สธ.26 เม.ย.-ผอ.สถาบันวัคซีน แจง 3 ประเด็นข้อเท็จจริงวัคซีนกับบริษัทไฟเซอร์ ยันไม่เคยมีการส่งวัคซีนให้ใช้ฟรีก่อนแล้วค่อยจ่ายเงินทีหลัง เพราะในสถานการณ์โลกที่วัคซีนขาดแคลนย่อมเป็นไปไม่ได้ ส่งต่อข้อความนี้ เท่ากับยิ่งขยายความเข้าใจผิด
นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กล่าวชี้แจงกรณีมีข่าวลือเจรจาจองซื้อวัคซีนบริษัทไฟเซอร์ที่ปรากฎบนโซเชียลมีเดีย ว่า ข้อมูลที่เกิดขึ้นไม่เป็นความจริงการส่งต่อข้อมูลดังกล่าว เท่ากับขยายความเข้าใจผิด โดยชี้แจงใน 3 ประเด็นซึ่ง เป็นการสอบทานข้อมูลร่วมกับบริษัทไฟเซอร์ ตรงกันกับข้อมูลของกระทรวงสาธาณรสุข 1. กรณีที่ระบุว่าไฟเซอร์เคยเสนอขายวัคซีนให้ไทย 13 ล้านโดสนั้น “ไม่เป็นความจริง” ตัวเลข 13 ล้านโดสเป็นตัวเลขที่บริษัทไฟเซอร์ ประเทศไทย ใช้ในการนำเสนอบริษัทแม่ โดยอ้างอิงจากข้อมูลกระทรวงสาธารณสุข ที่เกิดจากแผนการจัดหาวัคซีน โควิด-19 เดิมในปี 2563 ที่มีแนวคิดจัดซื้อแบบทวิภาคีคิดเป็นร้อยละ 10 ของจำนวนประชากรหรือประมาณ 6.5 ล้านคน ฉีดคนละ 2 โดส จึงรวมประมาณ 13 ล้านโดส
2.กรณีระบุว่าที่การซื้อวัคซีนจากไฟเซอร์ไม่ต้องใช้เงินซื้อ มีวัคซีนให้ใช้ก่อนค่อยจ่ายทีหลังนั้น “ไม่เป็นความจริง” ซึ่งการจัดซื้อวัคซีนของไฟเซอร์ต้องมีการจ่ายเงินจองตามเงื่อนไขที่ระบุในสัญญาและไม่มีข้อเสนอในการจัดส่งวัคซีนให้ใช้ก่อนแต่อย่างใด เพราะท่ามกลางสถานการณ์การแย่งชิงวัคซีนทั่วโลก ไม่มีบริษัทไหนในโลกที่จะให้วัคซีนก่อน
3.กรณีระบุว่าไฟเซอร์เสนอขายวัคซีนให้กับรัฐบาลถึง 4 รอบ แต่ถูกปฏิเสธนั้น” ไม่เป็นความจริง” ที่ทางสถาบันวัคซีนแห่งชาติและกรมควบคุมโรค ที่ดูแลเรื่องนี้ ไม่เคยปฏิเสธการเข้าพบแต่ทุกครั้งมีการพูดคุยและแลกเปลี่ยนข้อมูล ก็ทำให้ทราบว่าเดิมวัคซีนไฟเซอร์ต้องจัดเก็บในอุณหภูมิ -70 องศาเซลเซียส และเก็บใน2-8องศาฯได้เพียง 5 วันส่งผลให้เกิดความไม่สะดวกกับประเทศไทย เพราะต้องแก้ระบบห่วงโซ่ความเย็น แต่เมื่อบริษัท มีการ ศึกษาเพิ่มเติม ทำให้ทราบว่า สามารถจัดการปัญหาเรื่องการขนส่งได้แล้ว ให้สามารถเก็บได้ที่ -20องศาฯ ได้ในระยะเวลานั้น และจากนั้นสามารถไว้ในตู้เย็น 2-8 องศาได้ พร้อมมีข้อมูลสนับสุนว่า วัคซีนสามารถใช้ได้ในเด็กอายุ12 ปีขึ้นไป รวมทั้งเงื่อนไขที่บริษัทสามารถส่งวัคซีนให้ใช้ได้ภายในปี 2564 จึงมีการเจรจาต่อเนื่องเพื่อจองซื้อวัคซีนจากไฟเซอร์ โดยมีเป้าหมายให้ครอบคลุมประชากรในกลุ่มอายุ 12 ปีขึ้นไป ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุมัติจากสำนักงานอาหารและยาสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ ในช่วงเย็นวันนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ก็จะมีการหารือร่วมกับตัวแทนบริษัทไฟเซอร์อีกด้วย –สำนักข่าวไทย