รร.เซ็นทรา 29 มี.ค.-“อนุทิน” ลุ้นพยาบาลอาศัยความเชี่ยวชาญ ฉีดวัคซีนโควิดได้ 12 เข็ม ใน 1 ขวด เพื่อเพิ่มจำนวนคนรับวัคซีนและประหยัดงบประมาณ หากทำได้ช่วยเพิ่มจำนวนวัคซีนเป็น 72 ล้านโดส จากเดิม 63 ล้านโดส ด้าน “หมอยง” ชวนคนไทยรับวัคซีน แม้ป้องกันการติดเชื้อไม่ได้ 100% แต่ป้องกันความรุนแรงของโรค
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวเปิดการเสวนา Smart Living With COVID-19 Save ทุกลมหายใจ พาคนไทยฝ่าวิกฤตโควิด-19 ว่า สถานการณ์โควิด-19 แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการรักษาพยาบาลไทย ที่พบว่าอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโควิดอยู่ที่ร้อยละ 0.3 ถือว่าต่ำมากเทียบกับประเทศอื่นทั่วโลก และน้อยกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก ถึง 7 เท่าขณะนี้ไทยกำลังเริ่มฉีดวัคซีนโควิด -19 เชื่อว่า ไม่เกินครึ่งปี สถานการณ์การแพร่ระบาดและภูมิคุ้มกันในร่างกายของไทยจะมีมากขึ้น แต่ขณะนี้ต้องเพิ่มความพยายามในเจ้าหน้าที่พยาบาล ให้ช่วยกันฉีดวัคซีนโควิดของแอสตราเซเนกาให้ได้ 1 ขวด 12 เข็ม จะช่วยให้สามารถประหยัดงบประมาณในการจัดซื้อให้ลดลงหลายพันล้านบาท เพราะสามาระเพิ่มจำนวนวัคซีน จากเดิม 63 ล้านโดส เป็น 72 ล้านโดส
ด้าน ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ว่า การกลายพันธุ์ของเชื้อโควิด-19 เป็นเรื่องปกติที่พบได้ สายพันธุ์ทั่วโลกที่พบคือ สายพันธุ์อังกฤษ แอฟริกาใต้ บราซิล สำหรับวัคซีนที่มีอยู่ขณะนี้ ไม่มีผลต่อสายพันธุ์อังกฤษ ส่วนสายพันธุ์แอฟริกาใต้ บราซิล มีผลต่อประสิทธิภาพของวัคซีนลดลง แต่ในประเทศไทยยังไม่มีการระบาดของสายพันธุ์แอฟริกา และบราซิล แต่พบเชื้อจริง แต่อยู่ในสถานที่กักกันของรัฐ ไม่หลุดออกมา ดังนั้นการฉีดวัคซีนซิโนแวค และแอสตราเซเนกา ปัจจุบันประสิทธิภาพยังเหมือนเดิม เพราะสายพันธุ์ที่ระบาดในประเทศ ยังเป็นสายพันธุ์เดิม อยากเชิญชวนให้ทุกคนรับวัคซีน ทางออกของวิกฤติโควิด คือ ประชาชนทุกคนมีภูมิต้านทาน แม้จะไม่ได้ป้องกันการติดเชื้อได้ร้อยเปอร์เซนต์ แต่วัคซีนนี้ลดความรุนแรงของโรคและลดอัตราการเสียชีวิต เชื่อว่า ในสิ้นปีนี้จะพ้นวิกฤตโควิด
รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบ การหายใจและวัณโรคภาควิชาอายุรศาสตร์คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะหัวหน้าแพทย์ผู้ทำการรักษา นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า ขณะนี้อาการของผู้ว่าฯสมุทรสาครดีขึ้นมาก เมื่อวานนี้ ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ท้องถิ่นที่จังหวัดสมุทรสาครด้วย
ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวท่านสามารถเดินขึ้นลงบันไดได้โดยไม่ต้องมีใครพยุง สิ่งที่ต้องระวัง คือไม่ให้กระบวนการฟื้นฟูถูกรบกวน จากการทำงานหรือบุคคลที่จะมาเข้าเยี่ยม ซึ่งหลังสงกรานต์ คาดว่าท่านผู้ว่าฯก็อาจจะกลับไปทำงานได้เต็มที่ แต่การลงพื้นที่อาจจะยังไม่ได้เต็มที่มากนัก
นอกจากนี้ยังกล่าวว่าการฟื้นฟูร่างกายอย่างก้าวกระโดด ปัจจัยสำคัญมาจากจากความมุ่งมั่นของผู้ว่าฯ กำลังหนุนจากครอบครัว คนรอบข้าง และต้นทุนสุขภาพเดิมที่ดี .-สำนักข่าวไทย
