กรุงเทพฯ 24 ก.พ. -คนไทยส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าตนเองอยู่ในกลุ่มระยะใด ตามนโยบายฉีดวัคซีน แต่เกือบครึ่งมีความหวังว่าการฉีดวัคซีนจะทำให้วิถีการดำเนินชีวิตกลับมาเป็นปกติโดยเร็ว และส่วนใหญ่อยากฉีดวัคซีน โดยจะขอดูผลข้างเคียงของคนที่ฉีดไปแล้วก่อน
กรุงเทพโพลล์ โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “คนไทยกับการฉีดวัคซีนโควิด 19” โดยเก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน1,258 คน ระหว่างวันที่ 15-17 กุมภาพันธ์ 2564 พบว่า ประชาชนร้อยละ88.0 ไม่ทราบ/ไม่แน่ใจว่าตนเองอยู่ในกลุ่มต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 ในระยะใดตามนโยบายฉีดวัคซีน ขณะที่ร้อยละ 6.5 อยู่ในกลุ่มนโยบายระยะที่ 1 กุมภาพันธ์–พฤษภาคม 2564 ใน 10 จังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและร้อยละ 5.5 อยู่ในกลุ่มนโยบายระยะที่ 2 มิถุนายน – ธันวาคม 2564
เมื่อถามว่าหากได้สิทธิในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ท่านจะฉีดหรือไม่ ร้อยละ 68.7 คิดว่าจะฉีด โดยในจำนวนนี้ร้อยละ 54.1 จะดูผลข้างเคียงของคนที่ฉีดไปแล้วก่อน ส่วนร้อยละ14.6 จะฉีดทันทีเพราะกลัวติดโควิด–19 ขณะที่ร้อยละ 31.3 คิดว่าจะไม่ฉีด เพราะกลัวมีผลข้างเคียงต่อร่างกายร้อยละ 16.8 ให้เหตุผลว่ากลัวมีผลข้างเคียงต่อร่างกาย และ คิดว่าตัวเองไม่มีความเสี่ยงที่จะติด ร้อยละ 14.5
ส่วนความกังวลเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 พบส่วนใหญ่ร้อยละ 69.1 กังวลผลกระทบหลังการรับวัคซีนต่อภูมิต้านทานและสุขภาพร่างกาย รองลงมาร้อยละ 42.8 กังวลว่าวัคซีนผ่านมาตรฐานการรับรองหรือไม่ ปลอดภัยหรือไม่ และร้อยละ 27.2 กังวลว่าราคา ค่าใช้จ่ายแพงในการฉีดวัคซีน หากไม่มีการควบคุมจากภาครัฐ
สำหรับความหวังหลังจากการฉีดวัคซีนโควิด – 19 ในประเทศไทยพบว่า ประชาชนร้อยละ 47.9 หวังว่าวิถีการดำเนินชีวิตประชาชนจะกลับมาเป็นปกติโดยเร็ว รองลงมาร้อยละ 22.5 หวังว่าจะช่วยปกป้อง/สร้างภูมิคุ้มกัน ให้ประชาชน และร้อยละ 18.8 หวังว่าจะเกิดการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจให้ปกติ เร็วที่สุด
สุดท้ายคำถามเพิ่มเติมที่อยากฝากถามเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนโควิด – 19 พบว่า กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 31.6 ฝากถามว่ากลุ่มใดบ้างที่ควรฉีดและไม่ควรฉีดวัคซีนโควิด – 19 เช่น กลุ่มเด็ก กลุ่มสตรีมีครรภ์ รองลงมาร้อยละ 23.2 ฝากถามว่าวัคซีนที่ได้รับจะคุ้มครองได้นานแค่ไหน ต้องฉีดเพิ่มหรือไม่ และร้อยละ 19.9 ฝากถามว่าการฉีดวัคซีนมีค่าใช้จ่ายหรือไม่ .-สำนักข่าวไทย