กทม.ร่วมหอการค้าฯ จัดจุดฉีดวัคซีนนอก รพ.

กทม.30 เม.ย.-กทม.จับมือหอการค้าไทย จัดจุดบริการวัคซีนนอกโรงพยาบาล 14 แห่ง เปิดลงทะเบียน 1 พ.ค. นี้


พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) เป็นประธานการแถลงความร่วมมือระหว่าง กทม.หอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในการจัดหน่วยบริการวัคซีน COVID-19 ให้ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยมีนางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัด กทม.นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย นายญนน์ โภคทรัพย์ กรรมการบริหารหอการค้าไทย รศ.ดร.ทัศนา บุญทอง นายกสภาการพยาบาล และรศ.สุปาณี เสนาดิสัย นายกสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมมราชชนนี ร่วมแถลงข่าว ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการ กทม.(เสาชิงช้า) เขตพระนคร

สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในปัจจุบัน ประกอบกับในเดือน มิ.ย. กทม.จะได้รับการจัดสรรวัคซีนสำหรับให้บริการประชาชนเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้เกิด “ภูมิคุ้มกันหมู่” (herd immunity) ซึ่งมีเป้าหมายฉีดครอบคลุมอย่างน้อยร้อยละ 70 ของประชากรในกรุงเทพมหานคร หรือประมาณ 5 ล้านคน ดังนั้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนและสามารถให้บริการวัคซีนCOVID-19 แก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว และครอบคลุม กทม.จึงกำหนดจัดให้บริการวัคซีนในโรงพยาบาลควบคู่กับการให้บริการวัคซีนนอกโรงพยาบาล ซึ่งการจัดให้บริการวัคซีนภายนอกโรงพยาบาล มีความจำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากประชาชนสามารถเดินทางไปยังสถานที่ให้บริการฉีดวัคซีนได้สะดวก


ทั้งนี้ กทม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะจัดเตรียมทีมแพทย์ พยาบาล และพนักงานจิตอาสา ที่มีมาตรฐานในการให้บริการ ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนให้ฉีดวัคซีนได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึง ปลอดภัย และลดการแพร่ระบาดจากการเดินทางข้ามพื้นที่ โดยได้รับความร่วมมือจากหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในการจัดจุดบริการฉีดวัคซีนในสถานประกอบการ ห้างสรรพสินค้า จำนวน 14 แห่ง กระจายทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ

สำหรับหน่วยบริการวัคซีนโควิด-19 ทั้ง14 แห่ง จะมีบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขจากสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สมาพันธ์สภาวิชาชีพแห่งประเทศไทยและสถาบันการศึกษาสาขาพยาบาลศาสตร์ของรัฐ ร่วมให้บริการวัคซีน COVID-19 แก่ประชาชน

กทม.มีแผนการให้บริการวัคซีนแก่ประชาชนในพื้นที่ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรกในโรงพยาบาลทุกสังกัดใน กทม.กลุ่มเป้าหมายเป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้ที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรือรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งทุกชนิด โรคเบาหวาน และโรคอ้วน ส่วนที่สองเป็นหน่วยบริการวัคซีนกรุงเทพมหานคร 14 แห่ง


สำหรับประชาชนทั่วไปที่มีอายุตั้งแต่ 18-59 ปี ที่สุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว และได้ทำการจองคิวรับวัคซีนมาแล้ว ดังนี้
กลุ่มเขตกรุงเทพเหนือ 2 แห่ง ได้แก่ SCG บางซื่อ 2,000 คน/วัน และศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว 2,000 คน/วัน กลุ่มเขตกรุงเทพใต้ 4 แห่ง ได้แก่ สามย่านมิตรทาวน์ เขตปทุมวัน 1,500 คน/วัน ศูนย์การค้าธัญญาพาร์ค เขตสวนหลวง 1,000 คน/วัน True Digital Park เขตพระโขนง 1,000 คน/วัน และเอเชียทีค เขตบางคอแหลม 2,000 คน/วัน

กลุ่มเขตกรุงเทพตะวันออก 3 แห่ง ได้แก่ เดอะมอลล์ บางกะปิ 2,000 คน/วัน โรบินสัน ลาดกระบัง 1,000 คน/วัน และโลตัส มีนบุรี 1,000 คน/วัน กลุ่มเขตกรุงธนเหนือ 2 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า เขตบางกอกน้อย 1,000 คน/วัน และไอคอนสยาม เขตคลองสาน 1,000 คน/วัน กลุ่มเขตกรุงธนใต้ 3 แห่ง ได้แก่ สถานีบริการน้ำมัน ปตท. พระราม 2 เขตบางขุนเทียน 1,500 คน/วัน เดอะมอลล์ บางแค 2,000 คน/วัน และบิ๊กซี บางบอน 1,500 คน/วัน รวมให้บริการได้ทั้งสิ้น 20,500 คนต่อวัน

สำหรับการให้บริการวัคซีนนอกโรงพยาบาลทั้ง 14 แห่ง จะให้บริการแก่ประชาชนที่ผ่านการจองคิวรับวัคซีนมาก่อน โดยกระบวนการให้บริการวัคซีนที่หน่วยมี 5 ขั้นตอน คือ 1. การลงทะเบียน/ชั่งน้ำหนัก/วัดความดัน 2. คัดกรอง/ซักประวัติ 3. ฉีดวัคซีน 4. สังเกตอาการ และ 5. รับใบนัด/คำแนะนำ โดยใช้เวลาเฉลี่ยต่อรายประมาณ 45 นาที กทม.มีทั้งหน่วยบริการในโรงพยาบาล และนอกโรงพยาบาล ซึ่งจะเริ่มในเดือนมิถุนายน – ธันวาคม 2564

โดยจะมีการเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ที่จะรับวัคซีนทาง LINE Official Account V.2 “หมอพร้อม” หรือแอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” ที่สามารถดาวน์โหลดได้ตั้งแต่ 1 พ.ค. 64 เป็นต้นไป ซึ่งหลังจากที่ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์แล้วประชาชนสามารถจองรับวัคซีนได้ที่หน่วยบริการวัคซีนที่มีในกรุงเทพมหานคร หรือหากไม่สะดวกลงทะเบียนทางไลน์สามารถติดต่อแจ้งความประสงค์ได้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้าน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” นำจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” และภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 เวลา 20.05 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกาและคู่สมรส ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง เมื่อรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และภริยา ถึงบริเวณพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา […]

จากแม่ถึงลูกทหารบาดเจ็บ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

ขอนแก่น 12 ส.ค. – ครอบครัวตระกูลบุญธรรมในอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ที่ลูกชายทหารเกณฑ์บาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา แม้สื่อสารกันน้อย แต่ความรักของแม่ลูก ไม่ได้ลดน้อยลง และพร้อมสนับสนุนลูกชายสู่เส้นทางทหารอาชีพตามความตั้งใจ หลังไปเป็นรั้วของชาติ แล้วเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ลั่นพร้อมใช้สิทธิปกป้องกำลังพล-ปรับแผนลาดตระเวน

12 ส.ค.- “แม่ทัพภาค2” ชี้เขมรแอบลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดเงื่อนไขหยุดยิง หวังยั่วยุ พร้อมใช้สิทธิปกป้องคุ้มครองกำลังพล เป็นเรื่องหน้างานไม่เกี่ยวเจรจา เชื่อเขมรไม่ยอมรับตามเงื่อนไขที่ไทยเสนอ เล็งใช้กล้องวงจรปิด ปรับแผนการลาดตระเวน เผยรายงานรัฐบาล-ผบ.ทบ.แล้ว จ่อประท้วงระดับสากล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าเขมรลักลอบมาวางระกับเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ […]

เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

12 ส.ค. – ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 วันนี้เวลา 12.00 น. ณ ท้องสนามหลวง กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 โดยกองร้อยปืนใหญ่ยิงสลุต ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก ทำการยิงตามจังหวะของเพลงสรรเสริญพระบารมี จำนวน 21 นัด จังหวะ 5 วินาที ทีละกระบอก นับรอบจากขวาไปซ้าย ใช้เวลายิงทั้งหมด 1 นาที 40 […]