สธ. 19 เม.ย.-สำนักการแพทย์ กทม.เผยมีผู้ป่วยติดเชื้อตกค้างรอรับเข้าระบบการรักษา 505คน ดึงเจ้าหน้าที่เทศกิจร่วมส่งต่อผู้ป่วยติดเชื้อ ขณะที่ กลุ่ม รร.แพทย์ ขยายเพิ่มจำนวนเตียงไอซียูอีกร้อยละ 50 นำเตียงไอซียูอื่นมาสนับสนุนผู้ป่วยติดเชื้อโควิด พร้อมเผยหากทุกคนปฏิบัติตัวถูกต้องเฝ้าระวังตนเอง ร่วมกับ การรับวัคซีน โควิดจะหายไปในหน้า
นพ.สุขสันต์ กิติศุภกร ผู้อำนวยการ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า ขณะนี้ กทม.ได้มีการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก เฉลี่ยวันละ 120-140 คน โดยผู้ป่วยที่มีการติดเชื้ออาการไม่รุนแรงหรือผู้ป่วย สีเขียว จะให้เข้ารับการรักษาในรพ.สนาม และปัจจุบันเหลือผู้ติดเชื้อ ที่รอไปรับการรักษาทั้งใน รพ.สนาม หรือ ฮอสพิเทล อีก 505 คน อยู่ระหว่างการประสานและจัดการ โดยปัจจุบัน กทม. มีรพ.สนามไว้รองรับผู้ป่วย 1,656 คน ปัจจุบันมีผู้ป่วยติดเชื้อครองเตียงแล้ว 1,275 เตียง เหลือเตียง 381 เตียง และในวันพรุ่งนี้จะได้รับเตียงจาก รพ.สนาม ทั้ง รพ.ผู้สูงอายุบางขุนเทียน 500 เตียง และที่สนามกอกอารีน่า อีก 400 เตียง กองทัพบกจัดหาให้อีก 200 เตียง รวม 1,100 เตียง ทำให้มีเตียงของรพ.สนามรวม 2,756 เตียง
ทั้งนี้ ยังมีแนวคิดขยายเตียงสนามรองรับผู้ป่วยอีก ใน จ.นนทบุรีและนครปฐมอีก 170 เตียง ซึ่งจะทำให้ต่อไปในอนาคต มีเตียงของโรงพยาบาลสนาม มากถึง 2,926 เตียง
ส่วนของการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ได้ประสานจัดอบรม สำนักเทศกิจทั้ง 50 เขต ช่วยเหลือดูแลส่งต่อผู้ป่วยตามบ้านเรือน คาดว่า ภายใน 1-2 วัน จะสามารถ จะเคลียร์ผู้ป่วยตกค้าง เข้าระบบได้หมด
นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลรามาธิบดี ในฐานะ ประธานเครือข่าย UHosNet กล่าวว่า รอบสัปดาห์ที่ผ่านมามีคนไข้กลุ่ม สีเขียวเยอะ แต่เพื่อเป็นการวางแผนรองรับสถานการณ์ถัดไปที่คนไข้สีเขียวอาการจะเปลี่ยนไปเป็นสีเหลือง สีแดง ดังนั้นกลุ่ม รพ.ที่มีขีดความสามารถสูง ทุกสังกัด ทั้งกลาโหม กระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย เดินหน้าร่วมกันจัดหาเตียงไอซียูเพิ่มร้อยละ 50 อาจจะมีการยกเลิกกิจการบางอย่างใน รพ.เพื่อนำเตียงไอซียูมาเสริม และ สามารถบริหารจัดการ ส่งบุคลาการมาช่วยเหลือกันได้ ในเครือข่าย แล้วมีการส่งต่อผู้ป่วยอาการหนักไปดูแล
พร้อมเตรียมแผนรองรับผู้ป่วย กรณีวิกฤต ไอซียูสนาม ที่เป็นแผนเดิมที่เคยวางไว้ ตั้งแต่การระบาดระลอกแรก เนื่องจากไอซียูในการรักษาผู้ป่วยโควิด ต้องใช้พื้นที่มากในการบริหารจัดการ
ส่วนสถานการณ์ในปัจจุบันตอนนี้กราฟผู้ป่วยติดเชื้อ เริ่มลงแล้ว เนื่องจากประชาชนให้ความร่วมมือและเริ่มตระหนัก กลับมาปฏิบัติตัวถูกต้อง หากทำกันแบบนี้ต่อไปอย่างเข้มข้นร่วมกับการรับวัคซีน เชื่อว่าในปีหน้า สถานการณ์โควิดจะผ่านไปได้ .-สำนักข่าวไทย
