สธ.12 มี.ค.-สธ.แจงเลื่อนฉีดวัคซีนโควิดของแอสตราเซเนกาให้นายกฯ ออกไปหลังเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันและมีผู้เสียชีวิต รอการสอบสวนว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่ ทำให้ยุโรป 17 ประเทศชะลอการฉีด แม้วัคซีนของไทยที่ได้รับไม่เกี่ยวข้องหรือไม่ใช่รุ่นการผลิตเดียวกับยุโรป แต่เลื่อนรอผล EMA สอบ เพื่อความปลอดภัย คาด 2 สัปดาห์ โดยประเทศที่ล็อตการผลิตเดียวกับไทยคือเวียดนาม
บรรยากาศที่สถาบันบำราศนราดูร กระทรวงสาธารณสุข ในการฉีดวัคซีนให้กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ต้องมีการยกเลิกและเลื่อนการฉีดออกไป หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมาทาง EMA (European Medicines Agency) รายงานพบการเกิดภาวะหลอดเลือดอุดตั้น เกิดการขึ้น ในกลุ่มประเทศยุโรป ที่มีการรับวัคซีนโควิด -19 โดยเช้านี้ได้มีการเรียกประชุมผู้เชี่ยวชาญ ทั้งจากคณะแพทย์ มหาวิทยาลัยต่างๆ
โดย ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์และแผนงานการบริหารจัดการ การให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อโควิด -19 กล่าวว่า การเลื่อนฉีดวัคซีน เป็นการชะลอออกไปเพื่อให้เกิดความปลอดภัย หลัง EMA มีการรายงานพบปัญหาภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ในกลุ่มผู้รับวัคซีน ทำให้ต้องรอผลการสอบสวนที่ชัดเจน ว่าอาการที่เกิดขึ้น ที่ทำให้หลอดเลือดแข็งตัว ในหลอดเลือดดำ มีความเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่ โดยเนื่องจากในประเทศแถบยุโรป ทั้งเดนมาร์ก นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ ได้มีการประกาศชะลอการฉีดวัคซีนออกไป คาดว่าไม่เกิน 2 สัปดาห์ ผลการสอบสวนจะทราบผล เนื่องจากวัคซีน เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย เป็นสำคัญ โดยปัจจุบัน แอสตราเซเนกา ไม่ใช่ไม่ปลอดภัย และได้มีการฉีดไปแล้ว 34 ล้านโดส การชะลอการฉีดออกไปก่อนเพื่อรอผลการตรวจสอบ ก็เป็นเครื่องการันตีว่าวัคซีนที่จะให้กับประชาชน เป็นการคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ
ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า สำหรับวัคซีนมีรุ่นที่เกิดข้อสงสัยและต้องรอการสอบสวนโรค เป็นรุ่นการผลิต ที่ ABV 5300 พบว่ามีการกระจายไปใน 17 ประเทศ จำนวน 1 ล้านโดส ซึ่งไม่ใช่รุ่นการผลิต หรือ เกี่ยวกับวัคซีนแอสตราเซเนกาของไทย ที่ได้รับมาและเตรียมการฉีดในครั้งนี้ แต่เพื่อความปลอดภัยจึงต้องมีการชะลอการฉีดออกไปก่อน คาดว่าไม่เกิน 1-2 สัปดาห์ก็ทราบผล โดยหน่วยงานที่จะทำหน้าที่ตรวจสอบและรายงานผลคือ EMA หรือ european medicines agency แต่ไม่ได้ห้ามเรื่องของการฉีด แต่เป็นความสมัครใจของแต่ละประเทศที่จะชะลอไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย
ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า การชะลอการฉีดวัคซีนนี้ ไม่เกิดขึ้นแค่เฉพาะไทยแต่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก และเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาทางการเมือง โดยประเทศมีการชะลอการฉีดออกไปได้แก่ เดนมาร์ก 2 สัปดาห์ ไอซ์แลนด์ ออสเตรีย มีการชะลอออกไปจนกว่าได้รับผลการสอบสวน และ การชะลอการฉีดออกไปก่อนไม่ได้มีความเสียหาย เพราะสถานการณ์การติดเชื้อในไทย ไม่ได้เลวร้าย หรือมีการการระบาดหนัก และจากอุบัติการณ์ของผู้ที่มีภาวะลิ่มเลือดอุดตันเกิดขึ้น ในเดนมาร์ก ออสเตรีย เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน ตัวเลขก็ไม่ต่างกัน จึงคิดว่าไม่น่าสัมพันธ์กัน แต่ด้วยกระบวนการต้องไปสืบค้นเพิ่มขึ้น ว่าการเกิดอุดตันลิ่มเลือด เป็นเพราะอะไร เกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือในร่างกายมีโอกาสเกิดลิ่มเลือดอุดตันอยู่แล้ว
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชาการกุมารเวชศาสาตร์ คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การฉีดวัคซีนจำนวนมากย่อมมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงขึ้นได้ ส่วนภาวะที่เกิดขึ้นนี้ ต้องรอการพิสูจน์ว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่ ภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่พบในคนยุโรป มากกว่าเอเซียถึง 3 เท่าและการฉีดวัคซีน 3ล้านโดส พบเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน พบใน 22 คน และเสียชีวิต 1 คน หรือคิดเป็นอัตราส่วน 7 คนต่อ 1 ล้านคน
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สำหรับวัคซีนแอสตราเซเนกาที่เกิดปัญหาในยุโรปนี้ ไม่ใช่วัคซีนรุ่นเดียวกับไทย ได้รับ โดยไทยรับวัคซีนรุ่นเดียวกับเวียดนาม และขณะนี้ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้มีการชะลอการฉีดวัคซีนออกไปก่อนในส่วนแอสตราเซเนกา ส่วนซิโนแวค ก็เดินหน้าฉีดวัคซีนตามปกติ .-สำนักข่าวไทย