5 อดีตพระเถระ คดีเงินทอนวัด กลับมาห่มจีวร

กทม. 14 เม.ย. – 5 อดีตพระเถระคดีเงินทอนวัด ทำพิธีกลับครองจีวร ขณะที่สำนักงานพระพุทธศาสนา รอตรวจสอบรายละเอียดและจะออกแถลงการณ์ใน 1-2 วันนี้

ที่พระอุโบสถวัดสระเกศฯ ได้ประกอบพิธีเจริญชัยมงคลคาถา ในโอกาสพระภิกษุอธิษฐานครองผ้าไตรจีวรรับเข้าหมู่สงฆ์ ประกอบด้วย อดีตพระพรหมสิทธิ อดีตพระราชกิจจาภรณ์ อดีตพระราชอุปเสณาภรณ์ อดีตพระศรีคุณาภรณ์ และอดีตพระครูสิริวิหารการ โดยมีคณะสงฆ์วัดสระเกศฯ เข้าร่วมพิธี ซึ่งหลังเสร็จสิ้นพิธีแล้ว อดีตพระเถระทั้ง 5 รูป ได้กลับมาห่มจีวรและเดินกลับกุฏิสงฆ์ทันที

มีรายงานว่า การดำเนินการดังกล่าวเพราะคณะสงฆ์วัดสระเกศฯ เห็นว่าอดีตพระเถระทั้ง 5 รูป จากคดีเงินทอนวัด ไม่ได้มีความผิดเข้าข่ายอาบัติปาราชิก จนต้องทำให้พ้นจากความเป็นสงฆ์ เนื่องจากในคดีทุจริตการจัดสรรเงินงบประมาณ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ในคำพิพากษาของศาล ระบุว่าไม่พบความทุจริต ขณะที่ในคดีฐานฟอกเงิน ทางศาลแพ่งได้พิพากษาแล้วว่าไม่มีความผิด และให้คืนเงินที่อายัดไปทั้งหมด จึงไม่มีความผิดทางวินัยสงฆ์ที่เข้าข่ายอาบัติปาราชิก อีกทั้งในช่วงการสืบคดีของศาลนั้น ได้มีบันทึกยืนยันชัดเจนว่า ต่อสู้คดีขณะครองสมณเพศ รวมถึงในระหว่างอยู่ในเรือนจำ ก็มีบันทึกไว้ว่ายังไม่ได้สละสมณเพศ จึงไม่มีข้อใดเข้าข่ายที่จะต้องสละสมณเพศ ทางคณะสงฆ์วัดสระเกศฯ จึงเห็นควรให้กลับคืนหมู่คณะสงฆ์วัดสระเกศฯ ต่อไป

ด้านนายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า เรื่องนี้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้รับรายงานแล้ว และอยู่ในขั้นตอนของกระบวนการตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียด และจะออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการภายใน 1-2 วันนี้ ต้องรอตรวจสอบรายละเอียดว่า การกลับมาครองผ้าเหลืองนั้นเป็นการบวชใหม่หรือไม่ หากยึดตามหลักพระธรรมวินัย กรณีกลับมาบวชใหม่ โทษทางคดีอาญาและพระธรรมวินัยต้องไม่ถึงขั้นอาบัติหนัก คือ ฆ่าคนตาย ลักทรัพย์ เสพเมถุน อวดอุตริ ก็สามารถกลับมาบวชใหม่ หรือเรียกว่าอุปสมบทใหม่ได้ แต่ต้องไม่ใช่ในลักษณะทำพิธีครองจีวรเอง ต้องมีพระอุปัชฌาย์บวชให้ ที่สำคัญต้องให้กระบวนทางคดีเสร็จสิ้นทั้งหมด ซึ่งพบว่าคดีความของอดีตพระเถรบางรูป ศาลยังคงสั่งรอลงอาญาอยู่ 2 ปี. – สำนักข่าวไทย