“สรยุทธ” ได้พักโทษ 14 มี.ค.นี้

ลาดยาว 2 กพ.-“สรยุทธ” ได้พักโทษเตรียมออกจากเรือนจำ 14 มี.ค.นี้ ใส่กำไลอีเอ็ม คุมประพฤติต่อ เผยมีนักโทษครบเกณฑ์เตรียมพิจารณาพักโทษอีกเดือน ก.พ.นี้ 7,000 คน

นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า คณะกรรมการพิจารณาพักการลงโทษได้ประชุมพิจารณาผู้ต้องขังที่เข้าเกณฑ์ได้รับการพักโทษ โดยในรอบมกราคมที่ผ่านมามีผู้ต้องขังเข้าเกณฑ์ได้รับพิจารณา 500 คน ในจำนวนนี้มีนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ต้องขังในคดีบริษัทไร่ส้ม โกงค่าโฆษณา ของอสมท เสียหายกว่า 138 ล้านบาท เข้าเกณฑ์ได้รับการพักโทษเป็นกรณีพิเศษ และจะได้ออกจากเรือนจำในวันที่ 14 มี.ค.นี้ ขณะนี้นายสรยุทธได้ผ่านการอบรมโครงการโคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวังก่อนออกจากเรือนจำ และหากปล่อยตัวแล้วก็จะต้องติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (กำไลอีเอ็ม) รวมทั้งต้องรายงานตัวกับพนักงานคุมประพฤติกำหนด


อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กกล่างอีกว่า ปัจจุบัน มีผู้ต้องขังในเรือนจำ 320,000 คนทั่วประเทศ ต่อจำนวนผุ้คุมหมื่นคน ซึ่ง มาตรการพักโทษเป็นหนึ่งในมาตรการลดความแออัดในเรือนจำ ที่จากเดิมมีมากถึง380,000 คน และใน วันที่ 11 ก.พ.นี้ คณะกรรมการจะประชุมอีกครั้ง เพื่อพิจารณาผู้ต้องขังที่เข้าเกณฑ์ได้รับการพักโทษอีกจำนวน 7,000 คน ซึ่งจำนวนนี้ไม่ใช่ทุกคนจะได้รับการพักโทษ โดยหากผู้ต้องขังลดลงเหลือ 300,000คนจะเป็นจำนวนที่ดูแลได้เหมาะสม

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันกรมราชทัณฑ์ ได้รวบรวมข้อมูลผู้ต้องขังที่มีประวัติก่อคดีร้ายแรง หรือผู้ต้องขังที่เข้าข่ายป่วยทางจิต ที่มีประมาณ 29,000 คน เพื่อติดตามดูแลใกล้ชิด และให้นักจิตวิทยาคลินิกทำการคัดกรอง และประสานกับกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เพื่อแจ้งให้ทราบว่ามีผู้ต้องขังกลุ่มนี้พ้นโทษกลับไปอยู่ภูมิลำเนาแล้ว เพื่อให้สอดส่องดูแลพฤติกรรม และพร้อมให้ข้อมูลกับตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวขัง เพื่อป้องกัน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]