กรุงเทพฯ 20 ก.พ. – สถาบันวัคซีนแห่งชาติ เผยวัคซีนที่ประเทศไทยจัดหาในระยะแรก ทั้งแอสตราเซเนกา และซิโนแวค มีผลการศึกษาด้านคุณภาพ ประสิทธิภาพ และความปลอดภัย เป็นไปตามมาตรฐานสากล ผ่านข้อกำหนดขององค์การอนามัยโลก หลังการใช้ในวงกว้างไม่พบอาการข้างเคียงรุนแรง
นายแพทย์นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เผยวัคซีนโควิด-19 ที่ประเทศไทยจัดหาในระยะแรก 2 ชนิด ทั้งจากแอสตราเซเนกา และซิโนแวค เป็นวัคซีนที่ผลิตด้วยกระบวนการที่มีการควบคุมคุณภาพอย่างเคร่งครัด มีผลการศึกษาในด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยเป็นไปตามหลักการสากล ผลการศึกษาประสิทธิภาพของวัคซีนทั้งสองผ่านเกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลกกำหนด (Target Product Profile) และเป็นที่ยอมรับจากหน่วยงานควบคุมกำกับในหลายประเทศทั่วโลก ล่าสุดวัคซีนจากแอสตราเซเนกาได้รับการรับรอง Emergency Use Listing (EUL) จากองค์การอนามัยโลกแล้ว เช่นเดียวกับวัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
โดยวัคซีนของแอสตราเซเนกา ปัจจุบันมียอดจองสูงสุดกว่า 2,700 ล้านโดส ได้รับอนุญาตให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินใน 43 ประเทศทั่วโลก และเป็นวัคซีนส่วนใหญ่ที่ COVAX Facility จะกระจายให้กับกลุ่มประเทศกลุ่มรายได้ต่ำและรายได้ปานกลางค่อนข้างต่ำ ภายหลังการใช้วัคซีนในวงกว้างยังไม่พบเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่รุนแรง นอกจากนี้ที่ประชุมผู้เชี่ยวชาญองค์การอนามัยโลกเพื่อออกคำแนะนำการใช้วัคซีนของแอสตราเซเนกา ไม่ได้ห้ามใช้วัคซีนในผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป ระบุว่ากลุ่มทดสอบอายุ 65 ปีขึ้นไป ยังมีจำนวนน้อย และพบการใช้วัคซีนมีประสิทธิผลในการลดอาการเจ็บป่วยที่รุนแรงได้ โดยแนะนำให้มีระยะห่างของการฉีดที่ 8-12 สัปดาห์ จะได้ประสิทธิภาพของวัคซีนดีที่สุด
นายแพทย์จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 หรือโควิด-19 ในประเทศไทยว่า สัปดาห์นี้มีผู้ติดเชื้อใน 19 จังหวัด รวม 918 ราย และอีก 58 จังหวัดไม่มีรายงานติดเชื้อเพิ่ม สำหรับผู้ติดเชื้อในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) วันนี้พบ 1 ราย เป็นผู้ช่วยพยาบาล อย่างไรก็ตาม ต้องสอบสวนต่อว่ามีความเกี่ยวพันเชื่อมโยงกับผู้ป่วยที่มารักษาในโรงพยาบาลมากน้อยอย่างไร
ภาพรวมสมุทรสาครเริ่มลดลง ติดเชื้อแต่ละวันไม่เกิน 100 ราย ถือว่าควบคุมโรคได้พอสมควร กทม. สัปดาห์นี้ติดเชื้อวันละไม่เกิน 10 ราย ส่วนปทุมธานี ยังมีรายงานต่อเนื่อง สัปดาห์นี้รายงานเข้ามาค่อนข้างมาก จากการระบาดของตลาดพรพัฒน์ ตลาดสุชาติ และชุมชนรอบข้างด้วย ดังนั้น ผู้ที่เคยไปซื้อของตลาดพรพัฒน์ เพื่อไปขายต่อหรือกลับบ้าน ช่วยดูแลตัวเองด้วยการสวมหน้ากากตลอดเวลา ช่วงนี้กักตัวที่บ้าน 14 วัน อย่าเพิ่งออกมาพบปะคนจำนวนมาก เพื่อลดเสี่ยงแพร่โรคคนอื่นต่อ
นพ.จักรรัฐ กล่าวว่า วัคซีนโควิด-19 จำนวน 200,000 โดสแรก จากบริษัทซิโนแวค ประเทศจีน จะฉีดกลุ่มเสี่ยง 100,000 คนก่อน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ประเด็นสำคัญคือฉีดแล้วจะช่วยป้องกันไม่ให้ป่วย หรือป่วยรุนแรง ลดเสี่ยงเสียชีวิต แต่ยังมีข้อมูลไม่มากพอว่าป้องกันการแพร่เชื้อได้ ดังนั้น แม้ฉีดวัคซีนแล้วยังต้องป้องกันตนเองไม่ให้ติดเชื้อหรือแพร่เชื้อต่อได้ ด้วยการสวมหน้ากากอนามัย เพราะหากติดเชื้อและแพร่ต่อไปสู่คนมีโรคประจำตัวกลุ่มเสี่ยงต่างๆ อาจป่วยรุนแรงและเสียชีวิตได้.-สำนักข่าวไทย