สบส.เตรียมแจ้งความคลินิกดูดไขมันทำหญิง 54 ปีเสียชีวิต

กรุงเทพฯ 23 ก.พ.- กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือ สบส.เตรียมแจ้งความดำเนินคดีคลินิกเสริมความงามในซอยรามคำแหง 24 หลังหญิงวัย 54 ปี เสียชีวิต ขณะรับบริการดูดไขมันย่านรามคำแหง


ความคืบหน้าในเรื่องนี้ หลัง นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือ สบส. ลงพื้นที่ตรวจสอบใบจดแจ้งสถานประกอบคลินิกเวชกรรม และผู้เป็นเจ้าของ รวมถึงผู้ที่ดำเนินการดูดไขมันผู้เสียชีวิต ว่ามีประกอบวิชาชีพแพทย์ถูกต้องหรือไม่ เบื้องต้นพบคลินิกแห่งนี้เปิดให้บริการประเภท ไม่รับผู้ป่วยค้างคืน อาคารคลินิกมี 3 ชั้น ชั้นล่างเป็นเคาน์เตอร์ต้อนรับ ชั้น 2 ให้บริการเรื่องความงาม และเก็บอุปกรณ์ยา ส่วนชั้น 3 เป็นห้องผ่าตัดขนาดเล็ก ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานตามที่ขออนุญาต และมีการขออนุญาตจัดทำห้องผ่าตัดขนาดเล็ก แต่ส่วนในห้องผ่าตัดที่เกิดเหตุ พบเจ้าหน้าที่ได้นำอุปกรณ์วัดสัญญาณชีพ เครื่องฟื้นคืนชีพไปเป็นพยานหลักฐานทางคดี

และเปิดบริการไม่ตรงกับเวลาที่ขออนุญาต คือช่วงเวลา 17.00-20.00 น. แต่เจ้าหน้าที่ทราบว่าคลินิกให้บริการเวลา 12.00-14.00 น. ทาง สบส.เตรียมไปแจ้งความในฐานดำเนินการประกอบกิจการสถานพยาบาลไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล 2541 โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่จะยังไม่สั่งปลดสถานประกอบการ เพราะยังไม่ใช่ข้อหาร้ายแรง นอกจากนี้ ทาง สบส.จะทำหนังสือเชิญหมอที่ดำเนินการหัตถการมา ให้ข้อมูลกับแพทย์สภา เพื่อพิจารณาว่าดำเนินการตามมาตรฐานวิชาชีพหรือไม่ ซึ่งได้รับการบอกเล่าว่า หมอที่ทำการหัตถการ ได้พยายามช่วยฟื้นคืนชีพแล้ว แต่ไม่สำเร็จ


ขณะที่ลูกผู้เสียชีวิตตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใดคลินิกถึงไม่ส่งแม่ไปโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน ทางคลินิกชี้แจงว่า อยู่ในขั้นตอนระหว่างการส่งต่อ ซึ่งอาการผู้เสียชีวิตขณะนั้นไม่เหมาะกับการเคลื่อนย้ายเอง ส่วนปัจจัยที่ส่งผลให้ผู้เสียชีวิตระหว่างการดูดไขมันนั้น มองว่า การดูดไขมันเป็นหัตถการรักษาที่มีความเสี่ยงตั้งแต่การใช้ยา เพื่อลดความเจ็บปวด เพราะยาบางชนิดอาจทำให้ความดันตก หรือเกิดจากการใช้เครื่องมือสอดเข้าไป หากดูดไขมันออกในปริมาณมากและรวดเร็ว อาจทำให้ร่างกายช็อกได้

ขณะด้านของคดี ตำรวจ สน.หัวหมาก ได้เชิญแพทย์ ผู้ช่วยแพทย์ และพยาบาลที่อยู่ในคลินิกเข้าสอบปากคำไปแล้วทั้งสิ้น 6 ปาก

ยังไม่เผาศพจนกว่าผลนิติวิทยาศาสตร์ออก


บรรยากาศในงานสวดพระอภิธรรมศพ ผู้เสียชีวิตจากเหตุดูดไขมัน ที่วัดบำเพ็ญเหนือ เมื่อคืนนี้เป็นคืนที่ 2 มีกำหนดสวด เป็นเวลา 4 วัน ก่อนที่จะนำกลับไปสวดพระอภิธรรมที่บ้านเกิด จ.นครศรีธรรมราชอีก 3 วัน ก่อนจะเก็บร่างไว้จนกว่าผลชันสูตรทางนิติวิทยาศาสตร์จะออกมา โดยลูกสาวของผู้เสียชีวิต ยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับทางคลินิก และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตจนถึงที่สุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก