สธ.19 เม.ย.- สบส.เตรียมโรงแรมที่เป็น ASQ มาเป็นฮอสพิเทล ดูแลผู้ติดเชื้อโควิดที่อาการไม่รุนแรง พร้อมคาดโทษคลินิกเอกชน 2-3 แห่ง ที่ตรวจแล็บหาเชื้อโควิดไม่ประสานหาเตียง อาจได้รับโทษ และเพิกถอนการตรวจโควิด หลังบริการตรวจแล้วแต่ปล่อยให้ผู้ป่วยต้องหาเตียงเอง
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.)กล่าวถึงคลินิกหรือในแล็บเอกชนรับตรวจหาเชื้อโควิด-19 แต่ไม่ประสานหาเตียงให้ ว่า ขณะนี้กรม สบส .ได้ออกประกาศ ให้คลินิก ที่ตรวจหาเชื้อโควิด ต้องประสานจัดเตียงหรือต้องให้คำแนะนำในการส่งต่อผู้ป่วยไปสถานพยาบาลเพื่อรักษาทันที หากไม่ดำเนินการจะถือว่าคลินิกหรือแล็บ แห่งนั้นทำผิดกฎหมาย มีโทษตั้งแต่ตักเตือนก่อนและให้ปรับปรุงและหากกระทำผิดซ้ำก็มีโทษ ตั้งแต่เพิกถอนการดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด หรือ อาจพักใช้ใบอนุญาต
โดยล่าสุด พบคลินิกกลุ่มหนึ่งมีการโฆษณาอวดอ้างการตรวจแล็บ และมี 2-3 แล็บที่ตรวจคนไข้แล้วไม่มีการประสานสถานพยาบาลจัดหาเตียงให้ผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยต้องเดินทางไปหาเตียงเอง โดยได้สั่งลงโทษแล้วและพรุ่งนี้ (20เม.ย.) จะมีการประชุมคอนเฟอเรนซ์กับคลินิกต่างๆ เพื่อวางระบบและกำหนดให้คลินิกตรวจเชื้อต่อไปจะต้องทำ MOU กับสถานพยาบาลทั้งรัฐและเอกชน ในการส่งต่อผู้ป่วย
นพ.ธเรศ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ได้มีการพิจารณาขยายเตียงแบบฟาสต์แทร็ก (fast-track) นำเอาสถานกักตัว ASQ กว่า 100 แห่ง ในคราวที่แล้วที่ผ่านการประเมิน มา ทำเป็นฮอสพิเทลแทน ขณะนี้มีรพ.ร่วมกับโรงแรมที่สมัครและผ่านการรับรองแล้ว 34 แห่งเป็นจำนวนเตียงที่ขออนุมัติภาพรวม 7,200 กว่าเตียง โดยปัจจุบัน มีผู้ป่วยมาใช้บริการแล้วกว่า 2,000 คน .-สำนักข่าวไทย