fbpx

นพ.ประสิทธิ์ ชี้โควิดไทยผลพวงจากสงกรานต์

สำนักช่าวไทย 27 เม.ย.-คณบดีศิริราช ชี้สถานการณ์โควิดในไทย เป็นผลพวงมาจากสงกรานต์ ย้ำหยุดยาวเท่ากับอันตราย โดยพบคนติดเชื้อส่วนใหญ่อายุน้อยลงและเสียชีวิตเพิ่มขึ้น หลังป่วย 7-10 วัน ห่วงการลักลอบเข้าเมืองนำเชื้อกลายพันธุ์เข้ามา พร้อมวอนทุกคนช่วยหยุดเชื้อด้วยตัวเอง ลด 4 ปัจจัยเสี่ยง เพราะแม้เพิ่มยา เพิ่มอุปกรณ์การแพทย์ได้ แต่เพิ่มจำนวนหมอไม่ได้


นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวอัพเดทสถานการณ์โควิด -19 ว่า สถานการณ์การติดเชื้อโควิดในไทยขณะนี้เป็นผลพวงมาจากเทศกาลสงกรานต์ที่เกิด คลัสเตอร์ที่ไปมาบางสถานที่ที่ไม่ควรไป อย่างไรก็ตามไม่อยากให้มีการกล่าวโทษกัน แต่ว่าจะเห็นได้ว่าวันหยุดยาวถือเป็นช่วงเวลาที่อันตรายและน่าห่วง เพราะสายพันธุ์ที่พบเป็นสายพันธุ์ที่มีการกลายพันธุ์ ติดเชื้อได้ง่ายและความรุนแรง

อีกทั้งรอบนี้พบผู้ป่วยหนักเพิ่มมากขึ้น โดยคนไข้ส่วนใหญ่มีอาการปอดอักเสบมากขึ้น มีความจำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจมากขึ้น ทำให้มีโอกาสที่จะพบผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น ต่อไปไทยอาจพบผู้เสียชีวิตตัวเลข 2 หลักต่อวัน โดยพบว่าผู้ติดเชื้อและป่วยรอบนี้มีอายุน้อยลง และเพียง 7-10 วันก็เสียชีวิต


นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า การออกมาเปิดเผยสถานการณ์โรคเพื่อให้เกิดความตระหนักถึงโรค เพราะอัตราการป่วยที่เพิ่มมากขึ้น ความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้น ใช้อุปกรณ์ เตียงและยาจำนวนมากขึ้นได้ แต่ไม่สามารถเพิ่มจำนวนบุคลากรมากขึ้นเพื่อมาดูแลได้

พร้อมเผยว่าการดูแลผู้ป่วยในการระบาดเดือนเมษายน ของ รพ.ศิริราช มีผู้ป่วยเสียชีวิต 3 คน ซึ่งในส่วนของการบริหารจัดการโควิด ต้องอาศัยยา โดยพบว่า ยังไม่มียารักษาโควิดโดยเฉพาะ ห่วงยาฟาวิพิราเวียร์ และ เรมดิสซีเวียร์ ใช้รักษาโควิด ที่ทั้งโลกต่างใช้และเมื่อมีจำนวนผู้ป่วยมากขึ้น อาจไม่เพียงพอในอนาคต

นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า การควบคุมโรคสถานการณ์ อาศัยเพียงยุทธศาสตร์ปลายน้ำ การรักษาผู้ป่วยอาจไม่เพียงพอ ต้องอาศัยร่วมกับยุทธศาสตร์ต้น ทั้งมาตรการของรัฐ และเหนือสิ่งอื่นใดคือการมาตรการส่วนบุคคลที่ทุกคนต้องร่วมกันปฎิบัติอย่างเคร่งครัด หากทุกคนร่วมใจกัน จะช่วยให้ไทยฝ่าวิกฤตนี้ไปได้ ต้องมีวินัยในตนเอง มีจิตสำนึกและคิดเสมอถึง 4 ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคได้คือบุคคลเสี่ยง สถานที่เสี่ยง กิจกรรมเสี่ยง ช่วงเวลาเสี่ยง หากลดละได้ก็ปลอดภัย “ช่วยกันหยุดโควิด ไม่อยู่กันโกล้ชิด ร่วมใช้สิทธิ์ฉีดวัคซีน”


นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า จากข้อมูลของทั่วโลกพบว่าเครื่องมือที่ดีที่สุดในการคุมโรคตอนนี้คือการฉีดวัคซีน และยังต้องเคร่งครัดการปฏิบัติตนพื้นฐานป้องกันโรคด้วย พร้อมห่วงเรื่องการลักลอบเข้าเมือง โดยคนกลุ่มนี้มักหนีตายจากโรคในประเทศของตัวเองเข้าไทย โดยย้ำว่า การปล่อยให้มีกลุ่มคนหลุดรอดเข้ามา เพิ่มความเสี่ยงของเชื้อกลายพันธุ์ที่อาจพบได้ โดยกลุ่มนี้มักไม่แสดงตัว เคลื่อนย้ายไปในหลายพื้นที่ และมักไม่ได้รับการตรวจเชื้อ เพิ่มความเสี่ยงให้กับคนไทย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กโจ๊ก” ร้อง ตร.ขอความเป็นธรรม ปมโดนให้ออกจากราชการ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล บุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หอบหลักฐานยื่นคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ ขอให้เพิกถอนคำสั่งให้ออกจากราชการ

เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลโรงงานย่านพระราม 2

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลในโรงงานย่านพระราม 2 ควันสีขาวลอยโขมง เบื้องต้นพบเป็นสารไทโอยูเรีย

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง

คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าหั่นศพ “ยากูซ่า” จ.นนทบุรี

คดีสะเทือนขวัญ พบชิ้นส่วนมือ ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ล่าสุดตำรวจจับกุมหนึ่งในผู้ต้องหาได้แล้ว และทราบว่าทั้งผู้ตายและผู้ลงมือฆ่าหั่นศพ เป็นแก๊งยากูซ่าชาวญี่ปุ่น