กรุงเทพฯ 3 เม.ย. – วสท.ตรวจสอบเหตุไฟไหม้บ้านพังถล่ม หมู่บ้านกฤษดานคร 31 ย่านทวีวัฒนา เบื้องต้นยังไม่ระบุสาเหตุเพลิงไหม้ ขอนำอุปกรณ์ช่วยชีวิตผู้ติดค้างด้านในก่อน
นายธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) พร้อมทีม วสท. ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้บ้าน 3 ชั้น หมู่บ้านกฤษดานคร 31 ถ.บรมราชชนนี เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ จนพังถล่ม และมีผู้เสียชีวิต เบื้องต้นขณะนี้ยังไม่มีการตรวจสอบสาเหตุการพังถล่ม แต่เป็นการช่วยชีวิตผู้ที่ยังติดอยู่ด้านในก่อน โดย วสท.ได้นำกล้องวัดมุม เพื่อประเมินองศาการเคลื่อนตัวของตัวบ้าน ป้องกันการถล่มซ้ำ และห้ามเคลื่อนย้ายอิฐหรือผนังที่ขวางทับกันอยู่ออก ซึ่งจะทำให้อาคารขยับตัว และจะเป็นอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปช่วยชีวิตผู้ติดอยู่ด้านใน โดยทีมของ วสท.จะให้คำแนะนำและเป็นที่ปรึกษาระหว่างการค้นหา ป้องกันเกิดเหตุซ้ำ
ทั้งนี้ สันนิษฐานว่าอาจมีสัญญาณชีพ โดยจะใช้การเจาะชนิดพิเศษ และกล้องส่อง เพื่อค้นหาร่วมด้วย โดยสันนิษฐานว่ายังมีผู้รอดชีวิต จึงต้องเจาะลงไป อุปสรรคต่อการค้นหา คือ มีการพังถล่มทับกันหลายชั้น ทำให้การค้นหายากลำบาก ต้องวางแผนในการขุดเจาะอย่างระมัดระวัง ป้องกันการเคลื่อนตัวของโครงสร้าง จึงประเมินตำแหน่งการเจาะจากด้านบน ผู้เจาะต้องเชี่ยวชาญ ไม่กระแทก ซึ่งเจาะรูไม่ใหญ่ เพื่อสอดกล้องยืนยันสัญญาณชีพ ทั้งนี้ ณ ช่วงเวลา 13.00 น. พบว่ามีผู้ติดค้างอยู่ 2 คน ซึ่งยังไม่ยืนยันสัญญาณชีพ
อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า เปลวเพลิงเป็นสาเหตุหลักทำให้เกิดการถล่ม แต่แน่นอนว่าเปลวเพลิงเป็นชนวนนำไปสู่การถล่ม จากการตรวจสอบความร้อนเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 70 องศาเซลเซียส จึงต้องพรมน้ำเป็นระยะ แต่ต้องไม่ฉีดน้ำจำนวนมาก เนื่องจากจะทำให้โครงสร้างเคลื่อนตัว จึงต้องมีการตั้งกล้องเช็กรอยเลื่อนของตัวอาคารตลอดเวลา ซึ่งอุณหภูมิที่จะทำให้ตัวปูนหรืออิฐร้อน จนสามารถกระเทาะได้ อยู่ที่ราว 300-400 องศาฯ แต่ไม่ถึงขั้นพังถล่ม ซึ่งเหตุการณ์นี้ต้องดูสาเหตุว่าโครงสร้างเก่าหรือไม่ ถึงได้ถล่มลงมา ทั้งนี้ บ้านเรือนข้างเคียงอาจมีการอพยพชั่วคราว แม้ว่าตัวบ้านที่พังถล่มโน้มมาด้านหน้าถนน ต้องประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด. – สำนักข่าวไทย