“วัคซีนซิโนแวค” ป้องกันการติดเชื้อได้ดี-ปลอดภัย

กรุงเทพฯ 12 เม.ย. – “ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์” เผย “วัคซีนซิโนแวค” ป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงและการเสียชีวิตได้ 100% ป้องกันการป่วยได้ 83.7% ป้องกันการติดเชื้อได้ 50.7% และมีความปลอดภัยสูงมาก


ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) แจ้งว่า มีการรายงานผลการประเมินประสิทธิภาพทางคลินิก ระยะที่ 3 ของวัคซีนซิโนแวค จากประเทศบราซิล พบว่าวัคซีนสามารถป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงและป้องกันการเสียชีวิตได้ 100% สามารถป้องกันการป่วยได้ 83.7% ป้องกันการติดเชื้อได้ 50.7% และมีความปลอดภัยสูงมาก

ข้อมูลนี้ถือเป็นรายงานอย่างเป็นทางการแบบสมบูรณ์เป็นครั้งแรกในระดับนานาชาติ โดยทำการทดสอบในบุคลากรทางการแพทย์ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ติดเชื้อสูงมากกว่า 10,000 คน และได้ติดตามผลจนสิ้นสุดระยะเวลาการประเมินข้อมูล ได้ผลที่สำคัญและชัดเจนคือ กลุ่มผู้ที่ได้รับวัคซีนไม่มีรายใดเลยที่มีอาการเจ็บป่วยรุนแรงหรือเสียชีวิต


ในส่วนรายละเอียดของการประเมินประสิทธิภาพนี้ มีบุคลากรการแพทย์เข้าร่วม 12,396 ราย แบ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับวัคซีนจริง และกลุ่มได้รับวัคซีนหลอก (กลุ่มเปรียบเทียบ) อย่างละครึ่ง ฉีดวัคซีนคนละ 2 โดส ห่างกัน 14 วัน และติดตามผลของวัคซีนเป็นเวลาหลายเดือน สามารถติดตามนำข้อมูลมาวิเคราะห์ผลได้ 9,823 ราย แบ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับวัคซีน 4,953 ราย และกลุ่มเปรียบเทียบ 4,870 ราย พบว่าในกลุ่มเปรียบเทียบที่ไม่ได้รับวัคซีน ติดเชื้อโควิดจำนวน 168 ราย โดยมีระดับความรุนแรงในระดับ 3 ขึ้นไป (อาการปานกลาง) 30 ราย ความรุนแรงระดับ 4 ขึ้นไป 10 ราย และระดับ 5 (อาการหนักมาก) 6 ราย ในขณะที่กลุ่มที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค ติดเชื้อโควิดจำนวน 85 ราย โดยมีความรุนแรงระดับ 3 เพียง 5 ราย และไม่มีรายใดเลยที่มีความรุนแรงในระดับ 4 หรือระดับ 5

สรุปได้ว่าวัคซีนนี้สามารถ “ป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงและป้องกันการเสียชีวิตได้ 100%” ป้องกันการเจ็บป่วยชนิดปานกลาง (ระดับ 3 ขึ้นไป) ได้ 83.7% และ “ป้องกันการติดเชื้อได้ 50.7%” ในเรื่องผลข้างเคียงจากวัคซีนนั้น คล้ายกับวัคซีนอื่นๆ ซึ่งมีผลข้างเคียงน้อยและไม่รุนแรง

นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเบื้องต้นในประเด็นอื่นอีกด้วยว่า วัคซีนจะเริ่มมีผลป้องกันโรคได้ 2 สัปดาห์ หลังฉีดเข็มแรก รวมทั้งการเพิ่มระยะห่างระหว่างเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 จากที่กำหนดไว้ 2 สัปดาห์ เพิ่มเป็นประมาณ 4 สัปดาห์ อาจจะกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้มากขึ้นอีก และการให้วัคซีนในคนที่มีอายุมากกว่า 60 ปี (ซึ่งในการทดสอบนี้ยังมีจำนวนไม่มากนัก) ให้ผลในการป้องกันโรคใกล้เคียงกับในคนอายุ 18-60 ปี


โดยจำนวนวัคซีนที่ฉีดในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์-11 เมษายน รวมเป็นจำนวน 570,052 โดส ใน 77 จังหวัด เฉพาะในวันที่ 11 เมษายน (วานนี้) ฉีดไป 14,656 โดส โดยในประเทศไทยฉีดวัคซีน 2 ชนิด คือ แอสตราเซเนกา และซิโนแวค .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ