โควิดทั่วโลกหลังรับวัคซีนติดเชื้อลดลง

สธ. 9 มี.ค.-สถานการณ์ติดเชื้อโควิดทั่วโลกหลังรับวัคซีน จำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตลดลงมากต่อเนื่อง แต่ยังต้องย้ำมาตรการสาธารณสุข ส่วนไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 60 ราย ชวนใช้แอปฯ “หมอพร้อม” เตือนฉีดวัคซีน


นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โรคโควิด19 ประจำวันนี้ (9 มี.ค.) ว่าสถานการณ์ทั่วโลกหลังฉีดวัคซีนมากขึ้น ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตลดลงมาก เช่น สหรัฐ ผู้ติดเชื้อจากหลักแสนเหลือหลักหมื่นคน ผู้เสียชีวิตก็เหลือหลักพันแล้ว และอีกหลายประเทศก็ลดลงมากอาการติดเชื้อก็ลดความรุนแรงลง ส่วนประเทศเพื่อนบ้านไทยฉีดแล้วมากกว่า 4 ล้านโดส สถานการณ์การติดเชื้อโควิดก็ลดลงมาก เช่น ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นประเทศแรกที่ฉีด ตัวเลขผู้เสียชีวิตคงที่หลังฉีดวัคซีน ส่วนผู้ติดเชื้อรายใหม่มีแค่หลักหน่วยและหลักสิบ ส่วนเมียนมา ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ผู้ติดเชื้อก็ลดลง

สำหรับไทยวันนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 60 ราย มากจากต่างประเทศ 17 ราย จากการคัดกรองเชิงรุก 21 รายและในระบบริการสาธารณสุข 22 ราย มีอาการหนักใส่เครื่องช่วย 9 ราย หายป่วยแล้ว 97 เปอร์เซนต์ ผู้ป่วยลดลงเรื่อยๆ ผู้เสียชีวิตในระลอกนี้ยังอยู่ที่ 25 คน และแม้มีมาตรการผ่อนคลายมากขึ้นแต่ขอให้ประชาชนคงมาตรการเว้นระยะห่างใส่หน้ากาก ล้างมือ เพื่อไม่ให้มีการระบาดอีก โดยรายงานการพบผู้ติดเชื้อยังพบใน 8 จังหวัดเดิม จำนวนผู้ป่วยลดต่อเนื่อง โดยกรุงเทพฯวันนี้ยืนยัน 1 รายในรายตำรวจที่ทราบกันก่อนหน้านี้


นพ.จักรรัฐ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีของผู้ติดเชื้อนครนายกเชื่อมโยงปราจีนบุรี เป็น คู่สามีภรรยา เปิดร้านอาหารใน จ.ปราจีนบุรี ลูกสาวเป็นบุคคลากรทางการแพทย์ที่ จ.นครนายก ลุงกับป้า ต้องซื้อของที่ตลาดที่ปทุมธานี ซึ่งมีความเสี่ยงพบผู้ติดเชื้อ เมื่อมีอาการครั่นเนื้อตัว ปวดเมื่อย ปวดหัว จึงไปตรวจจนยืนยันว่าติดเชื้อ หลังสอบสวนโรค พบมีการไปช่วยลูกขายอาหารที่โรงงานที่ปราจีนบุรีหลายวัน สธ.ได้ตรวจผู้สัมผัสเพิ่มทั้งที่บ้านและรพ.และสุ่มตรวจพนักงานใน โรงงานอีกกว่าพันคนและร้าน อาหารที่ลุงป้าไปช่วยขาย เบื้องต้นตรวจไม่พบเชื้อ รอตรวจรอบต่อไป

สำหรับการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.-8 มี.ค.ที่ผ่านมา ฉีดแล้ว 2,404 คน รวม 29,900 ราย มีอาการไม่พึงประสงค์ ซึ่งพบได้ 1 ใน 3 ของผู้รับวัคซีน ส่วนใหญ่ไม่รุนแรง เป็นอาการข้างเคียงจากการฉีด ปวดบวม คลื่นไส้นิดๆ อาเจียน แต่ถือเป็นอาการไม่รุนแรง ส่วนอาการที่ต้องระวังมากแต่ยังไม่พบ คืออาการข้างเคียงรุนแรง มีผื่นขึ้น อาเจียน ปากเบี้ยว กล้ามเนื้ออ่อนแรง ปวดศีรษะมาก เป็นอาการข้างเคียงที่จะต้องมีการสอบสวนโรค มีอาการแพ้รุนแรง

ทั้งนี้ จากเมื่อวานถึงวันนี้ไม่พบรายงานเหตุไม่พึงประสงค์ ที่พบ 1 รายใหม่ใน 5 รายพิจารณาแล้วว่า มีส่วนเกี่ยวกับวัคซีนแต่ไม่รุนแรง เป็นเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ ไม่รุนแรง


ส่วนวัคซีนพาสปอร์ต คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ พิจารณาวัคซีนพาสปอร์ตเป็นเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน เมื่อได้รับ 2 ครั้งครบแล้ว ก็จะขอใบรับรองว่าได้ฉีดวัคซีนครบ ใช้ในการเดินทางระหว่างประเทศได้ จะมีการระบุยี่ห้อวัคซีนและผู้รับวัคซีนสามารถขอเอกสารวัคซีนเล่มเหลืองจากรพ.ของรัฐได้ มีผู้ลงรายชื่อรับรองและต้องได้รับรองของประเทศนั้นๆ ที่จะเดินทางด้วย โดยหลังรับวัคซีนเข็มแรก 2 สัปดาห์โดยประมาณจะกระตุ้นภูมิคุ้มกันเกิดขึ้น ส่วนแอสตราเซเนก้า ที่จะเริ่มฉีดให้ผู้อายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ก็จะมีการคัดกรองประวัติเช่นเดียวกับซิโนแวค

ด้าน ผศ.(พิเศษ) นพ.สุภโชค เวชภัณฑ์เภสัช ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงแอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” ว่าอยู่ในระบบไลน์ถ้าเข้าไปเป็นเพื่อนก็จะให้ข้อมูลสุขภาพต่างๆและมีฟังก์ชั่นในการรับวัคซีนของประชาชนถ้าเป็นประชาชนในกลุ่มเสี่ยงกลุ่มแรกก็จะมี รายชื่อในระบบหมอพร้อมแล้ว ประชาชนเช็คได้และหากยินยอมรับวัคซีนก็สามารถเลือกวันเวลา รพ.ใกล้บ้านในการรับวัคซีน และถ้าได้รับวัคซีนแล้วแอปฯจะติดตามอาการข้างเคียงที่กำหนด และมีระบบนัดรับวัคซีนเข็ม 2 ด้วย การรับวัคซีนโควิด-19 ต้องรับ 2 เข็มให้ครบถ้วนเพื่อไม่ให้ประสิทธิภาพลดลง

สำหรัรบการรับวัคซีน จะแบ่งเป็น กลุ่มเสี่ยง กลุ่มทำงาน และประชาชนทั่วไป ซึ่งรอบประชาชนทั่วไป ถ้าไม่พบชื่อก็เช้าไปฉีดใน รพ.รัฐได้เลย ตามแผนภายในสิ้นปีนี้ จะมีผู้ฉีดวัคซีน 60-70 เปอร์เซนต์ของประชากรในประเทศ

ทั้งนี้ในการแถลงข่าวยังย้ำให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการฉีดวัคซีนโควิด ซึ่งจะแบ่งการฉีดเป็น 2 ระยะ1 มี.ค.-พ.ค.2ล้านโดส มิ.ย.-ธ.ค. 61 ล้านโดส .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ลิณธิภรณ์” แจงปมสะกดคำผิด ยอมรับผิดพลาดพร้อมแก้ไข

กระทรวงวัฒนธรรม 4 ก.ค.- “ลิณธิภรณ์” ยอมรับดรามาใช้ภาษาไทยสะกดคำผิด พร้อมแก้ไขปรับปรุงตัว รับปากจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก บอก บางครั้งรีบพิมพ์ไม่ได้ตรวจทาน ทำเกิดผลเสียทุกวันนี้ แจงมีปัญหาสุขภาพ อาจทำให้ออกเสียงควบกล้ำไม่ได้ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงดรามาเรื่องการใช้ภาษาไทยในโซเชียลมีเดีย ว่า ตนขอยอมรับอย่างซื่อตรง ว่าบางครั้งในการสะกดคำของตนเองก็มีความผิดพลาด ซึ่งบางครั้งใช้การพิมพ์ด้วยเสียงผ่านโทรศัพท์มือถือ และได้โพสต์ข้อความไปแล้ว ก่อนจะมารู้ตัวอีกทีก็ผ่านไป 2-3 ชั่วโมง มันเป็นความผิดพลาด อันนี้ตนยอมรับด้วยความจริงใจ และวันนี้ตนก็เข้าใจดีว่าเมื่อมานั่งตำแหน่งตรงนี้ สิ่งที่จำเป็นต้องทำ คือต้องปรับปรุง และคิดว่าหลังจากนี้ความผิดพลาดเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะตนก็อยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน ของประเทศเหมือนกัน รวมถึงอีกสิ่งที่ตนอยากจะบอกคือการออกเสียงควบกล้ำ ซึ่งเป็นผลกระทบ จากปัญหาสุขภาพ แต่ส่วนหนึ่งตนก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในภาพนโยบายใหญ่ คงต้องขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยใน รายละเอียดที่ชัดเจน และจะเข้ากระทรวงพร้อมกันในวันที่ 8 กรกฎาคม สำหรับตนหากใครที่เคยติดตาม ก็เคยเป็นคนหนึ่งที่ พูดเรื่องการศึกษาในส่วนของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ตั้งแต่เป็นโฆษกพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะเรื่องการลดค่าสอบทีแคส (TCAS) รวมถึงเรื่องการทำโครงการ ด้านสุขภาพภาวะจิต และอาจจะเป็นโครงการหนึ่งที่ตนจะสานต่อ […]

มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ที่บราซิล

ทำเนียบ 3 ก.ค.-มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ครั้งที่ 17 ที่บราซิล 6-7 ก.ค.นี้ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS ครั้งที่ 17 ระหว่างวันที่ 6 – 7 กรกฎาคม 2568 ร่วมกับผู้นำจาก 10 ประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS และประเทศหุ้นส่วนจากหลากหลายประเทศ ที่นครรีโอเดจาเนโร สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล โดยไทยเข้าร่วมในฐานะประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม BRICS (Partner Country) สำหรับการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS จะจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “เสริมสร้างความร่วมมือโลกใต้เพื่อการสร้างธรรมาภิบาลที่ครอบคลุมและยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยบราซิลในฐานะประธานกลุ่ม BRICS ปีนี้ ให้ความสำคัญกับประเด็นหลัก 6 ด้าน ได้แก่ (1) สาธารณสุข (2) การค้า การลงทุน และการเงิน (3) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (4) ธรรมาภิบาลของปัญญาประดิษฐ์ […]

Hun Sen, at event marking ruling party's 74th founding anniversary

ฮุน เซน เรียกร้องปั๊ม ปตท. งดนำเข้าน้ำมันจากไทย

พนมเปญ 3 ก.ค.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเรียกร้องให้เจ้าของปั๊ม ปตท.เลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าจากประเทศอื่นแทน สื่อของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน พูดถึงเรื่องนี้ในระหว่างการประชุมกับครูและนักเรียนที่ศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมในจังหวัดไพรแวงในวันนี้ เรียกร้องให้เจ้าของปั๊มน้ำมัน ปตท.ทุกแห่งในกัมพูชาเลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าน้ำมันจากประเทศอื่น ๆ แทน ไม่ว่าจะเป็นจากเวียดนาม  มาเลเซีย หรือสิงคโปร์ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อปั๊ม แม้ว่า ปตท.จะเป็นรัฐวิสาหกิจของไทยก็ตาม นอกจากนี้นายฮุน เซนยังพูดถึงเรื่องที่ไทยเคยขู่ว่าจะตัดไฟฟ้า ตัดอินเทอร์เน็ต ห้ามขายเชื้อเพลิง และอื่นๆ ให้กัมพูชาด้วยว่า เมื่อไทยขู่มากัมพูชาก็ตอบโต้ทันที กัมพูชาต้องพึ่งพาตนเองให้ได้เพื่อรับมือกับภัยคุกคามในอนาคตเหมือนกับที่กำลังเผชิญจากไทยในเวลานี้ แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากไทย แต่กัมพูชาก็ได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ของกัมพูชา ประธานวุฒิสภากัมพูชาเน้นย้ำว่า มาตรการทั้งหมดที่กัมพูชาได้ดำเนินไปนั้นเป็นการตอบโต้โดยตรงกับภัยคุกคามจากฝ่ายไทย รวมทั้งการที่ไทยปิดด่านพรมแดนแต่เพียงฝ่ายเดียว เขาแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า การเจรจากับไทยจะเริ่มขึ้นได้ ต่อเมื่อฝ่ายไทยจะต้องยอมเปิดด่านทุกจุดอย่างเต็มรูปแบบเหมือนที่เคยทำก่อนวันที่ 7 มิถุนายนแล้วเท่านั้น.-816(814).-สำนักข่าวไทย

เปิด 7 จุดยืน “ปชน.” ทางออกประเทศหาก “แพทองธาร” พ้นเก้าอี้

กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “แพทองธาร” พ้นตำแหน่ง เปิดเงื่อนไขโหวตนายกฯ คนใหม่ พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “นายกฯ แพทองธาร” พ้นจากตำแหน่ง เพื่อนำพาประเทศไปสู่ทางออกที่จะเป็นประโยชน์ที่สุดสำหรับประชาชนทุกคน ดังนี้ 1.สิ่งที่ประเทศต้องการมากที่สุด คือรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มีความชอบธรรม และสามารถตั้งทีมบริหารจากความรู้ความสามารถ ไม่ใช่จากการต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง2.รัฐบาลที่จะมีคุณสมบัติดังกล่าวจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากสภาชุดปัจจุบัน ทางออกสำหรับประเทศจึงเป็นการจัดให้มี “การเลือกตั้งใหม่” โดยเร็ว3.รักษาการนายกฯ ควรประกาศให้ชัดเจนว่าจะใช้อำนาจที่ตนเองมี ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนผ่านคูหาเลือกตั้ง4.หากรักษาการนายกฯ ไม่ทำ และมีเหตุใดที่ทำให้นายกรัฐมนตรีแพทองธาร พ้นจากตำแหน่ง กระบวนการในการเลือกนายกฯ คนใหม่ จะต้องนำไปสู่การได้มาซึ่งนายกฯ ที่พร้อมเดินหน้าสู่การยุบสภา5.เพื่อให้ประเทศไม่ถูกบีบไปสู่ทางตันหรือการใช้อำนาจนอกครรลองประชาธิปไตย เราพร้อมจะพิจารณาลงมติให้กับผู้เสนอตัวเป็นนายกฯ คนใหม่คนใดก็ตาม ที่ยอมรับ “เงื่อนไข” ในการเป็นรัฐบาลชั่วคราว โดยทางพรรคประชาชนจะไม่เข้าร่วมรัฐบาลและจะไม่มีใครจากพรรคประชาชนไปเป็นรัฐมนตรี 6.“เงื่อนไข” ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา สำหรับนายกฯ คนใหม่ จะต้องประกอบไปด้วยอย่างน้อย6.1 การประกาศเส้นตายว่าจะยุบสภาภายในสิ้นปี6.2 การยืนยันภารกิจเฉพาะหน้าที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าว (เช่น การดำเนินการให้มีการจัดประชามติพร้อมกับการเลือกตั้ง เพื่อถามประชาชนเรื่องการมี […]

ข่าวแนะนำ

ปลัด อบต. ถูกหลอกลงทุน สูญ 4 ล้าน

บุรีรัมย์ 5 ก.ค. – ปลัด อบต.สาวชาวบุรีรัมย์ ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นหมอเกษียณ ทักมาจีบ แล้วหลอกร่วมลงทุนอ้างผลตอบแทนสูง หลงเชื่อสูญ 4 ล้าน นำที่ดินไปจำนอง รถเข้าไฟแนนซ์ นางสาวปลา ปลัด อบต.แห่งหนึ่งในจังหวัดศรีสะเกษ นำหลักฐานข้อความแชทสนทนา และรูปโปร์ไฟล์ของชายที่เชื่อว่าเป็นอดีตนายแพทย์ รพ.ดัง ร้องเรียนสื่อหลังถูกหลอกลวงฉ้อโกง โดยอีกฝ่ายทักเฟซบุ๊กมาจีบ พร้อมหยอดคำหวาน ทำให้หลงเชื่อ ก่อนหลอกล่อให้ร่วมลงทุนผ่านแพลตฟอร์มหนึ่ง อ้างว่าจะได้ผลตอบแทนสูง ยิ่งลงทุนมากยิ่งผลตอบแทนมาก แม้จะลงทุนได้ยอดเงินสูงถึง 28 ล้าน แต่เบิกมาไม่ได้ สุดท้ายสูญเงินไปถึง 4 ล้านบาท แล้วถูกบล็อกการติดต่อ ทำให้เดือดร้อนหนัก เพราะเงินที่นำไปลงทุน เป็นเงินเก็บสะสม นำรถยนต์ไปเข้าไฟแนนซ์ และนำที่ดินไปจำนอง แจ้งความตำรวจแล้ว พบบัญชีที่โอนเงินเป็นบัญชีม้า พร้อมฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ อย่าหลงเชื่อใครง่ายๆ.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

เด้ง 5 เสือ สน.บางเขน เซ่นจับบ่อนสะพานใหม่

กทม. 5 ก.ค. – สั่งเด้ง 5 เสือ สน.บางเขน เซ่นจับบ่อนสะพานใหม่ ขณะที่เช้านี้เจ้าหน้าที่คุมตัว 72 นักพนัน ไปฝากขังศาลแขวงดอนเมือง พบส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ สุภาอ้วน รอง ผบก.น.2 รรท.ผบก.น.2 ลงนามในคำสั่ง กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ที่ 183/2568 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ และแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเมื่อวันที่ 4 ก.ค.68 เวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เข้าทำการสืบสวนสถานที่ต้องสงสัย ซึ่งคาดว่าเป็นบ่อนการพนัน บริเวณอาคารพาณิชย์ กลางซอยพหลโยธิน 52 แยก 3 แขวงคลงถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร และได้จับกุมผู้ต้องหากับพวกในข้อหา “ร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันไฮโล เพื่อพนันเอาทรัพย์สินกัน โดยไม่ได้รับอนุญาต”และ “ร่วมกันเข้าเล่นหรือเล่นการพนันโฮโลเพื่อพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งเหตุดังกล่าวเป็นเขตพื้นที่รับผิดชอบของสน.บางเขน เพื่อให้การบริหารงานในภาพรวมของ กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และเรียบร้อย […]

ค้นบ้านพักสีกา คนสนิท “ทิดอาชว์” พบจีวรหลายผืน

กทม. 5 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” รับเมื่อวาน ปปป. พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำหมายศาลค้นบ้านพักสีกา ก.ไก่ คนสนิท “ทิดอาชว์” อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ พบภายในบ้านมีจีวรหลายผืน เวลา 10.00 น. พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ บช.ก. เปิดเผยถึงความคืบหน้า การสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลและหลักฐาน ที่เกี่ยวข้องกับวัดตรีทศเทพ ว่าเมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่งในหมู่บ้านดังของสีกาไฮโซ อักษรย่อ ก.ไก่ หญิงสาวคนสนิทของทิดอาชว์ เพื่อค้นหาพยานหลักฐาน พร้อมสอบปากคำสีกาคนดังกล่าว จากการตรวจค้นภายในบ้านพัก พบพยานหลักฐานจำนวนหนึ่ง โดย 1 ในนั้นเป็นจีวรพระหลายพื้น แต่จะเป็นของพระรูปไหนอย่างไร ยังไม่ทราบ เพราะเจ้าตัวยังไม่เปิดเผย จากการสอบปากคำสีกา ก. ให้การเป็นประโยชน์เป็นที่น่าพอใจ สามารถขยายผลนำไปสู่การสืบสวนสอบสวนคดีทุจริตในอนาคตได้ นอกจากนี้ สีกาไฮโซ ก. ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์ได้ ซึ่งถือว่าเป็นให้ความร่วมมือในทิศทางที่ดี อย่างไรก็ตาม หลังหมดเวลาตรวจค้น 18.00 น. เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัว […]