กทม. 17 เม.ย.- อธิบดีกรมการแพทย์ เผยโควิดระบาดรอบนี้ ใช้ยาฟาวิพิราเวียร์มากถึง 20,000 เม็ด/วัน เตรียมสั่งซื้อเพิ่ม ระบุโควิดสายพันธุ์อังกฤษ รักษาไม่แตกต่างจากเดิม ชี้ภาวะอ้วนเสี่ยงทำให้โรครุนแรง
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในสายพันธุ์อังกฤษ พบว่าการรักษาไม่ได้แตกต่างจากเดิม เนื่องจากอาการคนไข้ส่วนใหญ่คล้ายเดิม แต่พบภาวะปอดอักเสบเพิ่มมากขึ้น ส่วนอัตราการตายคงที่ ทั้งนี้ผู้ป่วยบางคนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามีภาวะปอดอักเสบรุนแรง ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ จึงเป็นสาเหตุที่ต้องนำตัวผู้ป่วยมารับการรักษาในสถานพยาบาล หรือดูอาการที่โรงพยาบาลสนาม หรือ hospitel ทั้งนี้การรักษายังเน้นการให้ยาฟาวิพิราเวียร์ ซึ่งขณะนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการให้องค์การเภสัชกรรม สั่งซื้อยาเพิ่มอีก 500,000 เม็ด คาดว่ายาดังกล่าวจะมาถึงไทยในวันที่ 29 เมษายนนี้ โดยสตอกยาของเดิมมีทั้งหมด 400,000 เม็ด ช่วงการระบาดในต้นเดือนเมษายนที่ พบว่ามีการใช้ยาไปแล้วกว่า 20,000 เม็ด/วัน ทั้งนี้หากได้รับยา ทั้งจากการสั่งซื้อใหม่ รวมกับสตอกยาเดิมจะทำให้ยามีเพียงพอใช้ไปจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม หากตัวเลขผู้ป่วยไม่ได้สูงมากนัก เฉลี่ยวันละประมาณ 1,000 คน แต่ไม่เกิน 2,000 คน
นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ทั้งนี้การใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ ในการรักษาโรคโควิด-19 พบว่าส่วนใหญ่ใช้ในกลุ่มประเทศอาเซียนและเอเชียมากกว่าทางยุโรป ทำให้การผลิตและการสั่งซื้อแม้ในสถานการณ์ที่ทั่วโลกมีการระบาดหนัก ไม่ได้กระทบกับตัวยาดังกล่าว พร้อมกล่าวว่าปัจจัยที่ทำให้ผู้ป่วยโควิด-19 รอบใหม่มีอาการรุนแรงขึ้นจากการรักษาในช่วง 16 วันที่ผ่านมา พบว่าสาเหตุของความอ้วน ทำให้อาการรุนแรงมากขึ้น เช่นเดียวกับโรคเบาหวาน ดังนั้นจึงอยากให้ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงสูงที่จะเจ็บป่วยง่ายระมัดระวังตนเอง.-สำนักข่าวไทย