กทม. 3 พ.ค.-“นพ.ประสิทธิ์” วอนคนไทยกำลังวิ่งเข้าสู่จุดวิกฤติโควิด-19 ช่วยกันใส่หน้ากากตลอดเวลา แม้อยู่ในบ้านตัวเอง มั่นใจฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ อย่ารอจนวิกฤติรุนแรงจนแก้ไขไม่ได้
ทำเนียบ วันนี้ (3 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าวประจำวันของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. ได้นำคำให้สัมภาษณ์ของ นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล มาเปิดก่อนการแถลงข่าว โดย นพ.ประสิทธิ์ ระบุว่าหากเราจำกันได้ วันนี้ครบรอบ 1 ปี วันที่ 3 พฤษภาคมเมื่อปีที่แล้ว เป็นวันแรกที่เราเริ่มผ่อนคลายมาตรการต่างๆ แต่หนึ่งปีให้หลัง 3 พฤษภาคมในวันนี้ทุกอย่างเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ขณะนี้เราอยู่ในช่วงขาขึ้นของวิกฤตโควิด-19 เรามีอัตราการเสียชีวิตเมื่อ 1 เดือนก่อนหน้านี้ประมาณแค่ 0.12% แต่ในวันนี้ตัวเลขของเมื่อวานขึ้นไปถึง 0.36% ค่าตัวเลขต่างๆ ไม่ลดลง และกลับกันยังเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้น นั่นหมายความว่าเรากำลังวิ่งเข้าไปถึงจุดวิกฤตที่แท้จริง
“ผมขอกราบเรียนทุกท่านว่าสิ่งที่จากนี้เป็นต้นไป ผมขอความกรุณาคนไทยทุกคน เราต้องช่วยกันแล้ว การใส่หน้ากากอยู่ตลอดเวลา ผมขอย้ำว่าการใส่หน้ากากอยู่ตลอดเวลาไม่เว้นแม้กระทั่งอยู่บ้าน ตัวเลขในสัปดาห์นี้อัตราการแพร่ระบาดเกิดขึ้นในบ้าน ในครอบครัวกับเพื่อนฝูง ตอนนี้ถึงแม้อยู่บ้านเราไม่รู้หรอกว่าใครจะนำเชื้อเข้ามาหรือเปล่า รักษาระยะห่าง หมั่นทำความสะอาดมือ ผมย้ำอีกครั้ง เป็นหน้าที่คนไทยทุกคนต้องช่วยกันแล้ว” นพ.ประสิทธิ์ กล่าว และว่ามาตรการของผู้ประกอบการก็ขอให้ทำตามที่รัฐบาลกำหนดเอาไว้ มาตรการต่างๆ เหล่านั้นไม่ได้คิดเอง เป็นมาตรการมาจากข้อมูลต่างๆแล้ว มีกระบวนการในการทบทวนว่าอันไหนจำเป็น อันไหนไม่จำเป็น
นพ.ประสิทธิ์ ยังกล่าวถึงการฉีดวัคซีน ว่า วัคซีนเป็นหนึ่งในเครื่องมือตัวหนึ่งที่จะทำให้เราปลอดภัย มีข่าวลือเยอะมากในเรื่องของวัคซีน แต่ให้ข้อมูลว่าความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีน เมื่อเทียบกับตัวเลขอัตราการเสียชีวิตหรือความเสี่ยงจาก โควิด-19 นั้นแตกต่างกันอย่างมากมาย ฉีดวัคซีน 1 ล้านคน มีโอกาสที่มีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง มีตัวเลขประมาณ 4 คน ผลข้างเคียงหรือผลไม่พึงประสงค์ ต่างๆที่เกิดขึ้นเป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นชั่วคราว แต่ติดโควิด-19 ตัวเลขของโลกในวันนี้ 100 คน เสียชีวิต 2.2 คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่แตกต่างกันอย่างมากมายเหลือเกิน
“ผมขอความกรุณาในวันนี้ การฉีดวัคซีนไม่ใช่เพื่อตัวท่านเองเพียงอย่างเดียว แต่เพื่อคนที่ท่านรัก เพราะท่านจะได้ไม่แพร่เชื้อให้คนเหล่านั้น ถ้าเราฉีดกันได้เยอะพอและทันเวลา เรากำลังจะช่วยประเทศ เพราะ โควิด-19 จะอยู่ไม่ได้ถ้าคนในประเทศไทยมีภูมิคุ้มกันเยอะขึ้นในระดับหนึ่ง ขอความกรุณามั่นใจสิ่งเดียวที่มีอยู่ในสมองเราอย่างเดียวทำอย่างไรให้คนไทยเราปลอดภัยจาก โควิด-19 ขอให้ช่วยกันอีกครั้งหนึ่ง ผมขอร้องกันจริงๆ ถ้าเราร่วมกันจริงๆ ผมเชื่อว่าเราจะผ่านวิกฤติอันนี้ไปได้ด้วยดีอย่ารอจนวิกฤตรุนแรงจนแก้ไขไม่ได้ แล้วเราค่อยคิดออก ขอขอบคุณทุกท่าน” นพ.ประสิทธิ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย