“หมอยง” ทองหล่อเชื้อสายพันธุ์อังกฤษแพร่เร็ว

สธ.7 เม.ย.-สธ.-มท.เห็นตรงกันเตรียมเคาะพื้นที่สีแดง เสี่ยงสูงโควิดใหม่ ภายใน 1-2 วันนี้ ก่อนสงกรานต์ ขอประชาชนร่วมมือ ไม่จำเป็นอย่าเคลื่อนย้าย เสี่ยงพาโรคไปให้ผู้สูงอายุ “หมอยง” ชี้เชื้อสถานบันเทิงทองหล่อที่ระบาดอยู่เป็นสายพันธุ์อังกฤษ แพร่เร็ว 1.7 เท่า หากมาตรการไม่ดี ผู้ติดเชื้อเพิ่ม หลักพันหลักหมื่นแน่ ส่วนวัคซีนต้องฉีดครบ 2 เข็ม 14 วันต่อมาจึงจะมีภูมิ “อนุทิน” มีภูมิจากวัคซีนที่ฉีดครบแล้ว ส่วนผู้สัมผัส “ตรีนุช” ถือว่าเสี่ยงต่ำ


นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ แถลงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ว่า ขณะนี้ เกิดการระบาดใหญ่ในกลุ่มสถานบันเทิง ซึ่งต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลกยังเพิ่มหลายแสนคน ทวีปเอเชีย การระบาดยังรุนแรง ในไทยวันนี้ 334 ราย โดย 327 ราย ส่วนใหญ่เกิดจากสถานบันเทิง แนวโน้มผู้ติดเชื้อในไทยกำลังกระดกขึ้น สมุทรปราการกำลังเพิ่ม และนราธิวาสจากกลุ่มเรือนจำ ส่วนจังหวัดปทุมธานี สุพรรณบุรี มีการระบาดจากกลุ่มสถานบันเทิง ดังนั้นถ้าใครไปสถานบันเทิงย่านทองหล่อ เอกมัย รัชดา ช่วงมี.ค.ที่ผ่านมา ให้พบเจ้าหน้าที่ สธ.เพื่อประเมิน ปัจจุบัน ยอดรวมผู้ติดเชื้อจากสถานบันเทิง 291 รายและกำลังมีเพิ่มขึ้นจากผลที่ทยอยตรวจออกมา

นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า หากสงกรานต์นี้ไม่มีมาตรการที่ดีพอก็จะแพร่ระบาดไปได้เร็ว โดยแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ สมมติฐาน ถ้าช่วงสงกรานต์ พบปะผู้คนเพิ่มกว่าปกติ 2,4,6,8 เท่า จะมีผู้ติดเชื้อเป็นหลักพันหลักหมื่น และกรณีเชื้อกลายพันธุ์ยิ่งเร็วกว่า 1.7 เท่า การแพร่ยิ่งเร็วขึ้นมาก ถ้าไม่มีมาตรการ คาดคะเนว่าจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 1.3-100 เท่า


สำหรับมาตรการที่กรมควบคุมโรคเสนอคือเสนอพิจารณาปิดสถานบันเทิง สถาบริการ คล้ายสถานบริการทุกแห่ง อย่างไรก็ตาม ศบค.ไม่ได้ห้ามการเดินทาง แต่เป็นความเสี่ยงนำเชื้อจากจังหวัดหนึ่งไปอีกจังหวัดหนึ่ง โดยเฉพาะกลุ่มที่ติดใหม่เป็นวัยหนุ่มสาว อาการไม่รุนแรง แต่จะพาเชื้อไปติดผู้สูงอายุได้ ทั้งนี้ ถ้าจะเดินทางหากเลือกได้ ควรเลือกพาหนะส่วนบุคคล ไม่แออัด รักษาความสะอาด อย่าแวะมาก สแกนแอปฯติดตามตัว กลับมาแล้วก็ให้สังเกตอาการตัวเอง โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดอาจกำหนดมาตรการเพิ่มได้ ขอให้ตรวจสอบก่อนเดินทาง

อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวอีกว่า จุดเสี่ยง สถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะจำเป็นต้องปิด ร้านอาหาร ที่จัดสถานที่ไม่ถ่ายเทก็มีความเสี่ยง ทั้งนี้ ศูนย์ฯกระทรวงสาธารณสุขกับกระทรวงมหาดไทย เห็นตรงกันจะปรับพื้นที่สีใหม่หรือพื้นที่ควบคุมสูงสุด แต่ละจุดจะมีมาตรการที่เหมาะสมออกมา ใน 1-2 วันนี้

สำหรับขั้นตอนกระจายวัคซีนกำหนด 5 กลุ่มเสี่ยงและอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการ ซึ่งกรณี รพ.เอกชนที่ว่ามีการฉีดให้ ที่ไม่ใช่ 5 กลุ่มเสี่ยงและเรียกเก็บเงินนั้น นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง และหากพบมีการเรียกเก็บเงินขอให้แจ้งตำรวจ หรือ สธ.ดำเนินการ ได้ทันที โดย สธ.ได้เร่งกระจายวัคซีนและฉีดให้ครอบคลุมตามแผน ซึ่งขณะนี้มีผู้รับวัคซีนแล้ว 274,354 ราย และ 49,635 ราย ฉีดครบ 2 เข็มแล้ว และวัคซีนอีก 1 ล้านโดสกำลังจะมา รวมถึงแอสตราเซเนกาที่ผลิต ในไทย จะได้ มิ.ย.นี้ก็จะเร่งฉีด


นพ.โอภาส ยังอธิบายถึงกรณีผู้ติดเชื้อที่ต้องประเมินว่า เสี่ยงสูงหรือต่ำ ซึ่งกรณีของ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาฯ ถือว่าเสี่ยงสูง เพราะคนมาแสดงความยินดี ไม่ใส่หน้ากาก แล้วพบว่าติดเชื้อ แต่เมื่อ น.ส.ตรีนุช ตรวจแล้วไม่พบเชื้อ วง 2 อย่างนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี หรือท่านอื่นๆที่ใกล้ชิด น.ส.ตรีนุช ไม่เสี่ยงแล้ว แม้ภายหลัง น.ส.ตรีนุชจะไปติดภายหลัง แต่เป็นพ้นระยะแพร่เชื้อที่เคยสัมผัสกัน เพราะ น.ส.ตรีนุช ได้กักตัวทันทีแล้ว

สำหรับกรณีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ที่พบว่าติดเชื้อ และได้พบกับนายอนุทิน ชาญวิรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แต่ใส่แมสตลอดเวลาและอยู่ด้วยไม่นาน นายอนุทินจึงเสี่ยงต่ำ ประกอบกับฉีดวัคซีน 2 เข็มแล้ว นายอนุทินตรวจแล้วมีภูมิคุ้มกันแล้ว และผลตรวจโควิดล่าสุดไม่มีเชื้อ จึงเสี่ยงต่ำมาก จึงเลี่ยงการลงพื้นที่พบประชาชนกลุ่มมาก ๆไปก่อน แต่อยู่ในมาตรการ self observation สังเกตอาการตนเอง

ด้าน ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ปีนี้เทียบปีที่แล้ว ระบาดระลอกแรก ไม่เกิน 3,000คน เฉลี่ยเดือน เม.ย.ปีที่แล้วหลักสิบ ปีนี้ระบาดตั้งแต่ ธ.ค.ยังไม่ยุติ เกิดระลอกซ้อนระลอกใหม่ ในสถานบันเทิง ซึ่งเป็นที่อับหรือที่ปกปิด ถ้าอยู่ในที่ปิดก็แพร่ได้ทางการหายใจ ไม่สัมผัสกันก็ติดได้ง่าย หลังตรวจไวรัสที่คอ ในกลุ่มสถานบันเทิงทองหล่อ 24 ราย พบทั้งหมดเป็นสายพันธ์อังกฤษ ที่แพร่กรจายเร็ว และทั้งที่ไทยพยายามป้องกันอย่างหนัก แต่ก็เข้ามาได้แล้ว สายพันธุ์ อังกฤษ B117 ติดต่อได้ง่ายกว่าธรรมดา 1.7 เท่า เช่น ในเยอรมันและฝรั่งเศส สายพันธ์อังกฤษแพร่ระบาด จนกลับมาใหม่ระลอกที่ 3 แล้ว ไม่แปลกที่สถานบันเทิงแพร่มาก โดยคาดคะเนว่า โอกาสการแพร่กระจายเร็วมากนี้ จะทำให้แพร่มากกว่าปีที่แล้วเป็น 100 เท่า

“ผมเป็นห่วงอย่างมาก การเคลื่อนย้ายของประชากรเป็นเหตุ สายพันธ์อังกฤษ ผมยังสงสัยว่ามายังไง ทั้งที่บล็อกแล้ว ถ้าใครไม่จำเป็นขอให้ลดการเคลื่อนย้าย ต้องวางแผนให้ดี และมีระเบียบวินัย เรื่องสุขอนามัยต่างๆต้องเข้มงวด 3 สายที่ต้องระวังคืออังกฤษแพร่เร็ว แต่วัคซีนยังมีประสิทธิ ภาพได้เพราะความรุนแรงเหมือนเดิม สายพันธุ์แอฟริกาใต้และสายพันธุ์ บราซิล” ศ.นพ.ยง กล่าว

สำหรับผู้ที่ยังกังวลเรื่องฉีดวัคซีน วัคซีนทุกชนิดโอกาสแพ้มี แต่โอกาสแพ้จริง ๆ น้อยมาก ๆ อุบัติการเสียชีวิตจากลิ่มเลือด จะใช่หรือไม่กำลังดู ความเกี่ยวพันกับฮอร์โมนเอสโตรเจน ในผู้หญิงอายุน้อยกว่า 55 ปี แต่ผู้ชายๆไม่เสี่ยงแพ้ ไม่ควรกังวล ถ้าเปรียบเทียบ ข้ามถนนไปสีลมมีความเสี่ยงกว่าวัคซีน อุบัติเหตุเกิดง่ายกว่า ชีวิตต้อง go on ความเสี่ยงแม้จะมีแต่ชีวิตต้องเดินต่อไป การลดความเสี่ยงเปรียบเหมือนขึ้นสะพานลอย ถ้าคนไทยฉีดทั้งประเทศให้ได้ จะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ถ้าสามารฉีดวันละ 3 แสนโดสต่อวันจะใช้เวลา 1 ปี เพื่อยุติโรคร้ายโควิด-19 นี้ ให้เร็วที่สุด อย่ารีรอ

ศ.นพ.ยง ยังเห็นด้วยที่จะกำหนด 5 จังหวัดเป็นพื้นที่สีแดง เพราะกรุงเทพฯมีผู้ติดเชื้อมาก และคนอายุน้อย เกิดแล้วไม่รุนแรงแต่แพร่ได้มาก

ศ.นพ.ยง ยังกล่าวถึง การได้รับวัคซีนว่าเพื่อลดอาการของโรคป้องกันการนอนโรงพยาบาลหรือการตายได้ 100% แต่ไม่ป้องกันการติดเชื้อ100% โดยพบว่า 2ใน 3 ของผู้ฉีดวัคซีนไปแล้ววัดภูมิได้ ในเข็มแรก แต่ต้องได้ 2เข้ม หลังฉีดเข็ม 2 แล้ว 14วัน จึงจะมีภูมิมากพอ ส่วนคนที่ติดเชื้อแล้วฉีดวัคซีนต่อได้ หากอยู่ในพื้นที่เสี่ยงสูง ให้ฉีดหลังติดเชื้อแล้ว 3 เดือน แต่ หากอยู่พื้นที่เสี่ยงต่ำรับวัคซีนต่อ 6 เดือนหลังติด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

EOD เร่งกู้ระเบิดตกค้าง-พิสูจน์กลิ่นศพทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 4 ส.ค. – ตลอดทั้งวัน ชุด EOD ตรวจสอบพื้นที่ตามแนวปะทะ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ พบวัตถุระเบิดและลูกกระสุนปืนใหญ่ตกค้างรวมกว่า 140 ลูก ใน 34 จุด ขณะที่กลิ่นศพทหารกัมพูชา ยังไม่ส่งผลกระทบฝั่งไทย แต่ชาวบ้านในพื้นที่ยืนยันมีกลิ่นจริง ตลอดทั้งวัน ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ EOD ของตำรวจตระเวนชายแดนที่ 21 และตำรวจภูธรพนมดงรัก รวมถึง ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ หรือ TMAC เข้าตรวจสอบพื้นที่ตามแนวปะทะใน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังสถานการณ์ปะทะสงบลง โดยพบวัตถุระเบิดและลูกกระสุนปืนใหญ่ตกค้างรวมกว่า 140 ลูก ใน 34 จุด หัวหน้าชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดให้ข้อมูลว่า ระเบิดส่วนใหญ่ทำงานไปแล้ว เหลือเพียง 7 จุดที่ยังคงอยู่ระหว่างการเก็บกู้ แต่มีบางจุดที่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าปฏิบัติงานได้ เนื่องจากอยู่ติดแนวชายแดน และอาจสร้างความเข้าใจผิดให้กับทหารทั้ง 2 ฝ่ายที่ยังคงตรึงกำลังอยู่ในพื้นที่ อีกทั้งสภาพพื้นที่เป็นโคลนตม ทำให้บางจุดลูกระเบิดฝังลึกมาก ทำให้การเก็บกู้ยากลำบาก จึงทำได้เพียงล้อมรั้วแสดงสัญลักษณ์ให้ทราบ เพื่อความปลอดภัยและไม่ให้ผู้คนเข้าใกล้ […]

มทภ.2 หวัง GBC ได้ข้อสรุปที่ดี ลั่นไม่ถอยกำลังทหาร

กองทัพบก 4 ส.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่น ไม่ถอยกำลังทหาร หวังถก GBC ได้ข้อสรุปที่ดี แต่ยังคาดหวังอะไรไม่ได้หากสองประเทศยอมรับเงื่อนไขซึ่งกันและกันก็จบง่าย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปชายแดนไทย-กัมพูชา (GBC) ที่ประเทศมาเลเซีย ว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าคุยเรื่องอะไรกัน แต่ก็คาดหวังว่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดี หาข้อตกลงร่วมกันให้ดีที่สุด ส่วนที่หลายฝ่ายมีความกังวลสถานการณ์ชายแดน หลังวันที่ 7 สิงหาคม จะมีความตึงเครียดนั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของผู้นำทั้งสองประเทศ จะเจอกันตรงจุดไหน หากยอมรับเงื่อนไขซึ่งกันและกัน ก็จบง่าย ซึ่งตอนนี้ยังคาดเดาอะไรไม่ได้ ว่าผลจะออกมาอย่างไร เมื่อถามว่า ประเด็นเรื่องการถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน ยืนยันว่า “กองทัพไม่ถอย เพราะเรารุกในเขตพื้นที่อธิปไตยของเรา” สำหรับการดูแลชายแดนไทย-กัมพูชา กองทัพทั้งสองประเทศได้ปฏิบัติตามข้อตกลงการหยุดยิง ที่สองรัฐบาลได้พูดคุยกันไว้เพื่อความสงบสุขบริเวณชายแดน ซึ่งเราพยายามทำให้ดีที่สุด แต่ยอมรับว่า มีปัญหาเรื่องโดรนไม่ทราบฝ่าย ซึ่งกองทัพภาคที่ 2 ได้บูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วน เพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์ดีขึ้น รวมถึงการติดตามกลุ่มบุคคลที่ทำตัวเป็นสายลับ และไส้ศึก […]

สำนักโฆษก กห. พาย้อนเหตุการณ์ยุคเขมรแดงปี 1979-1980

4 ส.ค.- เตือนความจำเขมร! สำนักโฆษกกระทรวงกลาโหม โพสต์ย้อนเหตุการณ์ไทยช่วยเขมร ยุคเขมรแดง ปี 1979-1980 เปิดประตูรับคนเขมรเป็นที่พึ่งสุดท้าย-เปิดค่ายพักพิงแบบไม่ลังเล วันนี้(4 ส.ค.2568) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจสำนักโฆษกกระทรวงกลาโหม ได้เผยแพร่ข้อมูลการช่วยเหลือของฝ่ายไทยที่มีต่อชาวกัมพูชาในยุคเขมรแดง โดยข้อความระบุว่า จากคนที่หนีตายสู่คนที่หันปากกระบอกปืนกลับมา” เมื่อ ‘เขมร’ ลืมทุกอย่างที่ไทยเคยมอบให้ ปี 𝟏𝟗𝟕𝟗… ชาวกัมพูชานับแสน นับล้าน วิ่งหนีตายจากนรกบนดินที่ชื่อว่า “เขมรแดง” ข้ามพรมแดนมายังไทย ในสภาพหมดเรี่ยวแรง หิวโหย และเกือบสิ้นลมหายใจ คนไทยเปิดประตูให้เขาพักพิง ตอนนั้นประเทศไทยไม่ได้เป็นเพียง “เพื่อนบ้าน” แต่กลายเป็น “ที่พึ่งสุดท้าย” เราส่งอาหาร เราเปิดค่ายพักพิง เราช่วยเหลือทั้งในนามรัฐบาล องค์กรพัฒนาเอกชน และแม้แต่ชาวบ้านธรรมดา ๆ ที่ยอมแบ่งข้าวเพียงคำเดียวให้ผู้ลี้ภัยชาวกัมพูชา การอพยพที่ไม่มีแผนที่เริ่มตั้งแต่ต้นปี 𝟏𝟗𝟕𝟗 จนถึงต้นยุค 𝟏𝟗𝟖𝟎𝐬 มีชาวกัมพูชาจำนวนมหาศาล บางแหล่งบอกว่ารวมกันถึง 𝟔 แสนถึง 𝟖 แสนคน อพยพอย่างไร้ทิศทางบางคนเดินเท้าเป็นร้อยกิโลเมตรจากกลางประเทศกัมพูชา หลายคนไร้เอกสาร ไม่มีอาหาร ไม่มีเป้าหมาย […]

กต. จัดบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศ

ก.ต่างประเทศ 4 ส.ค.-กต. จัดบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา คาดแจงข้อมูลที่บิดเบือน หลังกัมพูชาปล่อยเฟคนิวส์ต่อเนื่อง ด้าน “มาริษ” ย้ำไทยไม่ได้เริ่มก่อน ยึดแก้ปัญหาผ่านกลไกทวิภาคี เรียกร้องกัมพูชายึดหลักสันติวิธี-จริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ร่วมกับ นายปิยภักดิ์ ศรีเจริญ อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก และ นางสาวพินทุ์สุดา ชัยนาม อธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ ณ ห้องนราธิป กระทรวงการต่างประเทศ โดยคาดว่าจะเป็นการชี้แจงข้อเท็จจริงภายหลังจากที่ฝ่ายกัมพูชามีการให้ข้อมูลที่บิดเบือนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ก่อนการบรรยาย นายมาริษ กล่าวเปิดโดยขอบคุณผู้ที่เข้าร่วมรับฟังการบรรยายในวันนี้ พร้อมชี้แจงถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และท่าทีของไทยต่อกรณีดังกล่าว โดยตนตั้งใจจะแบ่งการบรรยายเป็น 2 ประเด็นหลัก คือ 1. การเจรจาหยุดยิงที่มาเลเซียเมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งไทยขอประท้วงต่อฝ่ายกัมพูชากรณีที่ละเมิดกฎหมายมนุษยชนและใช้ความรุนแรง โดยมีเป้าหมายแบบไม่เลือกเป้าและโจมตีไปที่พลเรือน รวมถึงการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งขัดต่อหลักการของอนุสัญญาออตโตวา ในขณะที่ไทยปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัด จึงหวังเป็นอย่างยิ่งให้กัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างจริงใจด้วยเช่นกัน ภายใต้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ ส่วนประเด็นที่ 2 คือการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ระหว่างวันที่ 4-7 สิงหาคม […]