สธ.ห่วงผู้ป่วยเพิ่มสูง บริหารเตียงยาก

สธ.23 เม.ย.-อธิบดีกรมการแพทย์ ห่วงจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นสูงบริหารเตียงยาก ประสาน รร.แพทย์ รพ.สังกัด กทม. ขยายเตียงไอซียูเพิ่มอีก1เท่า รองรับผู้ป่วยเพิ่มแบบนี้ได้ 20 วัน วอนทุกคนช่วยอยู่บ้านลดการติดเชื้อ แจงปัญหารอเตียงส่วนใหญ่เพราะตรวจแล็บติดเชื้อไม่แจ้งผ่านระบบ ทำให้คนป่วยรู้ตัว แต่ รพ.ไม่รู้เรื่อง


นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)กล่าวถึงสถานการณ์การบริหารเตียง 1668 หลังวันนี้ (23เม.ย.) จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อพุ่งสูง 2,070คน ว่า ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อที่พบเพิ่มสูงขึ้น พบว่า ใน กทม. มากสุด 740 คน ซึ่งการบริหารจัดการเตียงต้องยอมรับว่า พื้นที่กทม.จัดการปัญหาเรื่องเตียงยากมากที่สุด ส่วนใหญ่เพราะการที่ผู้ป่วยไปตรวจแล็บคลินิกเอง ทำให้ไม่มี รพ.รองรับ และการแจ้งผลเมื่อพบการติดเชื้อ เป็นแค่โทรศัพท์แจ้ง ไม่มีใบรับรองการตรวจแล็บดังกล่าว อีกทั้งแล็บตรวจไม่เคยส่งข้อมูลผู้ป่วยติดเชื้อให้ทางการ ทำให้ไม่ทราบข้อมูล ทุกวันรพ.ต้องวิ่งหาคนไข้ ซึ่งเรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น และทำให้เกิดปัญหาคนไข้ต้องนอนรอดูอาการอยู่บ้าน ทำให้ความรุนแรงของโรคเพิ่ม เพราะไม่ได้รับยาทันที อาการจากเขียว เป็น เหลือง และ จากเหลืองเป็นแดง

นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ตอนนี้นำผู้ป่วยตกค้างวานนี้ (22 เม.ย.) 400 คน เข้าระบบแล้ว อีกทั้งมีสถาบันบำบัดฟื้นฟูยาเสพติด (ธัญญารักษ์) มาดูแลผู้ป่วยสีเหลืองอ่อน จำนวน 200 คน เมื่อวาน เข้ารับรักษา 50 เตียงแล้ว ทั้งนี้จากสถานการณ์ปัจจุบัน ได้ร่วมกับ รร.แพทย์ และรพ.สังกัดกรมการแพทย์ ขยายเตียงไอซียู เพิ่มอีก 1 เท่า เพื่อรับผู้ป่วยหนัก ให้ได้มากที่สุด คาดว่าสถานการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อจากเดิมที่ประเมินไว้ 1,000 คนต่อวัน ที่เรารับได้ หากเพิ่มเช่นนี้เฉลี่ย 2,000 คน ต่อวัน ถ้าไม่มีการเพิ่มขยายเตียงไอซียู ก็จะรับได้แต่ 10 วัน แต่ตอนนี้ขยายแล้ว ก็จะสามารถรับได้ 20 วัน ซึ่งตอนนี้ถือว่าเป็นช่วงสำคัญมากที่ทุกคนจะช่วยดึงกราฟผู้ป่วยให้ลดลง ช่วยกันอยู่บ้าน อย่าออกไปทานข้าวนอกบ้าน เพราะว่าความเสี่ยงอาจเกิดจากโต๊ะข้างๆได้


นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับเตียงไอซียูใน กทม.ปัจจุบันมี 700 เตียง ขณะนี้ว่างอยู่140 เตียง ส่วนเคสอาม่า เขตบางคอแหลม ที่เสียชีวิต เพราะรอเตียง จนป่านนี้ข้อมูลยังไม่ชัดเจนว่าไปตรวจที่ใดมาก่อน รายละเอียดต้องเป็นหน้าที่ของ กทม.และสปคม.ที่ต้องประสานมา ทางกรมการแพทย์ จึงเข้าไปช่วยเหลือดูแลได้ ทุกวันนี้เจ้าหน้าที่ต้องวิ่งหาคนไข้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่า ป่วยหรือเปล่า เพราะไม่มีผลตรวจเชื้อยืนยัน ทุกวันนี้ รับผู้ป่วยที่ไม่มีผลตรวจมารักษาด้วยซ้ำ เพราะกลัวอาการเปลี่ยนแปลง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย