นนทบุรี 4 พ.ค. – “พระพยอม” ชี้ “พระมหาสมปอง” รีวิวสินค้า แสดงความคิดเห็นทางการเมือง และเป็นที่ปรึกษาสโมสรฟุตบอล ผิดทางโลก แต่พระธรรมวินัยไม่มีบัญญัติ อาจถูกเจ้าคณะปกครองว่ากล่าวตักเตือน ด้านที่ประชุมมหาเถรสมาคม มีมติชี้ “พระมหาสมปอง” เข้าข่ายยุ่งเกี่ยวการเมือง และการรีวิวสินค้าไม่ใช่กิจของสงฆ์
พระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวถึงกรณีพระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต พระนักเทศน์ชื่อดัง วัดสร้อยทอง แสดงความคิดเห็นการทำงานของรัฐบาลช่วงสถานการณ์โควิด-19 ผ่านสื่อช่องทางต่างๆ รีวิสินค้า และเป็นที่ปรึกษาสโมสรฟุตบอลแห่งหนึ่งที่จังหวัดมหาสารคาม ว่าถือเป็นเรื่องแปลกใหม่ที่ไม่เคยมีบัญญัติไว้ในพระธรรมวินัย เรื่องนี้ไม่ถึงขั้นอาบัติร้ายแรง แต่ว่าเป็นโทษทางโลก หรือโลกวัชชะ ข้อเสียหายที่ชาวโลกติเตียนว่าไม่เหมาะสมกับสมณะ ซึ่งเข้ากับสุภาษิตที่ว่า สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง จากที่เคยทำงานร่วมกันมากับพระมหาสมปอง ถือว่าทำประโยชน์ให้กับพระศาสนา โดยเฉพาะทำให้วัยรุ่นหันมาสนใจธรรมะ เป็นเรื่องที่ไม่หนักหนามาก ไม่ถึงขั้นถูกลงโทษ คงจะถูกตักเตือน และถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์ ไม่มีวินัยบัญญัติว่าการรีวิวหรือโฆษณาสินค้าจะขาดจากความเป็นพระ หรืออาบัติ ซึ่งน่าเห็นใจว่าพระมหาสมปองอาจพลาดพลั้งไปได้ ส่วนกรณีการเป็นที่ปรึกษา สโมสรฟุตบอล ต้องรอติดตามข้อเท็จจริงก่อน ไม่ถึงขั้นร้ายแรง เพียงแต่ไม่เหมาะสม ทางเจ้าคณะปกครองคงมีการว่ากล่าวตักเตือน ซึ่งทางพระมหาสมปองคงไม่ดื้อดึง ต้องยอมรับ ยอมถอย
พระพยอมฝากแง่คิดถึงพระนักเทศน์ นักเผยแพร่รุ่นน้อง ว่าต้องถือสุภาษิตโบราณว่า สี่เท้าอย่าให้พลาด ถ้าเป็นปราชญ์อย่าให้พลั้ง ต้องระวัง คำว่าถูกตำหนิติเตียน บัณฑิตเมื่อถูกติเตียนแล้วต้องยอมรับผิด แก้ไขปรับปรุง และต้องมุ่งมั่นเป็นกำลังของพระศาสนาต่อไป
ด้านเลขาฯ และผู้ติดตามพระมหาสมปอง ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้พระมหาสมปองยังคงปฏิบัติกิจนิมนต์ที่ต่างจังหวัด และยังไม่ได้รับหนังสือแจ้งข้อร้องเรียนจากทางสำนักงานพระพุทธศาสนา พระมหาสมปองจึงยังไม่สามารถชี้แจงรายละเอียดได้ขณะนี้ว่ามีการร้องเรียนอะไรบ้าง และยังไม่ขอให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน
เลขาฯ กล่าวว่า เบื้องต้นที่ทราบจากข่าวมีข้อร้องเรียนว่า พระมหาสมปองมีการรีวิวสินค้านั้น เป็นข้าวกล้องที่ลูกศิษย์นำมาถวายและให้ช่วยประชาสัมพันธ์ ไม่ได้เป็นไปในเชิงพาณิชย์ ส่วนกรณีมีข่าวว่าเป็นที่ปรึกษาสโมสรฟุตบอล แห่งหนึ่งของจังหวัดมหาสารคาม เป็นการเข้าใจผิด ลูกศิษย์เพียงนิมนต์ไปให้ศีลให้พรเพื่อความเป็นสิริมงคล
ด้านนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้สั่งการให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เสนอเรื่องนี้ต่อที่ประชุมมหาเถรสมาคม เพื่อพิจารณาความเห็นต่อการแสดงออกที่ไม่เหมาะสมดังกล่าว ซึ่งถือว่าไม่เป็นกิจของสงฆ์ ล่าสุดที่ประชุมมาหาเถรสมาคม ครั้งที่ 11/2564 เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2564 มีมติเห็นว่าการกระทำดังกล่าวของพระมหาสมปอง เข้าข่ายการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง และเป็นการแสดงที่ไม่เหมาะสม โดยมอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติประสานพระสังฆาธิการที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เร่งดำเนินการตามมติมหาเถรสมาคมโดยด่วน โดยให้ประสานเจ้าอาวาสวัดต้นสังกัด รวมถึงเจ้าคณะปกครองสงฆ์ที่เกี่ยวข้อง พร้อมตรวจสอบพฤติกรรมของพระสงฆ์ ที่มีการกระทำที่ไม่ใช่กิจของสงฆ์ เพื่อมิให้เกิดความเสื่อมเสียวงการสงฆ์และพระพุทธศาสนาอีกต่อไป.-สำนักข่าวไทย