กรุงเทพฯ 2 มี.ค. – “คุณหญิงกัลยา” รักษาการ รมว.ศึกษาฯ แถลงข่าวเดินหน้า-ขับเคลื่อน-สานต่อ นโยบาย 10 ภารกิจ ก.ศึกษาฯ พร้อมแต่งตั้ง 10 ที่ปรึกษา เรียกประชุมผู้บริหารกระทรวงฯ มอบแนวทางปฏิบัติ
ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมปฏิบัติหน้าที่รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเต็มความสามารถ เร่งเดินหน้าขับเคลื่อน สานต่อนโยบาย 10 ภารกิจหลัก พร้อมแต่งตั้งทีมที่ปรึกษา 10 ท่าน ทีมโฆษกฝ่ายการเมือง และเรียกประชุมผู้บริหารกระทรวงฯ ทันที หลังมีมติ ครม. เพื่อมอบแนวทางปฏิบัติ
ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ตนเองมีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ และจะทำอย่างเต็มความสามารถในตำแหน่งรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยจะขับเคลื่อน เดินหน้า และสานต่อนโยบาย เพื่อให้การปฏิรูปการศึกษาไปสู่ตัวผู้เรียนโดยตรงเป็นไปตามเจตนารมณ์ที่ต้องการ โดยกระทรวงศึกษาฯ จะมุ่งสร้างพื้นฐานให้กับผู้เรียนทั้ง 4 ด้าน ตามพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 10 พร้อมทั้งจะปฏิบัติตามนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา ก่อนเข้ารับหน้าที่ โดยมีเป้าหมายเพื่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของชาติในทุกมิติที่ได้ดำเนินการมาโดยตลอด โดยโครงการที่จะต้องเร่งรัดและทำให้เกิดเป็นรูปธรรม ประกอบด้วย
- โครงการบูรณาการการศึกษาจังหวัด ซึ่งประกอบด้วยโรงเรียน 3 กลุ่ม คือ 1.โรงเรียนคุณภาพของชุมชน 2.โรงเรียนมัธยมดีสี่มุมเมือง และ 3.โรงเรียน Stand Alone
- เดินหน้าโครงการวิทยาศาสตร์พลังสิบ โดยจะขยายโอกาสให้นักเรียนได้เรียนวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม หรือ STI อย่างกว้างขวาง โดยจะเน้นการจัดการเรียนการสอนที่เน้นการปฏิบัติ ประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันมากขึ้น
- สร้างจิตอาสาครู และบุคลากรทางการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการจะสร้างครูที่มีจิตอาสา เพื่อให้เด็กๆ ได้เห็นและนำไปเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตต่อไป การทำงานจิตอาสา ก็คือการทำงานเพื่อคนอื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ถือเป็นการใช้กระบวนการคิด วิเคราะห์เหตุผล สามารถแยกแยะเรื่อง การคิดถูกต้อง คิดดี ตามหลักวิชาการ ด้วยการน้อมนำพระบรมราโชวาทของในหลวงรัชกาลที่ 10 มาเป็นแนวทางในการประพฤติปฏิบัติตน
- ขับเคลื่อนการนำศาสตร์พระราชามาสู่การจัดทำหลักสูตรการเรียนการสอนในสถานศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม
- ส่งเสริมให้เกิดการเรียนภาษาต่างๆ โดยเฉพาะภาษาโค้ดดิ้ง และภาษาอังกฤษ โดยได้มีการเซ็น MOU กับสถานทูตแคนาดา ในการจ้างครูสอนภาษาอังกฤษที่เป็นชาวต่างชาติ จำนวน 300 คน ด้านภาษาโค้ดดิ้งได้จัดให้มีการอบรมหลักสูตร C4T Plus ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ รวมทั้ง Coding for Teacher ที่ได้มีการขยายไปกระทรวงต่างๆ ภายใต้คณะกรรมการโค้ดดิ้งแห่งชาติ และร่วมมือกับภาคเอกชน เพื่อให้โค้ดดิ้งครอบคลุมหลากหลายอาชีพมากยิ่งขึ้น ภายใต้แนวคิด “Coding for All & All for Coding” ให้เป็นรูปธรรม
- การส่งเสริมการอ่านเขียนเรียนประวัติศาสตร์ด้วยสื่อร่วมสมัย และจัดทำ AR เพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์ผ่านธนบัตร มีการอบรมกระบวนการสอนโดยใช้คลิปประวัติศาสตร์น่ารู้ จำนวน 10 คลิป ที่ได้จัดทำเป็นคลังข้อมูลดิจิทัลที่สามารถเข้าถึงความสนใจของเด็กในยุคปัจจุบัน รวมถึงการปรับปรุงหลักสูตรและวิธีการสอนของครูให้ร่วมสมัย
- ยกระดับอาชีวศึกษาด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทั้งระบบ โดยเฉพาะในส่วนของอาชีวะเกษตร และประมง โดยจะพัฒนาสถานศึกษาให้เป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีเกษตร ถ่ายทอดเทคโนโลยีเกษตรให้กับเยาวชนและชุมชน พร้อมยกระดับและพัฒนาการเรียนการสอนสู่ Digital Farming โดยนำ STI มาใช้ในกระบวนการเรียนการสอน รวมไปถึงการสร้างบรรยากาศห้องเรียนธรรมชาติในสถานศึกษาต้นแบบอาชีวะเกษตรและประมงทั่วประเทศ เพื่อให้นักเรียนอาชีวะเกษตรได้เรียนรู้ ฝึกฝน ฝึกตน ฝึกทักษะชีวิตกับธรรมชาติ
- โครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ตามแนวพระราชดำริ ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง ได้รับความสนใจจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยใช้กลไกของอาชีวะเกษตรในการขับเคลื่อนโครงการ โดยวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี จะเป็นแหล่งพัฒนาบุคลากรทางการเกษตร ที่พร้อมจะพัฒนาให้เป็นผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการจัดการน้ำในอนาคต ภายใต้หลักสูตร “ชลกร” เพื่อปั้นนักบริหารจัดการน้ำใน ชุมชน โดยมีเป้าหมายที่สำคัญ คือ การช่วยเหลือเกษตรกรให้มีน้ำกิน น้ำใช้ แก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน โดยเชื่อว่าอาชีวะเกษตรจะสร้างชาติ ด้วยชลกรที่จะเข้ามาเปลี่ยนประเทศไทย
- ผลักดันข้อเสนอในการจัดหาวัคซีนโควิด-19 สำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยมีเป้าหมายในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษาที่อยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง ด้วยตระหนักถึงความสำคัญของวิชาชีพครู ที่เป็นผู้เสียสละในการทำงานใกล้ชิดกับเด็กนักเรียน ผู้ปกครอง และคนในชุมชน
- การมอบหมายให้สภาการศึกษา ติดตาม กำกับ และเร่งผลักดันในเรื่องพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การปฏิรูปการศึกษา พ.ศ…. ที่ได้ผ่านการเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี
ทั้งนี้ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ยังได้แต่งตั้งทีมที่ปรึกษา ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิที่มีส่วนสำคัญในการพัฒนาการศึกษาของประเทศไทย นำโดย นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ประธานคณะที่ปรึกษา, ศาสตราจารย์สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ที่ปรึกษา, นายศุภชัย เจียรวนนท์ ที่ปรึกษา
พร้อมกันนี้ยังได้มีการแต่งตั้งทีมโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ นำโดย นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญด้านการสื่อสาร, ดร.วรวรงค์ รักเรืองเดช รองโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ คนที่ 1 เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และนายชยพงศ์ สายฟ้า รองโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ คนที่ 2 เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญด้านการศึกษา. – สำนักข่าวไทย