ฉีดวัคซีนตลาดบางแควันแรก705 ราย

กทม.18 มี.ค.- วันนี้ กทม.จัดหน่วยบริการเคลื่อนที่ฉีดวัคซีนโควิดกลุ่มเสี่ยงสูงในพื้นที่ตลาดบางแค เป็นวันที่ 2 โดยวันแรกฉีดไป 705 ราย ตั้งเป้าครบ 6พันคน ภายใน 21 มี.ค.


นายชวินทร์ ศิรินาค รองปลัดกรุงเทพมหานคร (รองปลัด กทม.) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากกรณีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นกลุ่มก้อนบริเวณตลาดบางแค กรุงเทพมหานครร่วมกับกรมควบคุมโรค และกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข จัดหน่วยบริการเคลื่อนที่ Mobile Unit ให้บริการฉีดวัคซีนเชิงรุกให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยงเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ณ ตลาดสิริเศรษฐนนท์ เขตบางแค ตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค.64 – 21 มี.ค.64 ซึ่งผลการฉีดวัคซีนเคลื่อนที่ในวันแรก (17 มี.ค.64) มีผู้ลงทะเบียนทั้งหมด 744 ราย ฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยงไปแล้ว 705 คน แบ่งเป็น คนไทย 258 คน ต่างด้าว 447 คน ในส่วนอีก 39 รายที่คัดกรองไม่ผ่านเนื่องจากสภาพร่างกายไม่พร้อมรับวัคซีน เช่น มีความดันโลหิตสูง ซึ่งผู้ที่รับวัคซีนมีอาการไม่พึงประสงค์ 13 ราย เช่น หน้ามืด เวียนศรีษะ แต่ทุกรายมีอาการปกติหลังได้พัก 30 นาที

รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวด้วยว่าจากการให้บริการวัคซีนเมื่อวานนี้พบปัญหาอุปสรรคและได้ดำเนินการแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น เช่น การปรับสถานที่เพื่อรองรับการให้บริการให้คล่องตัวมากขึ้น ได้แก่ การเพิ่มจุดลงทะเบียน การขยายที่นั่งพักสังเกตอาการโดยเพิ่มเก้าอี้จาก 200 ตัว เป็น 300 ตัว เพื่อรองรับอย่างเพียงพอ และจัดเพิ่มพัดลมให้มีอากาศถ่ายเท เปิดพัดลมดูดอากาศด้านบน และมีการเว้นระยะห่างระหว่างกันตามหลัก social distancing และจัดเจ้าหน้าที่เก็บขยะติดเชื้อนำไปทิ้งเพื่อกำจัดขยะติดเชื้อทุกวันเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน นอกจากนี้ยังได้ประสานขอล่ามภาษาพม่าเพิ่มเติมจากมูลนิธิศุภมิตรแห่งประเทศไทยเพื่อสื่อสารกับแรงงานชาวเมียนมาร์ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงด้วย


สำหรับหน่วยบริการฉีดวัคซีนเคลื่อนที่ดังกล่าวจะให้บริการฉีดวัคซีนให้กับผู้ค้าและแรงงานในตลาดที่ผ่านการคัดกรองว่ามีสัมผัสเสี่ยงสูงทั้งคนไทยและแรงงานต่างชาติ จำนวนประมาณ 6,000 คน ตั้งแต่ 17-21 มีค. 64 ซึ่งในเบื้องต้นสามารถให้บริการฉีดวัคซีนได้วันละ 1,000 คน และสามารถเพิ่มเติมได้ในกรณีที่มีคนมารับบริการจำนวนมาก สำหรับผู้ที่ได้รับการฉีดในรอบนี้จะฉีดเข็มที่ 2 อีกครั้งช่วงวันที่ 7 – 11 เม.ย.64.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ