ผอ.รพ.วิภาราม แจงกรณีย้าย “น้าค่อม”

กรุงเทพฯ 24 เม.ย. – ผอ.รพ.วิภาราม ชี้แจงกรณีย้าย “น้าค่อม ชวนชื่น” ไปรักษา รพ.รามาธิบดี เนื่องจากผู้ป่วยอาการทรุดลง และมีอาการไตวาย โชคดีทาง รพ.รามาฯ มีคนไข้ออกพอดี จึงย้ายน้าค่อมไปรักษาได้ ทุกชีวิตมีค่า ไม่เกี่ยวข้องกับเส้นสาย


นายแพทย์ไพบูลย์ เอกแสงศรี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิภาราม ออกมาชี้แจงผ่านเพจเฟซบุ๊กของโรงพยาบาล เรื่องการย้ายผู้ป่วยโควิดวิกฤติฉุกเฉินที่มีความจำเป็นจะต้องใช้เครื่องมือพิเศษในการรักษาว่า สาเหตุที่ย้ายน้าค่อมจากโรงพยาบาลวิภาราม ไปยังโรงพยาบาลรามาจักรีนฤบดินทร์ เพราะสูงอายุและมีโรคประจำตัวหลายอย่าง โดยตอนตรวจเจอเชื้อ น้าค่อมอยู่อีกโรงพยาบาล ซึ่งอาการยังไม่หนัก แต่ต่อมาปอดอักเสบมากขึ้น ก่อนย้ายมา รพ.วิภาราม ซึ่งมีห้องไอซียู 12 เตียง โดยมาในจังหวะที่ว่างพอดี หลังจากให้ยาไป แต่อาการน้าค่อมทรุดลง ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ และเมื่อวันที่ 23 เม.ย. มีอาการไตวาย ทำให้ต้องฟอกเลือด หมอจึงมองไปข้างหน้าว่าจะทำอะไรต่อไปบ้าง จึงติดต่อไปยังโรงพยาบาลศิริราช แต่เตียงเต็ม โชคดีที่โรงพยาบาลรามาจักรีนฤบดินทร์ เป็นจังหวะคนไข้ออกไปพอดี จึงสามารถย้ายน้าค่อมเข้าไปรักษาได้ เป็นการรีเฟอร์ปกติระหว่างโรงพยาบาลด้วยกัน อยากทำความเข้าใจว่าระบบสาธารณสุขไม่ได้เลือกรัฐหรือเอกชน ทุกชีวิตมีค่าเราจะดูแลให้ดีที่สุด ไม่เกี่ยวข้องกับเส้นสาย แต่เป็นเรื่องเทคนิคล้วนๆ

ต้องบอกว่าหลังจากน้าค่อมติดเชื้อโควิด-19 และมีอาการทรุดลง กระทั่ง ไอซ์ ณพัชรินทร์ ลูกสาว และแบงค์ อธิกิตต์ ลูกเขย โพสต์คลิปเผยอาการของน้าค่อมและขอความช่วยเหลือ จากนั้น 2 นักแสดงตลกคนสนิทอย่าง บอล เชิญยิ้ม และแจ๊ส ชวนชื่น ก็โพสต์คลิปขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์ที่ดูแลเคสผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ให้มาช่วยดูแลน้าค่อมด้วย ซึ่งมีทั้งคนให้กำลังใจและทัวร์ลง เพราะมองว่าเป็นการใช้สิทธิพิเศษจากการเป็นคนดังของน้าค่อม และของตัวเอง กดดันบุคลากรทางการแพทย์


ที่ทราบข่าวว่าย้ายโรงพยาบาลก็มาจากอินสตาแกรมของวินิจ เลิศรัตนชัย อดีตนักจัดรายการวิทยุชื่อดัง และนักธุรกิจจัดคอนเสิร์ต ที่โพสต์ภาพและข้อความขอบคุณ ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่เป็นธุระช่วยให้น้าค่อมย้ายไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ โดยเขียนข้อความว่า “กราบแทนหัวใจทุกคนครับพี่ตี๋ รมช.สาธิต ช่วยเป็นธุระทุกทางให้น้าค่อม ได้ย้ายไป รามาฯ เช้านี้” ก่อนจะลบภาพดังกล่าวไป

ยิ่งกลายเป็นประเด็นร้อนแรง และถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ถึงความเป็นเอกสิทธิ์ชนของน้าค่อม จน #น้าค่อม ติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ของวันนี้ ชาวเน็ตหลายคนมองว่าเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำ มีการใช้เส้นสายหน้าที่การงานของตนเพื่อให้เข้าถึงการรับบริการทางการแพทย์ที่ดีกว่า ขณะที่ประชาชนทั่วไปกลับต้องรอ บางคนรอจนเสียชีวิต แต่ทุกคนบอกว่าอยากเห็นน้าค่อมหาย และอยากให้คนในประเทศเข้าถึงสิทธิในการรักษาอย่างเท่าเทียม.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย