BIG STORY : อย.เผยมี 2 บริษัทยื่นขอขึ้นทะเบียนวัคซีน

กรุงเทพฯ 1 มี.ค. – เลขาธิการ อย. เผย 2 บริษัทผู้ผลิตวัคซีนโควิด-19 ยื่นเอกสารขอพิจารณาขึ้นทะเบียนเพิ่มเติม หลังก่อนหน้านี้อนุมัติซิโนแวคและแอสตราเซเนกาไปแล้ว ย้ำไม่ปิดโอกาสเอกชนหากประสงค์ขอขึ้นทะเบียน


นายแพทย์ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. เปิดเผยถึงการขออนุญาตขึ้นทะเบียนใช้วัคซีนโควิด-19 ในภาวะฉุกเฉินว่า นอกจาก อย. จะขึ้นทะเบียนให้สามารถใช้วัคซีน 2 ตัว จากบริษัทแอสตราเซเนกา และบริษัทซิโนแวคแล้ว ล่าสุดมีอีก 1 บริษัท คือ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ยื่นเอกสารเพื่อขอขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิด-19 ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาโดยคณะกรรมการ และผู้เชี่ยวชาญ คาดใช้เวลา 30 วัน ช่วงปลายเดือนมีนาคม หรือต้นเดือนเมษายน จะทราบผล

ขณะเดียวกันยังมีวัคซีนโควิด-19 อีก 1 ตัว ของบริษัทโมเดอร์นา ที่ติดต่อขอยื่นเอกสารกับ อย. เพื่อขอพิจารณาขึ้นทะเบียนวัคซีน ในช่วงกลางเดือนมีนาคมนี้ด้วยเช่นกัน


เลขาธิการ อย. ระบุว่า สำหรับหลักเกณฑ์ในการพิจารณาจะขึ้นทะเบียนวัคซีนให้ใช้ในภาวะฉุกเฉินมี 3 หลัก คือ ความปลอดภัย คุณภาพ และประสิทธิภาพการป้องกันโรค อย่างไรก็ตาม อย. ไม่มีการปิดกั้นเอกชนหากต้องการยื่นขอพิจารณาขึ้นทะเบียนวัคซีน แต่หากจะมีการนำไปใช้ต้องขึ้นอยู่กับคณะอนุกรรมการอำนวยการให้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ซึ่งเป็นหน่วยงานที่บริหารจัดการวัคซีน

ขณะที่ นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 กล่าวถึงการบริหารจัดการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในระยะแรกว่า ในระยะแรกที่วัคซีนยังมีจำนวนจำกัด จึงจำเป็นต้องเร่งฉีดในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ก็คือบุคลากรสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ติดเชื้อ เพื่อรักษาระบบสาธารณสุข

ส่วนในประชาชนที่มีความเสี่ยงสูงรองลงมา แพทย์จะพิจารณาผู้ป่วยในการดูแลของโรงพยาบาล ว่าใครควรได้รับวัคซีน หลังจากนั้นจะมีการติดต่อไปเพื่อสอบถามความสมัครใจในการฉีด หลังจากนั้นผู้ที่ตอบรับการฉีดวัคซีนก็เข้ามารับวัคซีนเข็มที่ 1 ตามนัดในโรงพยาบาล โดยวัคซีนซิโนแวคเข็มที่ 2 จะนัดฉีดห่างออกไปอีก 21 วัน หรือ 3 สัปดาห์ โดยแพทย์จะออกใบนัด และให้ลงทะเบียนในแอปพลิเคชันไลน์บัญชีทางกลาง “หมอพร้อม” เพื่อให้ประชาชนสังเกตอาการหรือผลข้างเคียงหลังจากการได้รับวัคซีน นอกจากนี้เมื่อถึงเวลานัดฉีดเข็มที่ 2 หมอพร้อมจะทำการแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชัน


นพ.โสภณ กล่าวว่า จากการสำรวจประชาชนในเขตเมือง พบผู้ป่วยในโรงพยาบาลสังกัดกรมการแพทย์ใช้แอปไลน์ร้อยละ 90 ประชาชนในต่างจังหวัดใช้แอปไลน์ประมาณร้อยละ 40 ดังนั้น จึงต้องขอความร่วมมือจากอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในการเข้าไปติดตามผลหลังฉีด รวมถึงเตือนนัดหมายฉีดเข็มที่ 2 ด้วย

นพ.โสภณ ยังกล่าวต่อว่า การฉีดวัคซีนของซิโนแวคในเข็มที่ 2 ห่างจากเข็มที่ 1 เพียง 3 สัปดาห์ ดังนั้น จึงไม่ค่อยกังวลเรื่องว่าประชาชนจะลืมนัดฉีดเข็มที่ 2 อย่างไรก็ตาม จะต้องกำชับเรื่องใบนัดหมายกับประชาชนให้ครบถ้วน

ส่วนการฉีดวัคซีนในจังหวัดต่างๆ เริ่มแล้ววันนี้ เช่น ที่จังหวัดราชบุรี นายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เป็นสักขีพยานการฉีดวัคซีนซิโนแวค ที่โรงพยาบาลวัดเพลง อำเภอวัดเพลง โดยมีแพทย์หญิงปาจรีย์ อารีย์รบ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด นายแพทย์ชวนนท์ อิ่มอาบ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และผู้อำนวยการโรงพยาบาลวัดเพลง บุคลากรทางการแพทย์ เข้าร่วมฉีดวัคซีนเป็นชุดแรกจำนวน 10 คน

นายแพทย์ชวนนท์ อิ่มอาบ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และผู้อำนวยการโรงพยาบาลวัดเพลง เปิดเผยว่า จ.ราชบุรี ได้รับการจัดสรรวัคซีนซิโนแวค จำนวน 2,500 โดส ฉีดได้จำนวน 1,250 คน ซึ่งได้กระจายไปให้ส่วนทั้งโรงพยาบาลภาครัฐ และโรงพยาบาลเอกชนทั้งจังหวัด รวมถึงในส่วนโรงพยาบาลและอำเภอนั้นมีผู้ที่เป็นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและมีรายชื่ออยู่ในกลุ่มนี้ จากการสำรวจมีรายชื่ออยู่ประมาณกว่า 12,000 คน แต่วัคซีนที่ได้รับฉีดวัคซีนลอตแรกที่โรงพยาบาลวัดเพลง มีอยู่ประมาณ 1,250 คน ทำให้สามารถฉีดได้ก่อนประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ของบุคลากรทางการแพทย์และผู้ที่เกี่ยวข้อง อย่างวันนี้จะฉีดที่โรงพยาบาลวัดเพลงเป็นที่แรกก่อน เป็นบุคลากรทางการแพทย์จำนวน 10 คน โดยราชบุรีมีประชากรกว่า 800,000 คน ตั้งเป้าอย่างน้อยต้องฉีดให้ได้ 50 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณกว่า 400,000 ราย

สำหรับคนแรกที่ได้รับการฉีดวัคซีนของจังหวัดราชบุรีคือ แพทย์หญิงปาจรีย์ อารีย์รบ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด คนที่สองคือ นายแพทย์ชวนนท์ อิ่มอาบ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และผู้อำนวยการโรงพยาบาลวัดเพลง โดยก่อนฉีดวัคซีนมีการวัดความดัน ซักประวัติตามขั้นตอน จากนั้นจะให้เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนั่งประจำที่ เพื่อรอการฉีดวัคซีน เมื่อฉีดเสร็จแล้วจะให้นั่งพักรอประมาณ 30 นาที เพื่อรอดูอาการผลข้างเคียง โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นสักขีพยานในการฉีดวัคซีนในครั้งนี้ด้วย

ส่วนที่พัทยา บริเวณคลินิคฉีดวัคซีน-19 โรงพยาบาลบางละมุง บุคลากรทางการแพทย์ ที่อายุไม่ถึง 60 ปี ฉีดวัคซีนโควิด-19 ซิโนแวค ซึ่งจัดสรรจากสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี ในลอตแรก จำนวน 1,100 โดส ที่จะฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยแก่ประชาชน ถือเป็นการซ้อมระบบให้พร้อมสำหรับฉีดวัคซีนโควิด-19 แก่ประชาชนต่อไป โดยมีนายแพทย์ชาญชัย ลิ้มธงเจริญ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางละมุง จังหวัดชลบุรี พร้อมด้วยนายสมพล จิตติเรืองเกียรติ สาธารณสุขอำเภอบางละมุง นายแพทย์ธนากร อรุณงามวงศ์ อายุรแพทย์ โรงพยาลบางละมุง ร่วมฉีดและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่สาธารณสุขด่านหน้า ในการรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในครั้งนี้

นายอำนาจ เจริญศรี นายอำเภอบางละมุง เปิดเผยหลังรับวัคซีนโควิด-19 ซิโนแวค ว่าหลังผ่านพ้นไป 30 นาที ตามขั้นตอนการรับวัคซีนโควิด-19 ซิโนแวค อาการก็เหมือนกับการฉีดยาทั่วไป ยังไม่มีผลข้างเคียงแต่อย่างใด สำหรับวัคซีนโควิด-19 ซิโนแวค ที่ทางสาธารณสุขอำเภอบางละมุงได้รับ จำนวน 1,100 โดส จะมีการกระจายให้กับเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ จำวน 550 คน

ส่วนบุคลากรทางการแพทย์ที่มารับวัคซีนโควิด-19 ในวันนี้ได้ผ่านการคัดกรองในเรื่องของโรคร่วม ประวัติการแพทย์ ยา และอายุ ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดเหมือนบุคคลทั่วไป หากบุคลากรทางการแพทย์คนใดมีโอกาสเสี่ยงมีความแพ้รุนแรงก็จะยังระงับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ ซึ่งการฉีควัคซีนลอตแรกที่ได้ 1,100 โดส จะกระจายฉีดให้กับบุคลากรการแพทย์วันละ 110-120 คนต่อวัน จนครบ 550 คน สำหรับการฉีควัคซีนโควิด-19 ซิโนแวค จะเริ่มฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยงที่อยู่ในเกณฑ์ได้ทันทีในลอตนี้เลย

โดยกลุ่มเสี่ยงที่มีความประสงค์จะวัคซีนโควิด-19 ซิโนแวค สามารถลงทะเบียนที่แอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” หรือโทรมาสอบถามโดยตรงที่โรงพยาบาลบางละมุง ในการเข้ารับบริการ ซึ่งทางทีมแพทย์จะทำการนัดวันเวลาการฉีดให้

ส่วนที่เชียงใหม่ วันนี้เริ่มการฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นวันแรก เน้นกลุ่มบุคลากรทางการแทพย์ตามโรงพยาบาลต่างๆ รวมทั้ง อสม. บางส่วนที่ทยอยเข้ารับการฉีดวัคซีนให้ครบ 3,500 โดสแรก โดยส่วนใหญ่ไม่กังวลและมั่นใจในคุณภาพของวัคซีน

ตลอดทั้งวันที่โรงพยาบาลนครพิงค์ เชียงใหม่ มีบุคลากรทางการแพทย์และหัวหน้าหน่วยราชการ รวม 300 คน ทยอยเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 กันอย่างคึกคัก หลังได้รับวัคซีนซิโนแวคลอตแรก 3,500 โดส โดยได้ฉีดวัคซีนเข็มแรกของเชียงใหม่ ให้กับนายแพทย์ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 1 เข็มที่ 2 ฉีดให้นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เข็มที่ 3 นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และเข็มที่ 4 นายแพทย์วรเชษฐ์ เต๋ชะรัก ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพิงค์เชียงใหม่

ถือว่าเป็น 4 คนแรกของเชียงใหม่ ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ซึ่งก่อนเข้ารับการฉีดต้องมีการประเมินสุขภาพก่อนจึงจะได้รับการฉีดวัคซีน และหลังฉีดต้องนั่งประเมินอาการ 30 นาที จึงจะออกจากโรงพยาบาลได้

นายแพทย์ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข วัย 58 ปี ซึ่งได้รับวัคซีนเข็มแรกของเชียงใหม่ บอกว่าไม่ต่างกับการฉีดวัคซีนในโรคอื่นๆ แต่ต้องประเมินสุขภาพก่อน เพราะเป็นวัคซีนใหม่ ซึ่งไม่รู้สึกกังวล และขอให้ประชาชนเชื่อมั่น

เช่นเดียวกับพยาบาลและ อสม. หลายคนที่เข้ารับการวัคซีนเป็นกลุ่มแรกๆ ของเชียงใหม่ แสดงความดีใจที่ไดรับการฉีดวัคซีน ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจได้มากขึ้นในการรับผู้ป่วย

การฉีดวัคซีนครั้งนี้ มีนายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัด เดินทางมาให้กำลังใจผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ด้วย แต่ตัวผู้ว่าฯ เองไม่ได้ฉีด เนื่องจากอายุเกิน 59 ปี ซึ่งเป็นข้อจำกัดการฉีดวัคซีนของซิโนแวค

โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้มอบวัคซีนจำนวน 3,500 โดส ที่เชียงใหม่ได้รับเป็นลอตแรก ให้กับโรงพยาบาลต่างๆ รวม 9 โรงพยาบาล เพื่อนำไปฉีดบุคลากรทางการแพทย์และ อสม. ในแต่ละพื้นที่ ซึ่งจะฉีดได้ 1,750 คน เพราะต้องฉีดคนละ 2 โดส ซึ่งตามแผนในช่วง 3 เดือนนี้ เชียงใหม่จะได้รับวัคซีนมากกว่า 80,000 โดส ซึ่งจะทยอยฉีดให้กับบุคลากรทางการแทพย์และกลุ่มเสี่ยงต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

EOD ลุยค้นหาจรวด หลังชาวบ้านแจ้งเจอต่อเนื่อง

13 ส.ค. – EOD ลุยค้นหา-เก็บกู้จรวดในพื้นที่บุรีรัมย์-ศรีสะเกษ หลังชาวบ้านแจ้งเจอต่อเนื่อง ขณะที่คณะ ICRC ลงพื้นที่เก็บข้อมูลผลกระทบเหตุปะทะ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด EOD ลงพื้นที่ตรวจสอบไร่ยางพาราของชาวบ้านและอีกหลายจุด ในเขต ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบหลุมต้องสงสัยอยู่ในที่ดินของตัวเอง จากการตรวจสอบพบสะเก็ดระเบิด และอีกหลายจุดพบเป็นหลุมคล้ายหลุมจรวด BM21 ที่ตกลงมา เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และต้องใช้ความระมัดระวัง ขณะที่ชาวบ้านที่เพิ่งเข้ามาอยู่บ้าน ยังไม่มั่นใจกับสถานการณ์ โดยเฉพาะหลังมีทหารเหยียบทุ่นระเบิดเป็นรายที่ 5 EOD เร่งตรวจสอบ–กู้ระเบิดกระสุนปืนใหญ่ชายแดน ส่วนที่ศรีสะเกษเจ้าหน้าที่ EOD สนธิกำลัง ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีพบกระสุนปืนใหญ่ตกในเขต ต.เสาธงชัย และ ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดน เบื้องต้นพบ 7 จุด บริเวณสวนยางพาราและใกล้เขตชุมชน โดยส่วนใหญ่เป็นลูกกระสุนปืนใหญ่ขนาด 100 มิลลิเมตร เจ้าหน้าที่ได้ทำการขุดตรวจพิสูจน์ พบว่าหลายลูกระเบิดไปแล้ว เหลือเพียงเศษซาก และยังพบอีก 1 จุดในพื้น […]

อึ้งพระอยู่กับสีกา เปิดบนรถเจอกองทิชชูใช้แล้ว

สกลนคร 13 ส.ค. – วงการผ้าเหลืองฉาวอีก ตำรวจตรวจรถเก๋งคันหนึ่งจอดอยู่ข้างทาง พบพระกับสีกาอยู่ด้วยกัน 2 ต่อ 2 คุยไปคุยมา สุดท้ายไปจบที่ลาสิกขา หลังตำรวจ สภ.ขมิ้น จ.สกลนคร ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน พบรถเก๋งต้องสงสัยสีดำ จอดผิดปกติบริเวณ ริมคลอง บ.พาน ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.สกลนคร เมื่อเข้าไปตรวจสอบ ตำรวจต้องอึ้ง เมื่อเจอพระอยู่กับสีกา 2 ต่อ 2 ในรถ ต่อมาทราบว่า คือ พระชัยณรงค์ อายุ 53 ปี สังกัด วัดแห่งหนึ่ง อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ จึงเชิญตัวไปยังวัดใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เพื่อทำพิธีลาสิกขา และนำตัวมาตรวจปัสสาวะ ผลไม่พบสารเสพติด แต่รถที่พระเเละสีกาดังกล่าวอยู่ด้วยกัน พบเป็นรถที่ถูกสวมทะเบียน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบ คืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยัง สภ.ขมิ้น พบรถเก๋งคันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณสถานที่เก็บของกลาง กระจกด้านข้างและด้านหลังติดฟิล์มดำสนิท แต่ด้านหน้าฟิล์มใสมองเห็นถึงภายใน ที่เบาะนั่งข้างคนขับ ยังพบกองจีวรของทิดชัยณรงค์ […]

สถานการณ์ชายแดนสุ่มเสี่ยงปะทะรอบ 2

สุรินทร์ 13 ส.ค. – กระแสข่าวจากหลายฝ่ายยืนยันตรงกันว่าระยะ 2 วันนี้ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จะเพิ่มความตึงเครียด สุ่มเสี่ยงที่จะมีการปะทะรอบ 2 ฝ่ายปกครอง จ.สุรินทร์ จึงแจ้งเตือนไปยังกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ให้ลูกบ้านเตรียมพร้อมรองรับเหตุฉุกเฉิน ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศ ในหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือน พบว่า หลายครอบครัวเพิ่งกลับเข้าพื้นที่ 1-2 วัน หลังอพยพหนีภัยการสู้รบในห้วงวันที่ 24 – 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ได้รับข่าวไม่สู้ดีนัก เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง แจ้งให้เตรียมความพร้อม เก็บสัมภาระไว้เพื่อรองรับสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงการปะทะ รอบ 2 ซึ่งอาจรุนแรงมากกว่ารอบแรก ทำให้ชาวบ้านหลายคนต่างตื่นตระหนก ต้องการอพยพไปอยู่นอกพื้นที่ แต่เมื่อผู้นำหมู่บ้านทำความเข้าใจ ก็คลายความกังวลลงบ้าง โดยสื่อสารข้อความจากนายอำเภอพนมดงรักว่า รอให้มีเสียงปะทะกันเกิดขึ้นก่อน จึงให้อพยพ ซึ่งชาวบ้านก็เชื่อฟัง เพราะส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าจะอพยพไปที่ไหน เพราะยังไม่มีการเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะที่หญิงคนหนึ่งติดอยู่ในพื้นที่สู้รบ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือนตลอดห้าวัน เพราะเป็นห่วงวัวที่เลี้ยงไว้ จึงอาศัยอยู่ในกระต๊อบพร้อมญาติรวมสี่คน และประเมินสถานการณ์ว่า น่าจะปลอดภัย เพราะวิถีกระสุนไปตกไกลกว่า จึงได้ยินเสียงปะทะอย่างชัดเจน […]

คุมตัว “ลุงพล” ส่งเรือนจำ ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัว

มุกดาหาร 13 ส.ค.- คุมตัว “ลุงพล” ส่งเรือนจำมุกดาหาร ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัวจากศาลฎีกา หลังศาลอุทธรณ์ตัดสินจำคุก 26 ปี คดีน้องชมพู่ จากกรณีศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาเพิ่มโทษให้จำคุก “ลุงพล” 26 ปี ฐานเจตนาฆ่าเด็ก พรากผู้เยาว์ และอำพรางศพ ขณะที่ “ป้าแต๋น” พิพากษายืนยกฟ้อง ในคดีฆาตกรรม น้องชมพู่ ทั้งนี้ภายหลัง ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ “ลุงพล” ได้ยื่นขอประกันตัว โดยศาลจังหวัดมุกดาหาร เสนอไปยังศาลฎีกา ล่าสุด ช่วงเย็นที่ผ่านมา ศาลฎีกายังไม่มีคำตอบลงมาว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ ทำให้ “ลุงพล” ถูกคุมตัวไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัวจากศาลฎีกา ย้อนไปคดีนี้ เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2563 น้องชมพู่ วัย 3 ขวบ หายไปจากบ้านพักภาย ในหมู่บ้านกกกอก ทำให้ชาวบ้านมากกว่า 200 ชีวิต รวมถึง ตัวลุงพล ช่วยกันออกตามหา […]