สธ. 29 ม.ค.-สธ.แจงอัตราฉีดวัคซีนในประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ได้ล้ำกว่าไทย เพราะแต่ละประเทศที่ฉีดมีแค่สิงคโปร์ ร้อยละ 2 อินโดนีเซียร้อยละ 0.14 เมียนมาร้อยละ0.13 ขณะที่สัดส่วนหญิงป่วยมากกว่าชายถึงร้อยละ 60
นพ.เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กล่าวว่า วันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 802 คน จำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 781 คน ส่วนใหญ่ พบจากการปูพรมค้นหาเชิงรุกจังหวัดสมุทรสาคร ส่วนอีก 21 คน พบเป็น ผู้ติดเชื้อเดินทางมาจากต่างประเทศ ตัวเลขผู้ป่วยสะสมของไทยขณะนี้รวม 17,023 คน ส่วนใหญ่12,786 คน อยู่ในการระบาดระลอกใหม่ ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.63-29 ม.ค.64 จำแนกเป็นคนไทยร้อยละ 35.96 เมียนมา ร้อยละ 57.52 กัมพูชา ร้อยละ 1.07 และอื่นๆ อีก ร้อยละ 5.45
ทั้งนี้ จากการดูข้อมูลการระบาดในระบาดใหม่นี้ พบอัตราการป่วยเพศหญิงมากกว่าชายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดสัดส่วนเพศหญิงป่วยร้อยละ 60 จากเดิมร้อยละ 30 ย้ำปัจจัยเสี่ยงมาจากความใกล้ชิด ทั้งในที่อยู่อาศัยงานเลี้ยงสังสรรค์ ยิ่งอยู่ใกล้ชิดกันนาน โอกาสแพร่กระจายเชื้อสูงมาก อย่างกรณีที่เกิดกับการจัดงานปาร์ตี้วันเกิดในโรงแรม 2 แห่ง ซึ่งรวมถึงงานของดีเจชื่อดังที่พบผู้ติดเชื้อยืนยันถึง 29 คน และยังไม่พ้นระยะเฝ้าระวังกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยง ซึ่งอาจมีตัวเลขขยับขึ้นได้ ดังนั้น ขออย่าคิดว่าตัวเองแข็งแรงแล้วสามารถรวมกลุ่มได้
ส่วนกรณีเคสป่วยโควิดที่ไอคอนสยาม พบว่า มีผู้ป่วยแค่ 7 คน จากพนักงานสมัครใจทั้งหมด 200 คน ในจำนวนนี้ไม่ใช่ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงแต่เป็นการค้นหาเชิงรุก ด้วยความสมัครใจ
สำหรับเรื่องการฉีดวัคซีนที่หลายคนสงสัยว่าไทยดำเนินการช้าไปหรือไม่ นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า ในเอเชียขณะนี้มี 3 ประเทศที่ฉีดวัคซีนก่อนไทย คือสิงคโปร์ ฉีดไปร้อยละ 2 ของประชากร อินโดนีเซีย ร้อยละ 0.14 และเมียนมา ร้อยละ 0.13 เท่านั้น ดังนั้นจึงไม่ถือว่า มีการฉีดจำนวนมากกว่าไทย เพราะหากวัคซีนของไทย มาตามกรอบก็ฉีดทันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย