กทม 15 เม.ย.- สบส.เตรียม Hospitel กว่า 5,000 เตียง รับกรณียอดติดโควิดพุ่ง พร้อมย้ำ รพ.เอกชน และคลินิกหากคนไข้ตรวจพบโควิด-19 ต้องดูแล
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวถึงความพร้อมสำหรับการจัดหาเตียงรองรับผู้ป่วยโรคโควิด-19 ขณะนี้ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมีศักยภาพมาร่วมประชุมกันทุกวัน เพื่อเตรียมเพิ่มจำนวนเตียง ทั้งในโรงพยาบาล สังกัด สธ., กทม. ,สังกัดกองทัพ, รพ.มหาวิทยาลัย และ รพ.เอกชนขณะนี้มีเตียงรองรับ 6,525 เตียง ปัจจุบันใช้ไปแล้วประมาณ 3,700 เตียง สำหรับเตียงที่เหลือ ส่วนหนึ่งเก็บไว้ใช้สำหรับผู้ป่วยอาการหนัก ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
สำหรับการจัดหาฮอสปิเทล (Hospitel) เพื่อใช้ดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ขณะนี้มีฮอสปิเทลแล้ว 23 แห่ง รวม 4,900 เตียง ถูกใช้บริการไปแล้ว 2,000 เตียง ทั้งนี้มีการคาดการณ์ หากว่าสถานการณ์ยังคงระบาดเพิ่มขึ้นวันละ 400-500 คน ทาง สบส.ยืนยันมีความพร้อม โดยร่วมกับพันธมิตร เพื่อจัดหาฮอสปิเทล และรพ.สนาม เพิ่มได้อีกถึง 5,000-7,000 เตียง ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าจะมีเตียงรองรับเพียงพอผู้ป่วยอย่างแน่นอน ส่วนค่ารักษานั้นหากมีประกันสุขภาพก็ให้เบิกจากประกันสุขภาพส่วนบุคคล หากไม่มีประกันส่วนบุคคลก็จะได้รับสิทธิตามสิทธิในการรักษาพยาบาลภาครัฐ
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายเสนอให้ผู้ที่ป่วยติดเชื้อโควิด ควบคุมโรคด้วยวิธีกักตัวที่บ้าน หรือ Home quarantine แทนการไปอยู่ที่โรงพยาบาลสนามนั้น นพ.ธเรศ กล่าวว่าสถานการณ์ในเวลานี้การดูแล และรักษาผู้ป่วยในฮอสปิเทล ยังมีจำนวนที่เพียงพอ รองรับได้ และมาตรฐานในการดูแลรักษาที่โรงพยาบาลสนามหรือฮอสปิเทล ถือว่ามีความพร้อมที่ดีกว่ารักษาที่บ้าน จึงยังไม่อยากให้ใช้แนวคิดนี้ในการรักษาโควิด ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดเวลานี้
นอกจากนี้มีรายงานแจ้งว่า ตอนนี้มีคลินิกหลายแห่งที่ตรวจผู้ป่วยโควิดแล้ว ให้ผู้ป่วยไปหาเตียงเองทำให้เกิดความยากลำบาก และมีการเดินทางต่างๆ อธิบดีกรมสบส. กล่าวว่าหลังทราบเรื่องจึงได้ทำการออกประกาศว่าคลินิกที่สามารถตรวจโควิด-19 ต้องได้รับการรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และเมื่อตรวจผลเป็นบวกจะต้องดูและแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรคติดต่อ ต้องดำเนินการจัดหาเตียงให้กับผู้ป่วย ห้ามปฎิเสธคนไข้เด็ดขาด หากไม่ดำเนินการตามนี้สถานพยาบาลหรือคลินิกแห่งนั้นจะมีโทษตามกฎหมาย มีโทษทั้งจำทั้งปรับ
ตอนนี้พบว่ามีโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในย่านบางนา เข้าข่ายความผิดเรื่องนี้ สบส.จะได้ดำเนินการลงโทษ นอกจากนี้ยังได้พิจารณาลงโทษ รพ.เอกชน อีกประมาณ 2-3 แห่ง รวมถึงคลินิกเอกชนอีกจำนวนหนึ่งที่กระทำผิดในลักษณะดังกล่าว ตอนนี้อยู่ระหว่างการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล
สำหรับกรณีที่มีกระแสว่ามีโรงพยาบาลเอกชนบางแห่ง ประชาสัมพันธ์ส่งข้อความเชิญชวนให้มาลงทะเบียนรับวัคซีนทางเลือกนั้น ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่สามารถทำได้ เนื่องจากยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับการแนวทางปฏิบัติ และ หากมีการโฆษณาเชิญชวนก่อน จะเข้าข่ายโฆษณาเกินจริง อยากฝากไปถึงประชาชนขอให้ตรวจสอบข้อมูลให้ละเอียด เพราะขณะนี้มีโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่ง ที่เข้ามาช่วยเหลือรัฐในการฉีดวัคซีนฟรี. -สำนักข่าวไทย