สำนักข่าวไทย 8 เม.ย.-แอสตราเซเนกา ประเทศไทย เผยแพร่เอกสารชี้แจง หลัง MHRA และ EMA ประเมิน พบว่า วัคซีนแอสตราฯ มีผลเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน พร้อมปรับฉลากวัคซีน ในสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป โดยเพิ่ม ปัจจัยต่างๆ ลงไป และยืนยันว่า ผลจากการรับวัคซีนมีประโยชน์มากกว่า อันตราย
บริษัท แอสตราเซเนกา ได้ออกเอกสาร ชี้แจง ความคืบหน้าหลังการแถลงข่าวจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพของสหราชอาณาจักร (MHRA) และหน่วยงานกำกับดูแลด้านยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพของยุโรป (EMA) เกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตราเซเนกา ได้ประเมินถึงการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดร่วมกับภาวะเกล็ดเลือดต่ำที่พบได้ยากมากในประชาชนกว่า 34 ล้านคนที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตราเซเนกาใน สหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป พร้อมขอให้แอสตราเซเนกาปรับเปลี่ยนข้อความบนฉลากวัคซีนที่ใช้ในสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป ที่เดิม ไม่มีการระบุถึงปัจจัยเสี่ยงใดๆ อาทิ อายุ เพศหรือสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ซึ่งพบได้ยากมากนี้
อย่างไรก็ตามหน่วยงานทั้งสองมีความเห็นต่อเหตุการณ์นี้ว่ามีความเชื่อมโยงที่เป็นไปได้กับวัคซีนและขอให้ระบุว่าเป็นผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ยากมาก
ทั้งนี้ ภาพรวม MHRA และEMA ได้ยืนยันอีกครั้งว่าวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตราเซเนกาสามารถช่วยป้องกันการเจ็บป่วยจากโรคโควิด-19ในทุกระดับความรุนแรงได้และประโยชน์เหล่านี้นั้นยังคงมีมากกว่าความเสี่ยงที่จะเกิดอาการไม่พึงประสงค์ พร้อมเผยว่า แอสตราเซเนกากำลังศึกษาและทำความเข้าใจการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ในผู้ป่วยแต่ละราย การระบาดวิทยา รวมถึงกลไกที่น่าจะเป็นไปได้ เพื่อจะอธิบายภาวะที่เกิดขึ้นได้ยาก
นอกจากนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ยังกล่าวในวันนี้ว่า จากข้อมูลปัจจุบันนั้น ความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของการเกิดภาวะนี้มีความเป็นไปได้แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ และระบุว่าจำเป็นต้องมีการศึกษาเฉพาะทางเพิ่มเติมเพื่อให้เข้าใจถึงความสัมพันธ์ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการฉีดวัคซีนและปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่เป็นไปได้ แบะ มีรายงานการเกิดภาวะลิ่มเลือด นี้ในตัวเลขที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับกลุ่มผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตราเซเนกา ทั่วโลกเกือบ 200 ล้านคน.-สำนักข่าวไทย