กรุงเทพฯ 18 เม.ย. – “พระมหาไพรวัลย์” ชี้ความเชื่อฆ่าตัวตายถวายเป็นพุทธบูชาไม่มีในพุทธศาสนา จึงไม่อยากให้ชาวพุทธนำความเชื่อที่ไม่ถูกต้องมาลอกเลียนแบบ ขณะที่ตำรวจเร่งตรวจสอบหลักฐานเพิ่มในจุดที่อดีตเจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ภูหินกอง ใช้มีดตัดศรีษะตัวเอง
กรณีนายธรรมกร อายุ 68 ปี หรือพระธรรมกร อดีตเจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ภูหินกอง ซึ่งตั้งอยู่บนภูเขาทางไปบ้านนาแค เขตเทศบาลเมืองจังหวัดหนองบัวลำภู ใช้มีดตัดคอตนเองจนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา ตามความเชื่อเพื่อที่จะได้ตรัสรู้เป็นพระปัจเจกพระพุทธเจ้า
ล่าสุดพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองบัวลำภู เดินทางมารวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมในจุดที่เกิดเหตุ พบยังมีการวางก้อนอิฐล้อมเป็นวงกลม อยู่ใกล้กับรูปปั้นคล้ายๆ กับพระอินทร์ไม่มีศีรษะ ที่ตั้งอยู่ภายในวัด
ขณะที่ปู่ขาวอนันต์ จากสวนบารมีธรรม ลูกศิษย์ที่เดินทางมาจาก จ.สกลนคร บอกว่า เมื่อทราบข่าวตกใจมาก รู้จักกับพระธรรมกรมาเป็นสิบปี ไม่คิดว่าท่านจะมีศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธเจ้ามากถึงขนาดตัดศรีษะตัวเองเพื่อถวายพระศาสดา จึงเดินทางมาเพื่อกราบลาและอธิษฐานจิตขอให้ตัวเองมีจิตใจที่เข้มแข็งเหมือนกับพระธรรมกร
ด้านพระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ วัดสร้อยทอง กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ถือว่าเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง เป็นความเชื่อที่ผิดๆ และไม่รู้ว่าตายไปเรียนรู้และเข้าใจในคำสอนอย่างไร โดยในคำสอนพระพุทธเจ้าตามศาสนาพุทธไม่มีการระบุไว้ในข้อใดเลยแม้แต่น้อย
ทั้งนี้ เข้าใจว่าผู้ที่มีความเชื่อเช่นนี้น่าจะไปเอาหลักคำสอนของศาสนาฮินดูมามากกว่า เพราะในศาสนาดังกล่าวมีการเชื่อว่าการตัดหัว ตัดคอ เพื่อบูชาเทพเจ้านั้นมีจริง แต่หลักคำสอนของศาสนาฮินดูไม่เกี่ยวข้องกับหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าแต่อย่างใด ดังนั้น จึงไม่อยากให้ชาวพุทธนำความเชื่อที่ไม่ถูกต้องมาลอกเลียนแบบ โดยความเชื่อของศาสนาฮินดู การตัดหัว ตัดคอ เพื่อถวายให้กับเทพเจ้า ในปัจจุบันยังมีอยู่ แต่จะอยู่ที่บางเมืองของประเทศอินเดีย โดยเฉพาะบางครอบครัวที่นับถือในศาสนาฮินดู เมื่อมีลูกชายคนแรกจะตัดหัว ตัดคอ เพื่อถวายให้กับเทพเจ้า แต่ในประเทศไทยไม่เคยมีกรณีนี้เกิดขึ้น แต่เมื่อมีความเชื่อเช่นนี้อยู่ ทางหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องช่วยกันชี้แจงทำความเข้าใจหลักคำสอนที่ถูกต้อง ไม่อยากเห็นให้มีการลอกเลียนแบบในลักษณะเช่นอีกต่อไป
ขณะที่นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ในฐานะโฆษก พศ. บอกว่า ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบถึงปัญหาดังกล่าวแล้ว แต่ยอมรับว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล และไม่แน่ใจว่าผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ไปเข้าใจคำสั่งสอนอย่างไรมา แต่ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้กำชับให้เจ้าคณะผู้ปกครองในพื้นที่ดังกล่าวไปทำความเข้าใจที่ถูกต้องเป็นการเร่งด่วนแล้ว และไม่เพียงพื้นที่เกิดเหตุเท่านั้น ยังได้กำชับให้เจ้าคณะผู้ปกครองทุกพื้นที่ทั่วประเทศไปทำความเข้าใจที่ถูกต้องกับวัดและสำนักสงฆ์ทั่วประเทศด้วย เพื่อไม่อยากให้มีการลอกเลียนแบบและความเชื่อที่ผิดๆ ด้วย โดยเฉพาะจะทำอย่างไรเกี่ยวกับความเชื่อส่วนบุคคล.-สำนักข่าวไทย