สธ.แจงการใช้เงินจาก พ.ร.ก.เงินกู้ฯ โควิด

สธ.26 เม.ย.-สธ.แจงงบฯ จาก พ.ร.ก.เงินกู้ 2.5 หมื่นล้าน ใช้ในการจัดซื้อยา วัคซีน เวชภัณฑ์ควบคุมป้องกันโรคให้บุคลากรและผู้ป่วย ผู้ติดเชื้อโควิด เตรียมหอผู้ป่วย รพ.สนาม รวมทั้งจ่ายเป็นค่าเยียวยา ค่าชดเชย ค่าเสี่ยงภัย ฯลฯ มีแผนการใช้ชัดเจนไม่ล่าช้าและปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์การระบาดของโรค


นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (รองปลัด สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้รับการจัดสรรเงินจาก พ.ร.ก.เงินกู้ฯ โควิด-19 ด้านการแพทย์และสาธารณสุข จำนวน 25,825.88 ล้านบาท ใช้ใน 39 โครงการ โดยเป็นโครงการจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 25,175.32 ล้านบาท และหน่วยงานนอก ได้แก่ กระทรวง อว., โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ โรงพยาบาลตำรวจ สำนักอนามัย กทม. จำนวน 650.56 ล้านบาท

เพื่อดำเนินการใน 5 แผนงาน ได้แก่ ค่าเยียวยา ค่าชดเชย ค่าเสี่ยงภัย อสม. 4,726.38 ล้านบาท ,จัดหายา วัคซีน ห้องปฏิบัติการ โดยกรมควบคุมโรคและสถาบันวัคซีน 2,655.30 ล้านบาท, การบำบัดรักษา ป้องกัน ควบคุมโรคและการวิจัย โดย สปสช. 6,764.90 ล้านบาท, เตรียมสถานพยาบาลในการรักษาและกักตัวผู้มีความเสี่ยงติดเชื้อ 10,182.73 ล้านบาท และรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินการระบาด 1,496.57 ล้านบาท


นพ.สุระ กล่าวว่า ขณะนี้มีโครงการที่ได้รับจัดสรรเงินไปแล้ว 13 โครงการ วงเงิน 17,610.48 ล้านบาท ได้แก่ ค่าบริการสาธารณสุข, ค่าตอบแทน อสม. อุปกรณ์ห้องแยกโรค, พัฒนาระบบบริการสุขภาพ, จัดซื้อชุด PPE, Isolation Gown, N 95, Mask, วัคซีนโควิด 19, วัสดุควบคุมป้องกันโรค, เครื่องฉายรังสีรักษา, พัฒนาห้องปฏิบัติการ/เครื่องมือ/คุณภาพวัคซีน และค่าปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ข้อมูล ณ วันที่ 16 เมษายน 2564 ได้ดำเนินการเบิกจ่ายไปแล้ว 5,859.92 ล้านบาท คิดเป็น 33.28 % ทั้งนี้ ยังมีโครงการที่รอจัดสรรอีก 26 โครงการ วงเงิน 8,215.40 ล้านบาท และมีวงเงินเหลือ 19,174.12 ล้านบาท

“การใช้เงินที่ได้มามีแผนการใช้ชัดเจน ครอบคลุมทุกมิติทั้งการควบคุมป้องกันโรค การรักษาพยาบาล รวมถึงการวิจัยพัฒนา การจ่ายค่าตอบแทนค่าเสี่ยงภัยเจ้าหน้าที่ ทำให้มียารักษาโรค มีวัคซีนเพียงพอกับกลุ่มเป้าหมาย มีการเพิ่มเตียง ขยายเตียงรักษาในรูปแบบต่างๆรองรับผู้ป่วย/ผู้ติดเชื้อเหมาะสมกับอาการ เจ้าหน้าที่มีขวัญกำลังใจดูแลประชาชน โดยความร่วมมือจากหน่วยงานภาคีเครือข่าย รัฐ เอกชน ประชาชน ที่สำคัญงบประมาณที่นำมาใช้ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์การระบาดของโรค เพื่อให้ประชาชนได้รับการดูแลที่ดีที่สุด”นพ.สุระ กล่าว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็น-อีสานอุณหภูมิลดลงอีกเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อยในภาคอีสาน ส่วนภาคเหนือตอนบน ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : ส่องทิศทางแห่งอำนาจ “รัฐบาลทรัมป์ 2.0”

รายงานพิเศษวันนี้ไปติดตามสิ่งที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัญญาหาเสียงเอาไว้ ที่จะทำให้พอเห็นทิศทางการครองอำนาจของเขา โดยมีหลายอย่างที่จะสร้างความสั่นสะเทือนอย่างมาก

พาชมเรือใบอิตาลีจอดเทียบท่าภูเก็ต

เมื่อ 2 วันก่อน สำนักข่าวไทยเก็บภาพของเรืออเมริโกเวส ปุชชี่ ขณะกำลังจะเข้าจอดเทียบท่าที่จังหวัดภูเก็ตให้ได้ชมไปแล้ว วันนี้คุณเพลินพิศ ชูเสน จะพาไปทำความรู้จักเรือลำนี้ให้มากขึ้นพร้อมกับพาไปเยี่ยมชมภายในตัวเรือ