บอร์ดผู้สูงอายุเสนอชะลอเรียกเก็บคืนทุกเคส

พม.5 ก.พ.- บอร์ดผู้สูงอายุแห่งชาติ มีมติตั้งคณะทำงานพิจารณาปรับปรุงระเบียบกฏหมายผู้สูงอายุได้สิทธิซ้ำซ้อน พร้อมให้ความเห็นเสนอ ครม.พิจารณาหาแนวทางแก้ปัญหา และขอให้ชะลอการเรียกเก็บคืนทุกเคสที่มีปัญหาไว้ก่อน

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติครั้งที่ 1/2654 โดยมีวาระมาตรการแก้ปัญหากรณีการเรียกคืนเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจำนวนมากในหลายจังหวัด เนื่องจากได้รับเงินบำนาญพิเศษอยู่เดิมทำให้ได้รับสวัสดิการของรัฐทับซ้อน ซึ่งมีผู้สูงอายุ 15,323 คนทั่วประเทศต้องถูกเรียกคืนเงินดังกล่าว โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ส่วนของของ พม.มี น.ส.นริศรา อดิเทพวรพันธุ์ ประจำเลขาธิการสำนักนายกรัฐมนตรี มาเป็นตัวแทน รมว.พม.เข้าร่วมประชุม โดยมี นางสุจิตรา พิทยานรเศรษฐ์ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ เข้าชี้แจงรายละเอียดหลักเกณฑ์ต่างๆ/

นายจุรินทร์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมกว่า 3 ชั่วโมง ว่า ที่ประชุม มีมติให้นำข้อสรุปความเห็นจากการประชุมวันนี้
1.ให้เสนอคณะรัฐมนตรีขอให้ชะลอการเรียกเงินซ้ำซ้อนคืนไว้ก่อน
2.เสนอ ครม.ให้พิจารณาแนวทางการแก้ปัญหาผู้ที่ได้รับเบี้ยผู้สูงอายุซ้ำซ้อนและหาทางเยียวยาผู้ที่ถูกเรียกเงินคืนไปแล้ว ทั้งผู้ที่ได้รับสิทธิโดยสุจริตรวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้อง
3.ที่ประชุมมีมติตั้งคณะทำงาน 1 ชุด ให้เป็นคณะอนุกรรมการปรับปรุงระเบียบกฎหมายให้ดำเนินการพิจารณาเรื่องสิทธิซ้ำซ้อนว่ามีกลุ่มใดบ้าง ที่ควรได้รับเงินทั้ง 2 สิทธิ ทั้งเงินที่ได้สิทธิสวัสดิการพิเศษต่าง ๆ และเบี้ยผู้สูงอายุ โดยเบื้องต้น ได้นำมติของผู้ตรวจการแผ่นดินที่ให้ดำเนินการกลุ่มที่ได้รับเงินบำนาญพิเศษ ที่เห็นควรว่าก็ควรได้รับเงินเบี้ยผู้สูงอายุด้วยตามสิทธิประโยชน์ด้วย เพระาเป็นคนละส่วนกัน

โดยข้อมูลจากกระทรวงมหาดไทยระบุว่ามีผู้รับเงินทับซ้อนและดำเนินการคืนเงินมาแล้ว 6,731 คน และมีที่อยู่ระหว่างดำเนินการ 5789 คน ซึ่งได้มีการแจ้งไปที่องค์การปกครองท้องถิ่นทั่วประเทศแล้วว่าให้ชะลอการดำเนินการไว้ก่อน จนกว่าครม.จะมีมาตรการมาแก้ไขปัญหาและเยียวยา

โดยมีการระบุถึงสาเหตุที่ต้องนำเรื่องเข้าครม.เพราะเป็นเรื่องที่มีรายละเอียดมาก เกี่ยวข้องกับกฎหมายของหลายกระทรวงและมีรายละเอียดสิทธิประโยชน์ที่มีถึง 24 ประเภท ต้องมีการดูรายละเอียดเป็นรายกรณีไปว่าควรจะได้รับเงินทั้ง 2 สิทธิหรือไม่และที่คืนมาแล้วก็ต้องได้รับการเยียวยาอย่างไร แต่เบื้องต้นที่มีปัญหามากที่เจอคือถูกเรียกคืนคือกลุ่มผู้สูงอายุที่ได้รับเงินบำนาญพิเศษจากการที่บุตรเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่

โดยระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องมีทั้ง
-ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นปี2552 ซึ่งที่มีปัญหาต้องแก้ไขบางข้อที่ระบุห้ามรับเงินซ้ำซ้อน
-ระเบียบคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุปี 2552 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมปี 2561
-และตามกฎหมายพรบ.ผู้สูงอายุ ปี2546

รองนายกรัฐมนตรี ยังย้ำว่านอกจากการเร่งแก้ปัญหาและเยียวยาแล้วจะ ต้องมีแนวทางการปรับหลักเกณฑ์ระเบียบต่าง ๆ ให้ไม่เกิดปัญหาอีกในอนาคตด้วย อย่างไรก็ตามที่ประชุมวันนี้ไม่มีการระบุถึงกรอบระยะเวลาทำงานของคณะทำงานที่ตั้งขึ้นแต่อย่างใด บอกเพียงจะเร่งนำเข้าครม.-สำนักข่าวไทย