คุมประพฤติยกระดับเข้มคุมโควิด

กรมคุมประพฤติ 28 เม.ย.-กรมคุมประพฤติ ยกระดับมาตรการป้องกันโควิด-19 เข้มข้นครอบคลุมทุกพื้นที่


นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรมคุมประพฤติจึงได้ยกระดับมาตรการในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ พร้อมเน้นย้ำแนวปฏิบัติการคุมความประพฤติอย่างเคร่งครัดและรัดกุม โดยให้เลื่อนนัดหมายรายงานตัวผู้ถูกคุมความประพฤติ การทำงานบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ รวมถึงกิจกรรมแก้ไขฟื้นฟูที่เป็นการรวมกลุ่มออกไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2564 หรือจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะคลี่คลาย โดยเฉพาะจังหวัดที่มีการแพร่ระบาดสูง สำหรับรายที่มีปัญหาเฉพาะหน้าเร่งด่วน พนักงานคุมประพฤติจะดำเนินการให้คำปรึกษาแก้ไขฟื้นฟูตามสภาพปัญหาและความต้องการเป็นรายบุคคล

ส่วนการปฏิบัติต่อผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ กรมคุมประพฤติได้ดำเนินการปล่อยตัวชั่วคราว โดยใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัวหรือกำไล EM ในการควบคุมและเฝ้าระวังพฤติกรรม เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เข้าไปยังสถานที่เพื่อการควบคุมตัวเพื่อการตรวจพิสูจน์ หากในกรณีพบผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ มีอาการสุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสดังกล่าวหรือมีการตรวจพบเชื้อ กรมคุมประพฤติจะประสานสาธารณสุขเพื่อรับตัวไปรักษา


นอกจากนี้ในการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ภายในศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดในสังกัดกรมคุมประพฤติที่รับผู้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดรายใหม่เข้ามาจะต้องกักตัวเป็นระยะเวลา 14 วัน เพื่อประเมินอาการโดยพยาบาลหรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำศูนย์ฟื้นฟูฯ พร้อมทั้งงดกิจกรรมเยี่ยมญาติ โดยปรับมาให้บริการเยี่ยมผ่านช่องทางโทรศัพท์หรือสื่อออนไลน์เท่านั้น

อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวต่อว่า กรณีผู้ได้รับการพักการลงโทษและลดวันต้องโทษจากเรือนจำและมีเงื่อนไขติดกำไล EM พนักงานคุมประพฤติจะดำเนินการติดกำไล EM ทุกราย ตลอดจนกำหนดเงื่อนไขห้ามเข้าสถานที่ต้องห้ามหรือออกจากที่พักอาศัยในช่วงเวลาที่กำหนด เพื่อติดตามและเฝ้าระวังความปลอดภัยของประชาชน โดยมีการคัดกรองและให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน รวมถึงมีการเตรียมความพร้อมทั้งอุปกรณ์และกำลังเจ้าหน้าที่คอยสนับสนุนติดอุปกรณ์ EM ควบคุมนักโทษที่ต้องกักตัวเพื่อติดตามอาการ หรือมีอาการป่วยจากการติดเชื้อไวรัสดังกล่าว และจำเป็นต้องใช้สถานที่นอกเรือนจำ

นอกจากกรมคุมประพฤติได้กำชับพนักงานคุมประพฤติและเจ้าหน้าที่คำนึงถึงความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาขณะปฏิบัติหน้าที่ เว้นระยะห่างทางสังคม และหมั่นล้างมือบ่อยๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ระเบิดรถครู ตชด.

ทราบกลุ่มคนร้ายก่อเหตุระเบิดรถครู ตชด.สองพ่อลูก

ทราบคนร้ายก่อเหตุระเบิดรถครู ตชด.สองพ่อลูก จ.นราธิวาส แล้ว วันก่อเหตุมีแนวร่วมปฏิบัติการประมาณ 6 คน กลุ่มเป้าหมายคือเจ้าหน้าที่รัฐ

หมายจับผู้มีพระคุณ

ออกหมายจับผู้มีพระคุณจ้าง “เอ็ม กองเรือ” สังหารอดีต สส.กัมพูชา

ตำรวจเร่งล่า “สมหวัง” ผู้มีพระคุณของ “เอ็ม กองเรือ” หลังศาลออกหมายจับใช้จ้างวานสังหาร “ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา

เศร้า ฝังศพ “พ่อ-ลูก” ครู ตชด. เหยื่อวางระเบิด

ประชาชน-ตำรวจตระเวนชายแดน นับพันคน ร่วมพิธีฝังศพ 2 พ่อลูก ครู ตชด. เหยื่อผู้ก่อความไม่สงบลอบวางระเบิดในพื้นที่ จ.นราธิวาส

ข่าวแนะนำ

นายกฯไปนราธิวาส

นายกฯ นำคณะถึงนราธิวาส สวมเสื้อสูท “ลายนรารวมใจ”

“นายกฯ อิ๊งค์” ถึงนราธิวาสสวมเสื้อสูท “ลายนรารวมใจ” สีชมพูบานเย็น หวานฉ่ำ ถ่ายทอดความเป็นหนึ่งเดียวของผู้คนชาวนราธิวาส ที่มีความรัก สามัคคี ประสานความสัมพันธ์บนวิถีชีวิต และวัฒนธรรมอันงดงามของจังหวัดนราธิวาส

สารวันครูปี68

นายกฯ มอบสารวันครู จุดประกายฝัน ดันเด็กไทยกล้าคิด สร้างโอกาส

“นายกฯ” มอบสารวันครู ประจำปี 2568 “ครูจุดประกายความฝัน ผลักดันให้กล้าคิด สร้างโอกาสในชีวิตให้เด็กไทย” ระลึกบุญคุณครู ปลูกฝังศิษย์คิด-ทำในสิ่งที่ดีและถูกต้อง เชื่อ ครู ต้องพัฒนาพร้อมรับมือโลกยุคใหม่

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศหนาว-ลมแรง กทม.อุณหภูมิลด 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิลดลง 1-3 องศาฯ เซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น ส่วน กทม.-ปริมณฑล อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ