็นผู้บริหารแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเงินวัดก็จะมีรายรับมาจากให้ที่จอดเรือบริเวณหน้าวัด ประมาณเดือนละ […]