กทม. เปิด รพ.สนาม แห่งที่ 5 รองรับผู้ป่วยโควิด

กทม. 3 พ.ค.-กทม. เปิด รพ.สนาม แห่งที่ 5 รองรับผู้ป่วยโควิด นำร่องจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ป้องกันเชื้อลุกลาม

เวลา 16.00 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตรวจความพร้อม “โรงพยาบาลเอราวัณ 3” ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสนาม กทม. แห่งที่ 5 เพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด โดยมี นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร แพทย์หญิงวันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักการแพทย์ สำนักอนามัย สำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว ผู้บริหารเขตทุ่งครุ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจเยี่ยม ณ ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ (บางมด) เขตทุ่งครุ


ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) มีการระบาดเพิ่มขึ้นและเป็นวงกว้าง ดังนั้นเพื่อเป็นการควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อไปยังชุมชนในเขตกรุงเทพฯ และลดความแออัดของผู้ติดเชื้อที่มีอาการไม่รุนแรงในการเข้ารับบริการในโรงพยาบาล กรุงเทพมหานครจึงจัดตั้ง “โรงพยาบาลเอราวัณ 3” ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสนาม โดยใช้พื้นที่ของศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติบางมด เปิดให้บริการผู้ป่วยโควิดที่ไม่มีอาการหรือมีอาการไม่รุนแรง (โควิดเขียว) และสำหรับดูแลผู้ป่วยติดเชื้อที่มีอาการเล็กน้อย (โควิดเหลือง) เข้าดูแลรักษาแบบผู้ป่วยในตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ใช้พื้นที่อาคารโรงยิมฯ จำนวน 4 อาคาร จัดแยกเป็นพื้นที่ของผู้ป่วยชาย-หญิง ได้อย่างชัดเจน โดยยิม1 และยิม2 จะเป็นของผู้ป่วยชาย 2 อาคาร ส่วนยิม3 และยิม4 จะเป็นของผู้ป่วยหญิง สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 342 เตียง ใช้สำหรับดูแลผู้ป่วยติดเชื้อที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อย (โควิดเขียว) ประกอบด้วยยิม 1 ชาย รองรับได้ 103 เตียง และยิม3 หญิง 75 เตียง รวม 178 เตียง และสำหรับดูแลผู้ป่วยติดเชื้อที่มีอาการเล็กน้อย(โควิดเหลือง) ประกอบด้วยยิม2 ชาย 75 เตียง ยิม4 หญิง 89 เตียง รวม164 เตียง มีเครื่องเอ็กซเรย์ เครื่องทำออกซิเจน และอุปกรณ์อื่นๆ สำหรับดูแลผู้ป่วย โดยมีบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์เป็นผู้ดูแล โดยจะเปิดรับผู้ป่วยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คาดว่าโรงพยาบาลสนามของกรุงเทพมหานครทุกแห่ง ซึ่งขณะนี้มีอยู่ประมาณ 2,000 เตียง มีจำนวนเตียงเพียงพอสำหรับรองรับผู้ป่วยที่ กทม. ได้ลงพื้นที่ตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชนต่างๆ

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยโควิดเขียวติดเชื้อลุกลามหรือมีอาการรุนแรงขึ้น จนกลายเป็นโควิดเหลือง หรือแดง กทม. จะให้ยาฟาวิพิราเวียร์แก่ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดเขียวรายใหม่ที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสนามทันทีตั้งแต่วันแรก ซึ่งกรุงเทพมหานครได้จัดซื้อมา 50,000 เม็ด และได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี อีก 50,000 เม็ด รวม 100,000 เม็ด โดยจะเริ่มแจกผู้ป่วยที่เข้ามา รพ.สนาม คนละ 50 เม็ด ซึ่งใช้เวลารับประทานประมาณ 5 วัน และเชื่อว่าจะหายจากโรคไม่ลุกลาม บานปลาย และระยะต่อไป กทม.จะซื้อยาฟาวิพิราเวียร์ผ่านทางมูลนิธิจุฬาภรณ์ อีก 500,000 เม็ด ซึ่งโดยปกติยาฟาวิพิราเวียร์ทางการแพทย์จะเริ่มให้ผู้ป่วยเริ่มกินเมื่อการติดเชื้อแสดงอาการ(โควิดเหลือง) แต่ กทม. เห็นว่าควรให้ทานตั้งแต่เริ่มติดเชื้อเพื่อรักษาและป้องกันการลุกลามของโรค โดยกทม.จะนำร่องให้ยาก่อน


ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครได้จัดเตรียมโรงพยาบาลสนามเพื่อรองรับผู้ติดเชื้อโควิด 19 เนื่องจากต้องใช้เตียงในโรงพยาบาลสำหรับรักษาโรคอื่นๆ ด้วย อย่างไรก็ดีโรงพยาบาลสนามทุกแห่งมีแนวทางการจัดการความปลอดภัย การป้องกันการแพร่เชื้อมาตรฐานเดียวกับโรงพยาบาลหลัก โดยจะรับดูแลผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อย หากมีอาการเปลี่ยนแปลงรุนแรงขึ้นจะส่งไปรักษาในโรงพยาบาลหลัก ทั้งนี้ได้กำหนดแนวทางการปฏิบัติของผู้ป่วยโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ได้แก่ ต้องอยู่ภายในหอพักผู้ป่วยห้ามออกจากห้องโดยเด็ดขาด สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในโรงพยาบาลสนาม ห้ามบ้วนเสมหะหรือน้ำลายในถังขยะ เสื้อผ้าใส่ลงถังผ้าเปื้อน และปิดฝาให้เรียบร้อย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ ไม่เดินพลุกพล่าน ไม่จับกลุ่มสนทนา และไม่เข้าไปในเขตปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งไม่อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมทุกกรณี แต่สามารถนำของเยี่ยมฝากไว้ได้ตามเวลาและสถานที่ทางโรงพยาบาลกำหนด ห้ามถ่ายภาพหรือโพสต์ข้อความที่เกี่ยวข้องลงบนสื่อสังคมออนไลน์ในลักษณะที่ก่อให้เกิดความเสียหายขณะรักษาตัว ห้ามสูบบุหรี่ ห้ามเสพติดของมึนเมา และห้ามการพนัน

สำหรับผู้ป่วยที่จะเข้ารักษา ณ โรงพยาบาลสนาม ขอให้เตรียมพร้อมสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับการมาอยู่ที่โรงพยาบาลสนาม ได้แก่ เสื้อผ้า จำนวน 4-5 ชุด หรือพอดีกับจำนวนที่เข้าพัก 14 วัน ของใช้ในกิจวัตรประจำวัน เช่น สบู่ แชมพู โฟมล้างหน้า แปรงสีฟัน ยาสีฟัน และของใช้อื่นๆ ที่จำเป็น โดยเฉพาะผ้าอนามัยสำหรับผู้หญิง ยารักษาโรคประจำตัว รวมทั้งข้อมูล ประวัติการรักษาจากโรงพยาบาลเดิม(ถ้ามี) โทรศัพท์มือถือ สายชาร์จ ใช้สำหรับดาวน์โหลดแอปลิเคชั่นไลน์ ในการติดต่อหอผู้ป่วยในการสื่อสารขณะรักษาตัวอยู่ภายในโรงพยาบาลสนาม และหากจำเป็นต้องใช้น้ำร้อนสามารถนำกระติกน้ำร้อนมาเองได้ เนื่องจากโรงพยาบาลไม่มีบริการในส่วนนี้

สำหรับจำนวนผู้ป่วยครองเตียงในโรงพยาบาลสังกัด กทม. โรงพยาบาลสนาม กทม. และ Hospitel มีจำนวนทั้งสิ้น 1,458 ราย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 19 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 5 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย คลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 19-24 กรกฎาคม 2568) ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้ วันที่ 19 กรกฎาคม 2568ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานีภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสระบุรีภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราดภาคใต้: จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี […]

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]