ราชทัณฑ์เพิ่มมาตรการคุมโควิดในเรือนจำ

กรมราชทัณฑ์ 23 เม.ย.-กรมราชทัณฑ์ ออกมาตรการเพิ่ม 2 แนวทางป้องกันโควิดแพร่ระบาดในเรือนจำทั่วประเทศ ส่วนกรณีพบ 37 ผู้ต้องขังในเรือนจำกลางเชียงใหม่ติดเชื้อโควิด เป็นการตรวจคัดกรองเชิงรุกในกลุ่มเข้าใหม่จาก 118 ราย ขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ใน รพ.สนามภายในเรือนจำ


กรมราชทัณฑ์ ออกเอกสารเผยแพร่ข่าวผ่านเพจเฟซบุ๊ก “ประชาสัมพันธ์ กรมราชทัณฑ์”เรื่องมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ว่า กรมราชทัณฑ์ยกระดับเพิ่มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19ในเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศ หลังพบสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศยังมีแนวโน้มการระบาดอย่างต่อเนื่อง โดยกำหนดมาตรการในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดเพิ่มเติม 2 แนวทาง คือ

1.การสกัดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในกลุ่มผู้ต้องขังเข้าใหม่ โดยให้ตรวจเชื้อผู้ต้องขังเข้าใหม่ทุกราย อย่างน้อย 2 ครั้ง คือหลังจากรับตัวเข้าห้องแยกกักโรค ภายในระยะเวลา 3 วันแรก และก่อนออกจากห้องแยกกักโรคอีก 1 ครั้ง เพื่อยืนยันว่าไม่มีเชื้อ


และ 2. การป้องกันเชื้อจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ โดยให้ดำเนินการด้วยกัน 2 แนวทาง คือ 1) การจัดหาวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อฉีดให้แก่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ทุกคน 2) ให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ทุกคนเข้ารับการตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 และต้องทำการตรวจหาเชื้อในทุก 14 วัน โดยเฉพาะในเจ้าหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติงานใกล้ชิดกับผู้ต้องขัง และได้กำชับบุคลากรของกรมราชทัณฑ์ทุกคน ให้งดการเดินทางเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง และปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019(โควิด-19) อย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นการป้องกันการนำเชื้อโควิด-19 จากภายนอกเข้าสู่ภายในเรือนจำ

มาตรการที่เพิ่มเติมขึ้นมาดังกล่าว เป็นมาตรการเชิงรุกเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการป้องกันการนำเชื้อจากภายนอกเข้าสู่เรือนจำ ซึ่งคาดว่าการดำเนิน การดังกล่าวจะสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ไม่ให้เข้าไปในพื้นที่เรือนจำชั้นในได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำกลางเชียงใหม่ ที่มีรายงานว่าพบผู้ต้องขังติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 37 รายนั้น กรมราชทัณฑ์ ขอเรียนว่า การพบการติดเชื้อดังกล่าว เป็นการพบเชื้อจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในกลุ่มผู้ต้องขังเข้าใหม่จำนวน 118 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ต้องขังที่ยังอยู่ในกระบวนการแยกกักโรคเป็นระยะเวลา 14 วันก่อนเข้าเรือนจำชั้นใน โดยขณะนี้กลุ่มผู้ติดเชื้อทั้ง 37 รายดังกล่าว
ได้พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลสนามภายในเรือนจำ ซึ่งมีการจัดตั้งขึ้นเพื่อรักษาผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ หรือมีอาการเล็กน้อย เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของสถานพยาบาลภายนอก .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงนายก อบจ.เพชรบุรี แชมป์เก่ายังแรง

เลือกตั้งนายก อบจ.เพชรบุรี ไม่คึกคัก ผลไม่เป็นทางการ “ชัยยะ อังกินันทน์” แชมป์เก่า คะแนนนำทิ้งห่างคู่แข่ง ด้านเลขาฯ กกต. เผยภาพรวมทั้ง 3 จังหวัด คนมาใช้สิทธิน้อย คาดเบื่อเลือกตั้ง 2 รอบ

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

ลุ้นผลเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ขณะนี้การนับคะแนนตามหน่วยต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว อยู่ในขั้นตอนการรวมคะแนน ซึ่งในเขตเมือง ผลปรากฏว่าผู้สมัครจากพรรคประชาชนมีคะแนนนำ แต่อำเภอรอบนอก ตัวแทนพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำอยู่หลายหน่วยเลือกตั้ง

เร่งประสานอินเตอร์โพลขอหมายแดงล่าตัว “หมอบุญ”

ตำรวจเตรียมออกหมายจับเครือข่าย “หมอบุญ” ฉ้อโกง ลอต 2 รวมทั้งเร่งประสานอินเตอร์โพล ออกหมายแดงล่าตัว “หมอบุญ” กลับมาดำเนินคดี