สธ. 8 ก.พ.- อนุทิน แนะคนไม่เกี่ยวข้องวัคซีนโควิดเงียบเถอะ เพราะไม่ใช่หมอ วิจารณ์มากทำเสียกำลังใจ แจงขณะนี้มีวัคซีนหลายเจ้าเข้ามาเจรจา โวพรุ่งนี้คุยกับรัสเซีย เรื่องวัคซีน ขณะนี้ ผอ.สถาบันวัคซีน ย้ำเทคโนโลยีไวรัลเวกเตอร์ เหมาะกับไทย พร้อมอธิบาย2-3 เดือนนี้ เชื่อความต้องการวัคซีนทั่วโลก อาจทำให้วัคซีนไม่เพียงพอ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 2/ 2564 ว่า สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความล่าช้าการจัดซื้อจัดหาวัคซีนโควิด -19 ยืนยันว่าไทยไม่ได้ช้า และไม่ขี่ม้าตัวเดียว ไม่ได้ทำอะไร ที่อยู่นอกกรอบหรือกฎหมาย
การพิจารณาเรื่องของวัคซีนทำโดยผู้เชี่ยวชาญนักวิชาการ ไม่มีเรื่องของการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง หรือกดดัน โดยมีคณะกรรมการโรคติดต่อเป็นผู้พิจารณา และให้อิสระอย่างเต็มที่ คนที่มาพิจารณาล้วนเป็นหมอเป็นนักวิชาการ ไม่ใช่เป็นใครก็ได้ การตัดสินของคณะกรรมการ ฯแม้แต่นายกฯ และรองนายกฯ ก็เปลี่ยนการตัดสินไม่ได้ คนที่อ่านจากข่าวและประมวลผลเองก็ขอให้อยู่เฉยๆ ไม่ใช่หมอ ก็ขอให้สงบปากสงบคำ เพราะยิ่งพูดยิ่งบั่นทอนกำลังใจ และยิ่งแต่จะทำให้ผู้คนสับสนอลหม่าน อย่างไรก็ตามวัคซีนโควิดจะได้รับตามกรอบเดือนก.พ.
นายอนุทิน กล่าวว่า การเจรจาสั่งซื้อวัคซีนโควิดที่ผ่านมา ยอมรับว่าเดิมไปขอสั่งซื้อในตอนแรก ที่เริ่มมีสถานการณ์การระบาดก็ไม่ได้รับความสนใจจากผู้ผลิต แต่เมื่อไทยมีการสั่งซื้อวัคซีนโควิดแอสตราฯแล้ว เริ่มทำให้มีบริษัทผู้ผลิตวัคซีนหลายเจ้า สนใจไทยเข้ามาพูดคุยมากขึ้น ทั้งไฟเซอร์ โมเดิร์นนา และล่าสุดบริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน แต่บางบริษัท ไทยไม่สามารถรับเงื่อนเวลาได้ เนื่องจากกว่าจะได้รับวัคซีน ก็ได้ช่วงไตรมาส 3 เท่ากับรอบการผลิตที่จะได้จากการผลิตของแอสตราเซเนกา ที่ผลิตในไทยอยู่แล้ว ถ้ามีความจำเป็นก็สั่งได้ แต่การสั่งซื้อก็ต้องให้เกิดประโยชน์สูงสุด ที่ผ่านมาไม่เคยปิดกั้นใครหรือภาคเอกชน เปิดโอกาสให้เข้ามาพูดคุยตลอด โดยวันที่ 9 ก.พ. จะมีการหารือ กับทางการรัสเซียด้วย
นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กล่าวว่า วัคซีนแอสตราฯ จำนวน 50,000 โดส เป็นวัคซีนล็อตเสริม แต่ติดปัญหาเรื่องปัจจัยภายนอกจากต่างประเทศ ส่วนกรอบและแผนการดำเนินการเรื่องวัคซีนที่การผลิตในประเทศ ยังคงเดิมในราวเดือนพ.ค. แต่ต้องขอระยะเวลาการทำงานอีกระยะหนึ่ง โดยคณะทำงานยังไม่ได้หยุดเรื่องของการจัดหาวัคซีน แต่อย่างไรก็ตามคาดว่าภายใน 2-3 เดือนข้างหน้า เชื่อว่ากำลังการผลิตวัคซีนทั้งโลก ยังไม่เพียงพอ ความต้องการวัคซีนยังคงต้องการต่อเนื่อง เนื่องจากบางประเทศเริ่มมีการฉีดวัคซีนแล้วและการผลิตจะเป็นลักษณะค่อยๆ ทยอยต่อเนื่อง แต่ว่าเชื่อว่าประสิทธิภาพของวัคซีนหลังฉีดจะยังไม่เห็นผลทันที แต่จะทำหน้าที่แค่ควบคุมโรคพื้นที่เท่านั้น เพราะว่าหาก เราฉีดวัคซีน 1-2 ล้านโดส ฉีดแค่ในพื้นที่มีการระบาดในวงจำกัดก็เห็นผล แต่หากฉีดในพื้นที่ที่มีประชากร 250 ล้านคน หรือ จำนวนมาก ก็อาจไม่เห็นผล ในกรณีการระบาดในวงกว้าง ฉะนั้นบริบทของแต่ละประเทศแตกต่างกัน ทางคณะกรรมการฯ พยายามหาวัคซีนก็อยู่บนบริบทของประเทศไทย
นพ.นคร กล่าวด้วยว่า อย่าไปกังวลที่ว่าประเทศนั้นประเทศนี้ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว จะเห็นว่าเป็นได้จำนวนไม่มากนัก ย้ำการพิจารณานำเข้าวัคซีน มีการพิจารณาครอบคลุมถึงเรื่องเทคโนโลยีการผลิตด้วย โดยพบว่าวัคซีนที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีไวรัสเวกเกอร์ มีความเหมาะสมและเข้ากับบริบทของประเทศและมีความปลอดภัยสูง และอย่าไปกังวลว่า วัคซีน 61 ล้านโดสอาจไม่เพียงพอ เพราะต้องดูปัจจัยหลายอย่าง ขณะนี้กำลังอยู่ในภาวะไม่ปกติ และมีความแปรผันเรื่องภาวะการณ์ฉุกเฉิน และทุกอย่างต้องอาศัยเวลา .-สำนักข่าวไทย