สธ.ดึง อสม.ร่วมคุมโควิดหลังเทศกาลสงกรานต์

สธ.21 เม.ย.-สธ.Kick off กิจกรรม“หลังสงกรานต์ คนอยู่บ้านต้องปลอดภัย เชิญชวนคนไทยฉีดวัคซีนช่วยชาติ”ฝาก อสม.ร่วมคัดกรองกลุ่มเสี่ยง ให้ความรู้ D-M-H-T-T-A ชวนเพื่อนบ้านร่วมสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ฉีดวัคซีนโควิด 19 และเยี่ยมติดตามหลังฉีด


วันนี้ (21เม.ย.) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.มล.สมชาย จักรพันธุ์ ประธานคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นางสาวเรวดี รัศมิทัต ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายธนิตพล ไชยนันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และประธานชมรม อสม.ทุกจังหวัด

นายอนุทิน กล่าวว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา บางส่วนเป็นผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการและไม่รู้ตัว เกิดการแพร่กระจายเชื้อไปทุกจังหวัด ต่อจากนี้อีก 1 เดือน ขอความร่วมมือ อสม. ช่วยเฝ้าระวังค้นหาผู้ติดเชื้อในพื้นที่ สนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ในการควบคุมโรคโควิด 19 และเพื่อให้การฉีดวัคซีนโรคโควิด 19 ครอบคลุมประชาชน เกิดภูมิคุ้มกัน ปลอดภัยจากโรคโควิด 19 กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดกิจกรรมรณรงค์ “หลังสงกรานต์ คนอยู่บ้านต้องปลอดภัย เชิญชวนคนไทยฉีดวัคซีนช่วยชาติ” โดยให้ อสม. เคาะประตูบ้านทุกหลังคาเรือน ให้ประชาชนมีความรู้และปฏิบัติตามมาตรการ D-M-H-T-T-A อย่างเคร่งครัด ร่วมคัดกรองประชาชนที่บ้าน ติดตามเยี่ยมกลุ่มเสี่ยงในช่วงกักตัว 14 วัน ประสานส่งต่อโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล/หน่วยบริการสาธารณสุข เชิญชวนประชาชนลงทะเบียนฉีดวัคซีน เข้ารับการฉีดตรงตามนัด และติดตามอาการไม่พึงประสงค์หลังการฉีดวัคซีน


“ผมเชื่อมั่นว่าระบบการทำงานของ อสม. จะช่วยให้ประชาชนเข้าถึงการฉีดวัคซีนและได้รับการดูแลให้มีความปลอดภัย สิ่งสำคัญที่สุด ขอให้ อสม. ดูแลตัวเองให้มีสุขภาพแข็งแรง รัฐบาลขอเป็นกำลังใจ ดูแลค่าตอบแทน 500 บาทต่อเดือน จนกว่าสถานการณ์โควิดจะคลี่คลาย” นายอนุทินกล่าว

ด้านนายแพทย์ธเรศกล่าวว่า สำหรับผลการปฏิบัติงานของ อสม. ทั่วประเทศ ในการเฝ้าระวังโรคโควิด 19 ในชุมชน ระลอกเดือนเมษายน 2564 อสม. ได้เคาะประตูบ้านไปแล้ว 2,616,030 หลังคาเรือน จากทั้งหมด 23,672,821 หลังคาเรือน หรือคิดเป็นร้อยละ 11.05 มี อสม.ที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ 33 ราย เสียชีวิต 9 ราย บาดเจ็บ 24 ราย ได้รับการช่วยเหลือแล้วรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,113,833 บาท .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

ขอบคุณทุกคะแนนเสียง เลือกนายก อบจ.-ส.อบจ.เพื่อไทย

“อนุสรณ์” ขอบคุณทุกคะแนนเสียง เลือกนายก อบจ.-ส.อบจ.พรรคเพื่อไทย เชื่อมนต์ขลัง “ทักษิณ”-ผลงานรัฐบาลแพทองธาร เป็นปัจจัยความสำเร็จ

กต.พร้อมพา 5 ตัวประกันไทยกลับบ้านเมื่อสุขภาพแข็งแรง

รมว.ต่างประเทศ เยี่ยม 5 ตัวประกันคนไทย พร้อมพาทุกคนกลับบ้านเมื่อสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีแล้ว ขณะที่ทุกคนขอบคุณที่ทำให้ได้ชีวิตใหม่

นายกฯ ฝากรายการใหม่เทปแรก ไล่เรียงนโยบายแบบ Exclusive

“โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” นักจัดรายการมือใหม่​ ฝากเนื้อฝากตัว หวังใจถึงใจกับประชาชน​ ไล่เรียงภารกิจนโยบายหลายเรื่องแบบเบื้องหลัง Exclusive 30 บาทรักษาทุกที่-บ้านเพื่อคนไทย-แก้ฝุ่น-พ.ร.ก.ไซเบอร์ ยันเงินหมื่นเฟส 3 มาแน่ รอคลังเคาะ นายกฯ รับเสียใจถูกบูลลี่เรื่องแต่งตัว​ แต่จะแต่งแบบนี้ไปทำงานให้ประชาชนมีความสุข