สธ. 18 เม.ย. –กรมวิทย์ แจงตรวจหาภูมิคุ้มกันหลังรับวัคซีนครบ ต้องตรวจในห้องปฏิบัติการระดับ 3 ขึ้นไป และตรวจตำแหน่งของสไปร์ทโปรตีน ไม่สามารถตรวจได้ด้วยชุดทดสอบ เผยผลตรวจตนเองหลังรับวัคซีนซิโนแวคมีภูมิคุ้มกันขึ้น พร้อมย้ำทั่วโลกกำลังจับตาการกลายพันธุ์ในไวรัสอย่างใกล้ชิด สายพันธุ์อังกฤษ แอฟริกา บราซิล แคลิฟอร์เนีย ไนจีเรีย รวมถึงอินเดีย ส่วนไทยระบาดขณะนี้เป็นสายพันธุ์อังกฤษ
นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า สำหรับการตรวจภูมิคุ้มกัน หลังรับวัคซีน 2 เข็มว่า ในการตรวจหาภูมิด้วยชุดตรวจแบบแรปปิดเทสว่า วิธีการตรวจดังกล่าวไม่ถูกต้อง การตรวจหาภูมิคุ้มกันร่างกาย หลังกับการฉีดวัคซีน ต้องตรวจด้วยวิธี PRNT ในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ระดับ 3 ขึ้นไปเท่านั้น โดยนำซีรั่มมาเพาะไปเรื่อย เพื่อดูระดับไตรเตอร์ หรือระดับภูมิคุ้มกันว่าขึ้นหรือไม่ นิยมตรวจหลังรับวัคซีน 14 วัน โดยจากข้อมูลของตนเองหลังรับวัคซีนซิโนแวค พบว่าภูมิคุ้มกันก็ขึ้นตามปกติ ไม่ได้เป็นไปตามที่มีการกล่าวอ้าง เกี่ยวกับข่าวลบของวัคซีนซิโนแวค โดยการตรวจที่ถูกต้อง ต้องตรวจที่สไปร์ทโปรตีนเท่านั้น ไม่ใช่ตรวจปลอกหุ้มสารพันธุกรรม อาจทำให้ไม่สามารถแสดงระดับภูมิคุ้มกันได้
นพ ศุภกิจ กล่าวว่า การตรวจหาข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสโควิดสายพันธุ์อินเดีย พบว่ามีการกลายพันธุ์ 2 ตำแหน่ง แต่ขณะนี้ ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอ ว่าส่งผลรุนแรงขึ้น และส่งผลต่อวัคซีนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ต้องระวังปฏิบัติตัวให้ดี เพราะการระบาดในวงกว้างจำนวนมากย่อมเกิดการกลายพันธุ์ หรือเปลี่ยนแปลง และหวังว่าเรื่องเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นในไทย โดยขอความร่วมมือจากประชาชนให้ปฏิบัติตัว ป้องกันตนเอง ทั้งสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ มีระยะห่าง พร้อมกันนี้ยังกล่าวว่า ห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ทั่วโลก กำลังจับตาไวรัสโควิดที่กลายพันธุ์ ทั้งสายพันธุ์อังกฤษ แอฟริกา บราซิล แคลิฟอร์เนีย ไนจีเรีย รวมถึงอินเดีย อย่างใกล้ชิด หากทราบความคืบหน้าจะเร่งแจ้งข่าวสารกับประชาชนทันที โดยขณะนี้การระบาดในไทย พบเป็นสายพันธุ์อังกฤษมากที่สุด โดยมาจากคลัสเตอร์ทองหล่อ .-สำนักข่าวไทย