สธ. 17 มี.ค.- สธ.ขอให้ประชาชนมั่นใจในวัคซีนป้องกันโควิด-19 และระบบการฉีด การตรวจสอบภูมิคุ้มกัน
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงการศึกษาวิจัยวัคซีนป้องกันโควิด-19 ว่ามีทั้งหมด 6 ด้าน คือ นโยบาย ระบบการให้วัคซีน การติดตามเชื้อกลายพันธุ์ ประสิทธิผลภูมิคุ้มกัน การสื่อสารสู่สาธารณะ และการบริหารแผนงานป้องกันผลกระทบด้านคุณภาพและความปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องวัคซีนพาสปอร์ต ที่มีผู้ให้ความสนใจมากว่าจะมีผลข้างเคียงอย่างไรหรือไม่ ขณะนี้ได้มีการเริ่มทำงานแล้ว โดยหน่วยงานที่ดูแล คือ HITAP ส่วนด้านประสิทธิผลภูมิคุ้มกัน มีโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแพทย์ ทั้งจุฬาฯ ศิริราช รามาฯ และกรมการแพทย์ ศึกษา ทั้งในด้านของภูมิคุ้มกันในประชากรทั่วไป ภูมิคุ้มกันในบุคลากรสาธารณสุข ภูมิคุ้มกันในผู้ป่วยทดแทนไต ภูมิคุ้มกันในผู้ป่วยมะเร็งเป็นต้น รวมทั้งการติดตามการกลายพันธุ์ของไวรัส โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยทั้งหมดนี้ได้รับเงินทุนวิจัยจาก วช. ประมาณ 50 ล้านบาท
อธิบดีกรมการแพทย์ ย้ำประชาชนไม่ต้องเป็นห่วงในระบบการรักษา เพราะโรงพยาบาลในสังกัดกรมการแพทย์ มีศักยภาพรองรับการรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพื่อไม่ให้มีการแพร่เชื้อในชุมชนต่อ
ด้าน นพ.เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กล่าวว่า จุดใหญ่ของการแพร่ระบาดยังคงอยู่ที่กรุงเทพมหานคร สำหรับผลการค้นหาเชิงรุกที่ตลาดย่านบางแค ตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค. จนถึงวันนี้ (17 มี.ค.) 7,299 คน พบผู้ติดเชื้อ 268 คน ยังรอผล 532 คน
ส่วนยอดฉีดวัคซีนขณะนี้ คืบไปแล้ว 58% มีผู้ได้รับวัคซีน 53,842 คน ขอให้ทุกคนระมัดระวังป้องกันตัวเอง เช่น การสวมหน้ากากอนามัยให้เรียบร้อยจนเคยชิน ความร่วมมือจากพวกเราทุกคนจะทำให้ปลอดจากโควิด
ด้าน นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กล่าวถึงการมีประเด็นผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา ว่า มีข้อมูลยืนยันเด่นชัดในหลายประเทศว่า วัคซีนมีผลสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันและชะลอการเกิดโรคโควิด-19 เช่นในหลายประเทศของยุโรป เช่น อังกฤษที่ฉีดประชากรไปแล้วกว่า 16 ล้านคน
สำหรับการบริหารจัดการวัคซีนของไทยมีอยู่อย่างจำกัด ซิโนแวค คือวัคซีนตัวเดียวที่สามารถส่งมาให้ไทยได้ค่อนข้างมากกว่าอย่างอื่น จึงต้องมีการจัดสรรอย่างระมัดระวัง เมื่อจำนวนวัคซีนมีมากขึ้น และจากการที่ไทยได้เป็นฐานการผลิต จะทำให้เราได้เข้าถึงวัคซีนมากขึ้น เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนนี้ จะทำให้ไทยฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้เร็วและมากขึ้น ซุึ่งทำให้ประเทศไทยจะเข้าสู่มาตรการผ่อนคลายได้เพิ่มมากขึ้น จึงขอให้ประชาชนมั่นใจ.-สำนักข่าวไทย